วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก 2544

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

วันเสาร์ ที่  ๓  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๔๔

๑.

๑.๑

คำว่า มาร  และ บ่วงแห่งมาร  หมายถึงอะไร ?


๑.๒

บุคคลจะพ้นจากบ่วงแห่งมารด้วยวิธีอย่างไรบ้าง ?

๑.

๑.๑

คำว่า มาร หมายถึงกิเลสกาม คือเจตสิกอันเศร้าหมอง ได้แก่  ตัณหา  ราคะ และอรติ เป็นต้น                      

คำว่า บ่วงแห่งมาร หมายถึงวัตถุกาม ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ


๑.๒

ด้วยวิธี  ๓  อย่างคือ

           ๑) สำรวมอินทรีย์    มิให้ความยินดีครอบงำในเมื่อเห็นรูป

               เป็นต้นอันน่าปรารถนา

           ๒) มนสิการกัมมัฏฐาน  อันเป็นปฏิปักษ์แก่กามฉันท์   คือ

               อสุภะและกายคตาสติหรือมรณัสสติ

           ๓) เจริญวิปัสสนา     คือพิจารณาสังขารแยกออกเป็นขันธ์ 

               สันนิษฐานเห็นเป็นสภาพไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

๒.

๒.๑

ทุกขตา ความเป็นทุกข์แห่งสังขารนั้นกำหนดเห็นด้วยทุกข์กี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?


๒.๒

ความทุกข์ที่เกิดจากการต้องดิ้นรนต่อสู้ในการทำมาหากิน จัดเป็นทุกข์ชนิดไหน ?

๒.

๒.๑

ด้วยทุกข์  ๑๐  อย่างคือ

           ๑) สภาวทุกข์

           ๒) ปกิณกทุกข์ 

           ๓) นิพัทธทุกข์

           ๔) พยาธิทุกข์  

           ๕) สันตาปทุกข์ 

           ๖) วิปากทุกข์

           ๗) สหคตทุกข์

           ๘) อาหารปริเยฏฐิทุกข์

           ๙) วิวาทมูลกทุกข์

        ๑๐) ทุกขขันธ์ 


๒.๒

จัดเป็นอาหารปริเยฏฐิทุกข์

๓.

๓.๑

การพิจารณาแลเห็นสังขารโดยไตรลักษณ์  จัดเป็นวิสุทธิอะไร ?


๓.๒

จงจัดวิสุทธิ ๗  ลงในไตรสิกขา ?

๓.

๓.๑

จัดเป็นทิฏฐิวิสุทธิ  ความหมดจดแห่งความเห็น


๓.๒

           ๑) สีลวิสุทธิ  จัดเป็นศีล

           ๒) จิตตวิสุทธิ  จัดเป็นสมาธิ

           ๓) ทิฏฐิวิสุทธิ กังขาวิตรณวิสุทธิ มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ   

              ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ญาณทัสสนวิสุทธิ จัดเป็นปัญญา

๔.

๔.๑

วัฏฏะในบาลีว่า วฏฺฏูปจฺเฉโท หมายถึงอะไร ? วัฏฏะนั้นจะขาดได้อย่างไร ?


๔.๒

บาลีแสดงปฏิปทาแห่งนิพพานว่า " สิญฺจ  ภิกฺขุ  อิมํ  นาวํ " ความว่า  " ภิกษุเธอจงวิดเรือนี้ "  คำว่า เรือ และ วิด ในบาลีนี้หมายถึงอะไร ?

๔.

๔.๑

วัฏฏะ หมายถึง  ความเวียนเกิดด้วยอำนาจกิเลส  กรรม  และวิบาก

วัฏฏะนั้นจะขาดได้ด้วยการละกิเลสอันเป็นเบื้องต้นเสีย


๔.๒

คำว่า เรือ หมายถึงอัตภาพร่างกาย

คำว่า วิด หมายถึงบรรเทากิเลส และบาปธรรมให้เบาบางจนขจัดได้ขาด

๕.

๕.๑

ในส่วนสังสารวัฏฏ์  สัตวโลกตายแล้วมีคติเป็นอย่างไร ?


๕.๒

ในข้อ ๕.๑  นั้นมีอุทเทสบาลีแสดงไว้อย่างไร ?

๕.

๕.๑

สัตวโลกตายแล้วมีคติเป็น  ๒  คือสุคติ  และทุคติ                 


๕.๒

มีอุทเทสบาลีแสดงว่า

           จิตฺเต  สงฺกิลิฏฺเฐ  ทุคฺคติ  ปาฏิกงฺขา         

           เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว  ทุคติเป็นอันต้องหวัง

         จิตฺเต  อสงฺกิลิฏฺเฐ  สุคติ  ปาฏิกงฺขา          

          เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว  สุคติเป็นอันหวังได้

๖.

