วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วิชาพุทธประวัติ นักธรรมชั้นตรี 2548

ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันอาทิตย์ ที่  ๒๐  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘


   ๑.  ประชาชนในชมพูทวีปแบ่งออกเป็นกี่วรรณะ ?  อะไรบ้าง ? มีหน้าที่ต่างกันอย่างไร ?

   ๑.  แบ่งออกเป็น ๔ วรรณะ คือ

             ๑. กษัตริย์ มีหน้าที่ปกครอง

             ๒. พราหมณ์ มีหน้าที่ทางฝึกสอนและทำพิธี

             ๓. แพศย์ มีหน้าที่ทางทำนาค้าขาย

             ๔. ศูทร มีหน้าที่รับจ้าง ฯ

   ๒.  ในวันเสด็จแรกนาขวัญ พระเจ้าสุทโธทนะบังคมสิทธัตถราชกุมารผู้ประทับนั่งใต้

        ต้นหว้า เพราะเหตุไร ?

   ๒.  เพราะทรงเห็นอัศจรรย์ในขณะที่สิทธัตถราชกุมารประทับนั่งใต้ต้นหว้า เงาของ

        ต้นหว้าไม่คล้อยไปตามตะวัน แม้จะเป็นเวลาบ่ายแล้ว ยังดำรงอยู่เสมือน

        เที่ยงวัน ฯ

   ๓.  พระมหาบุรุษเสด็จออกบรรพชา เพราะทอดพระเนตรเห็นอะไร ?  และเมื่อเห็น

        แล้วทรงพระดำริอย่างไร ?

   ๓.  เพราะทอดพระเนตรเห็นเทวทูต ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ ฯ 

        ทรงพระดำริว่า บุคคลทั่วไปเมาอยู่ในวัย ในความไม่มีโรค และในชีวิต ถูก

        ความเจ็บ ความแก่ ความตายครอบงำ ไม่ล่วงพ้นไปได้ ถึงพระองค์เองก็มี

        อย่างนั้นเป็นธรรมดา ควรแสวงหาอุบายเครื่องพ้น ธรรมดาสภาวะทั้งปวงย่อมมี

        ของที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามแก้กัน เช่นมีร้อนก็ต้องมีเย็นแก้ มีมืดก็ต้องมีสว่างแก้ 

        แต่ฆราวาสเป็นที่คับแคบ ดุจเป็นทางที่มาแห่งธุลี บรรพชาเป็นช่องว่าง พอที่

        จะแสวงหาอุบายนั้นได้ จึงน้อมพระทัยไปในบรรพชา ฯ

   ๔.  พระญาณที่เกิดขึ้นแก่พระมหาบุรุษในวันที่ตรัสรู้นั้น คืออะไรบ้าง ?

   ๔.  คือ

              ๑. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ   ญาณเป็นเครื่องระลึกถึงชาติหนหลังของ

                 พระองค์ได้

              ๒. จุตูปปาตญาณหรือทิพพจักขุญาณ ญาณหยั่งรู้การจุติและการเกิดของ

                 สัตว์ทั้งหลายที่เป็นไปตามกรรม

              ๓. อาสวักขยญาณ ญาณเป็นเหตุสิ้นอาสวะอันหมักหมมอยู่ในจิตตสันดาน ฯ

   ๕.  อนุปุพพีกถา คืออะไรบ้าง ?  ทรงแสดงแก่ใครเป็นครั้งแรก ?

   ๕.  คือ ทาน ศีล สวรรค์ กามาทีนพ และเนกขัมมานิสงส์ ฯ แก่ยสกุลบุตร ฯ 

   ๖.  ในวันจาตุรงคสันนิบาต พระศาสดาทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่ใคร ?  ที่ไหน ? 

        ทรงยกธรรมข้อใดขึ้นแสดงเป็นข้อต้น ?

   ๖.  ทรงแสดงแก่พระอรหันตขีณาสพ จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ ฯ ณ เวฬุวนาราม

        แคว้นมคธ ฯ  ทรงยกธรรมข้อขันติขึ้นแสดงเป็นข้อต้น ฯ

   ๗.  พระปัจฉิมโอวาท มีใจความว่าอย่างไร ?  ทรงประทานที่ไหน ?

   ๗.  มีใจความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราผู้พระตถาคตเตือนท่านทั้งหลายให้รู้

       สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวง

        อันเป็นประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด ฯ

        ณ สาลวโนทยาน กรุงกุสินารา แคว้นมัลละ ฯ

ศาสนพิธี

   ๘.  ศาสนพิธี คืออะไร ?  ผู้ที่ได้เรียนรู้แล้วได้รับประโยชน์อย่างไรบ้าง ?

   ๘.  คือ แบบอย่าง หรือแบบแผนต่าง ๆ ที่พึงปฏิบัติในทางพระศาสนา ฯ  ย่อมได้รับ

        ประโยชน์ คือ เป็นผู้ฉลาดในพิธีกรรมที่เกี่ยวด้วยการบำเพ็ญกุศล การทำบุญ

        และการถวายทาน สามารถในการจัดพิธีต่างๆ ได้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผน

        ชื่อว่าเป็นผู้รักษาขนบประเพณีอันงดงามของพระพุทธศาสนาไว้ได้ด้วย ฯ

   ๙.  วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันอะไรทางจันทรคติ ?  มีความสำคัญอย่างไร ?

   ๙.  ตรงกับวันเพ็ญเดือน ๘ ก่อนวันเข้าปุริมพรรษา ๑ วัน ฯ มีความสำคัญ เพราะเป็น

        วันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตน-

        มฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ในปีที่ตรัสรู้ใหม่ และผลของการแสดงพระ

        ธรรมเทศนากัณฑ์นี้ เป็นเหตุให้พระโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม และทูลขอ

        บรรพชาอุปสมบท เป็นพระอริยสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา จึงเป็นวันที่มี

        รัตนะครบ ๓ บริบูรณ์ เรียกว่าพระรัตนตรัย ฯ

๑๐.  อุโบสถ กับ ปกติอุโบสถ หมายถึงอะไร ?

๑๐.  อุโบสถ หมายถึง การเข้าจำ คือการจำศีล เป็นอุบายขัดเกลากิเลสอย่างหยาบ

        ให้เบาบาง เป็นทางแห่งความสงบระงับอันเป็นความสุขอย่างสูงสุดในพระพุทธ

        ศาสนา ฯ  ปกติอุโบสถ หมายถึง อุโบสถที่รักษากันในวันพระตามปกติ เฉพาะ

        วันหนึ่งคืนหนึ่งอย่างที่อุบาสกอุบาสิการักษาอยู่ในปัจจุบัน ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น