วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก2558

 




ปัญหาวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชันเอก้

สอบในสนามหลวง


วันจันทร์ที่๓๐พฤศจิกายนพุทธศักราช๒๕๕๘ 


๑. สังฆกรรมย่อมวิบัติ          โดยอะไรบ้าง ?     สงฆ์ให้อุปสมบทแก่อภัพพบุคคล เป็ นสังฆ


วิบัติโดยอะไร ?

เฉลย       โดยวัตถุ สีมา ปริสะ และกรรมวาจา ฯ        วิบัติโดยวัตถุ ฯ


๒. สีมา มีกี่ประเภท ?       อะไรบ้าง ?    ประเภทไหนสมมติเป็ นติจีวราวิปปวาสไม่ได้ ?

เฉลย       มี๒ ประเภท ฯ     พัทธสีมา คือแดนที่ผูก           หมายถึงเขตอันสงฆ์ก าหนดเอาเอง

และอพัทธสีมา คือแดนที่ไม่ไดกหมายถึงเขตอันเขาก้ผู าหนดไว ้โดยปกติของ

บ้านเมือง  หรือเขตที่มีสัญญัติอย่างอื่นเป็นเครื่องก าหนด ฯ  ประเภทอพั


๓.   ภิกษุผู้ควรได้รับเลือกให้เป็ นเจ้าหน้าที่ท าการสงฆ์ พึงประกอบด้วยคุณสมบัต และจะปฏิบัติหน้าที่นั้นได้ตังแต่เมื้่อไร ?

เฉลย       ด ้วยคุณสมบัติเหล่านี้      คือ


๑.  ไม่ถึงความล าเอียงเพราะความชอบพอ

๒.  ไม่ถึงความล าเอียงเพราะเกลียดชัง

๓.  ไม่ถึงความล าเอียงเพราะงมงาย

๔.  ไม่ถึงความล าเอียงเพราะกลัว

๕.  เข ้าใจการท าหน้าที่อย่างนั้น ฯ


ตั้งแต่สงฆ์สวดสมมติด ้วยญัตติทุติยกรรมวาจาให ้เป็นเจ ้าหน้าที่นั้น



๔.   อานิสงส์กฐินจะ้สุดลง เพราะเหตุอะไรบ้าง ?


เฉลย เพราะปลิโพธ๒ ประการ คืออาวาสปลิโพธ ความกังวลในอาวาส และจีวรปลิโพธ ความกังวลในจีวร ขาดลง และสิ้นสุดเขตจีวรกาล ฯ


๕.    อภัพพบุคคลผู้กระท าผิดต่อพระศาสนา ถูกห้ามอุปสมบท มีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง เฉลย มี๗ ประเภท คือ


๑. คนฆ่าพระอรหันต์


๒.   คนท าร ้ายภิกษุณี ได ้แก่ผู ้ข่มขืนภิกษุณีในอัชฌาจาร ๓. คนลักเพศ คือคนถือเพศเป็นภิกษุเอง ๔. ภิกษุไปเข ้ารีตเดียรถีย์ ๕. ภิกษุต ้องปาราชิกละเพศไปแล ้ว ๖. ภิกษุท าสังฆเภท



 ๗. คนท าร ้ายพระศาสดาจนถึงห ้อพระโลหิต ฯ


๖.    การโจทภิกษุอืนด้วยอาบัติ่ทาดวยกายก็ได้ ด้วยวาจาก็ได้ อยากทราบว่า การโจทด้วยกาย นั้นทาอย่างไร ?


เฉลย ท าโดยแสดงอาการไม่นับถือว่าเป็นภิกษุ มีการไม่อภิวาทเป็นต ้น การเขียนห โจท ก็จัดว่าเป็นการโจทด ้วยกาย ฯ


๗.  อธิกรณ์อันสงฆ์วินิจฉัยแล้ว ฝ่ายไม่ชอบใจ จักอุทธรณ์ต่อสงฆ์อื่นให้วินิจฉัยใหม่ได้ หรือไม่ ? จงอธิบายพอเข้าใจ


เฉลย ได ้ก็มี ไม่ได ้ก็มีตามสิกขาบทที่ฯ๓ แห่งสัปปาณวรรค ปาจิตติยกัณฑ์ โจทก์ ก็ดีจ าเลยก็ดีสงฆ์ก็ดีรู ้อยู่ว่าอธิกรณ์นั้นสงฆ์หมู่นั้นวินิจฉัยเป็นธรรมแล ้ ฟื้ นขึ้นเพื่อวินิจฉัยใหม่ต้องอาบัติปาจิตติยะเป็นอันอุทธรณ์ไม่ไดแต่ถ้ ้าเห็นว่า ไม่เป็นธรรมฟื้ นขึ้นไม่เป็นอาบัติเป็นอันอุทธรณ์ได ้ ฯ



๘.   รัตติเฉท คืออะไร ? รัตติเฉทของภิกษุผู้ประพฤติมานัต มีเท่าไร ? อะไรบ้าง ? เฉลย คือการขาดราตรี ฯ มี๔อย่าง ฯ คือ


๑.  สหวาโส อยู่ร่วม


๒. วิปฺปวาโส อยู่ปราศ ๓. อนาโรจนา ไม่บอก


๔.  อูเน คเณ จรณ  ประพฤติในคณะอันพร่อง ฯ




พระราชบัญญัติคณะสงฆ์


๙. ที่วัดและที่ซึ่งขึ้นต่อวัด ตามมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์  มีกี่อย่าง ?


อะไรบ้าง ?

เฉลย

มี๓ อย่าง ฯ   คือ



๑.

ที่วัด คือที่ซึ่งตั้งวัดตลอดจนเขตของวัดนั้น


๒.

ที่ธรณีสงฆ์

คือที่ซึ่งเป็นสมบัติของวัด


๓.

ที่กัลปนา คือที่ซึ่งมีผู ้อุทิศแต่ผลประโยชน์ให ้วัดหรือพระศาสนา ฯ

๑๐. พระราชบัญญัติคณะสงฆ์มาตรา๓๗ ระบุหน้าที่เจ้าอาวาสไว้กี่อย่าง ?   อะไรบ้าง ?

เฉลย

ระบุไว๔้ อย่าง ฯ

คือ


๑.

บ ารุงรักษาวัด  จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให ้เป็นไปด ้วยดี


๒.

ปกครองและสอดส่องให ้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่หรือพ านักอาศั



วัดนั้นปฏิบัติตามพระธรรมวินัย  กฎมหาเถรสมาคม ข ้อบังคับระเบียบห



ค าสั่งของมหาเถรสมาคม


๓.

เป็นธุระในการศึกษาอบรมและสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่บรรพชิตและคฤหัสถ


๔.

ให ้ความสะดวกตามสมควรในการบ าเพ็ญกุศล ฯ




*********

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น