แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิชานัยบัญญัติ นักธรรมชั้นโท ย้อนหลัง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิชานัยบัญญัติ นักธรรมชั้นโท ย้อนหลัง แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชานัยบัญญัติ นักธรรมชั้นโท 2562

 


ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง
วันเสาร์ ที่ ๑๖ พฤศจิกายน.. ๒๕๖๒ 
๑.                                      สิกขาบทนอกพระปาฏิโมกข์เรียกว่าอะไร?ทรงบัญญัติไว้ เพื่อประโยชน์อะไร?
ตอบ     เรียกว่า อภิสมาจาร ฯ
ทรงบัญญัติไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของภิกษุ แ
ความงามของพระศาสนา เช่นเดียวกับตระกูลใหญ่ จำต้อง
มีขนบธรรมเนียมและระเบียบไว้รักษาเกียรติและความเป็นผู้ดี
ของตระกูล ฯ

๒.                                    เปลือยกายอย่างไรต้องอาบัติถุลลัจจัย?อย่างไรต้องอาบัติทุกกฏ?
ตอบ      เปลือยกายเป็นวัตรเอาอย่างเดียรถีย์ ต้องอาบัติถุลลัจจัย ฯ

เปลือยกายทำกิจแก่กัน เช่น ไหว้ รับไหว้ ให้ของรับของทำบริกรรม และเปลือยกายในเวลาฉัน ในเวลาดื่ม ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ

๓.                                    บริขาร ๘อย่างไหนจัดเป็นบริขารบริโภค อย่างไหนจัดเป็น
บริขารอุปโภค?

ตอบ                ไตรจีวร บาตร ประคตเอว รวม ๕ อย่าง จัดเป็นบริขารบริโภค ฯ เข็ม มีดโกน และผ้ากรอกน้ำ จัดเป็นบริขารอุปโภค ฯ

๔.     ภิกษุเช่นไรควรได้นิสัยมุตตกะ?
ตอบ  ภิกษุผู้ควรได้นิสัยมุตตกะ คือ
๑. เป็นผู้มีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ สติ

๒. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล อาจาระ ความเห็นชอบ เคยได้ยิน ได้ฟังมามาก มีปัญญา

๓. รู้จักอาบัติ มิใช่อาบัติ อาบัติเบา อาบัติหนัก จำพระปา ได้แม่นยำ

ทั้งมีพรรษาพ้น ๕ ฯ

๕.                                    ภิกษุผู้เป็นอาคันตุกะ ไปสู่อาวาสอื่น พึงประพฤติอย่า ธรรมเนียมตามพระวินัย?
ตอบ     พึงประพฤติดังนี้
๑. ทำความเคารพในท่าน

๒. แสดงความเกรงใจเจ้าของถิ่น ๓. แสดงอาการสุภาพ

๔. แสดงอาการสนิทสนมกับเจ้าของถิ่น

๕. ถ้าจะอยู่ที่นั่น ฤติให้ถูกธรรมเนียมของเจ้าของถิ่นควรประพ ๖. ถือเสนาสนะแล้วอย่าดูดาย เอาใจใส่ชำระปัดกวาดให้หมดจด
จัดตั้งเครื่องเสนาสนะให้เป็นระเบียบ ฯ

๖.                                     ภิกษุอยู่ในกุฎีเดียวกันกับภิกษุผู้มีพรรษามากกว่า คว อย่างไรจึงชื่อว่าแสดงความเคารพท่านตามพระวินัย?

ตอบ     ควรปฏิบัติตนอย่างนี้ คือ จะทำสิ่งใด ๆ ควรขออนุญาตท่านก่อ เช่น จะสอนธรรมจะอธิบายความ จะสาธยาย จะแสดงธรรม จะจุดจะดับไฟ จะเปิดจะปิดหน้าต่าง ห้ามมิให้ทำตามอำเภอใจ ฯ 
๗.                                    ดิถีที่กำหนดให้เข้าจำพรรษาในบาลีกล่าวไว้เท่าไร?อะไรบ้าง?
ตอบ  กล่าวไว้ ๒ ฯ คือ

๑.          ปุริมิกาวัสสูปนายิกา วันเข้าพรรษาต้น คือวันแรม ๑ ค่ำ เดือ ๒. ปัจฉิมิกาวัสสูปนายิกา วันเข้าพรรษาหลัง คือวันแรม ๑ ค่ำ เด

๘.                                    ปวารณา คืออะไร? มีพระพุทธานุญาตให้ทำในวันไหน?
ตอบ     คือ การบอกให้โอกาสแก่ภิกษุทั้งหลายเพื่อปรารถนาตักเตือนว
กล่าวตนได้ ฯ
มีพระพุทธานุญาตให้ทำในวันขึ้น๑๕ค่ำ เดือน ๑๑ ซึ่งเป็นวันเต็ม
๓ เดือนแต่วันจำพรรษา ฯ
 ๙.                                      ดิรัจฉานวิชาไม่ดีอย่างไร พระศาสดาจึงตรัสห้ามไว้ ไม่ให้ ไม่ให้เรียน?

ตอบ     เป็นความรู้ที่เขาสงสัยว่าลวงหรือหลง ไม่ใช่ความรู้จริงจัง ผู้ลวง ผู้เรียนก็เป็นผู้หัด เพื่อจะลวงหรือเป็นผู้หลงงมงาย ฉะนั้น พระศาสดาจึงตรัสห้ามไว้ ไม่ให้บอกไม่ให้เรียน ฯ 
๑๐.      ยาวกาลิก กับ ยาวชีวิก ต่างกันอย่างไร?
ตอบ     ยาวกาลิก คือ ของที่ใช้บริโภคเป็นอาหาร บริโภคได้ชั่ว
คือตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงวันโภชะได้แก่๕นมสด นมส้ม ของขบเคี้ยว
เป็นต้น ฯ

ส่วนยาวชีวิก เป็นของที่ให้ประกอบเป็นยา บริโภคได้เสมอไป ไม่มีจำกัดเวลา แต่เมื่อมีเหตุจึงบริโภคได้ ได้แก่ รากไม้ น้ำฝาดใบไ ผลไม้ ยางไม้ เกลือ เป็นต้น ฯ

ให้เวลา ๓ ชั่วโมง