๖.๑

คนโทสจริต  มีอุปนิสัยเป็นอย่างไร ? จะแก้ด้วยการเจริญกัมมัฏฐานบทใด ?


๖.๒

การที่ท่านสอนให้เจริญเมตตาในตนก่อนแล้ว จึงแผ่ไปในชนอื่นนั้น

มีเหตุผลอย่างไร ?

๖.

๖.๑

คนที่มีจิตมักฉุนเฉียวโกรธเคืองง่าย ๆ สันดานหนักไปในโทสะ มักก่อทุกข์โทมนัสให้แก่ผู้อื่น จัดเป็นคนโทสจริต มีโทสะเป็นเครื่องประพฤติเป็นปกติของตัว

ควรเจริญกัมมัฏฐาน ๘ ประการ คือวัณณกสิณ ๔ กับพรหมวิหาร ๔


๖.๒

มีเหตุผลดังนี้ คือจะได้ทำตนให้เป็นพยานว่า ตนนี้อยากได้แต่ความสุข  เกลียดชังทุกข์ และภัยต่าง ๆ ฉันใด สัตว์ทั้งหลายอื่น ๆ ก็อยากได้สุข  เกลียดชังทุกข์และภัยต่าง ๆ ฉันนั้น เมื่อเห็นดังนี้แล้ว จิตก็ปรารถนาให้สัตว์ทั้งสิ้นอื่น ๆ มีความสุขความเจริญ                     

๗.

๗.๑

วิปัลลาสคืออะไร ?  จำแนกโดยวัตถุเป็นที่ตั้งมีกี่อย่าง ?  อะไรบ้าง ?


๗.๒

จะถอนวิปัลลาสนั้นได้เพราะเจริญธรรมอะไร ?

๗.

๗.๑

คือ  กิริยาที่ถือเอาโดยอาการวิปริตผิดจากความจริง มี  ๔  อย่างคือ

           ๑) วิปัลลาสในของที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง

           ๒) วิปัลลาสในของที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข

           ๓) วิปัลลาสในของที่ไม่ใช่ตนว่าเป็นตน

           ๔) วิปัลลาสในของที่ไม่งามว่างาม


๗.๒

วิปัลลาสในของที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง  จะถอนได้ด้วยอนิจจสัญญา

วิปัลลาสในของที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข  จะถอนได้ด้วยทุกขสัญญา

วิปัลลาสในของที่ไม่ใช่ตนว่าเป็นตน  จะถอนได้ด้วยอนัตตสัญญา

วิปัลลาสในของที่ไม่งามว่างาม  จะถอนได้ด้วยอสุภสัญญา

๘.

๘.๑

ผู้เจริญสติปัฏฐานต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ?


๘.๒

ผู้เจริญสติปัฏฐานสมบูรณ์เต็มที่แล้ว  จะได้รับอานิสงส์เช่นใด ?

๘.

๘.๑

มี         ๑) อาตาปี  มีความเพียรแผดเผากิเลส

           ๒) สมฺปชาโน  มีสัมปชัญญะ

          ๓) สติมา  มีสติ


๘.๒

ได้รับอานิสงส์ ๕ ประการดังนี้

           ๑) ได้ความบริสุทธิ์

          ๒) ได้ข้ามพ้นโสกะและปริเทวะ

           ๓) ได้ความดับไปแห่งทุกข์และโทมนัส

           ๔) ได้บรรลุธรรมที่ถูก

           ๕) ได้ทำให้แจ้งพระนิพพาน

๙.

๙.๑

การพิจารณากองลมหายใจเข้าออก เพียงแต่รู้ว่าสั้นยาว ดังนี้ จัดเป็น

สติปัฏฐานข้อไหน ?


๙.๒

ในธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน หัวข้อธรรมที่จะนำมาพิจารณานั้นมีอะไรบ้าง ?

๙.

๙.๑

จัดเป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน


๙.๒

มี นิวรณ์ ๕  อุปาทานขันธ์ ๕  อายตนะ ๖  โพชฌงค์ ๗ และอริยสัจ ๔

๑๐.

๑๐.๑

อนิจจสัญญาในคิริมานนทสูตร  มีใจความว่าอย่างไร ?


๑๐.๒

การพิจารณาอาทีนวสัญญาโดยย่อ  ได้แก่พิจารณาอย่างไร ?

๑๐.

๑๐.๑

มีใจความว่า  " ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปในป่าก็ดี ไปที่โคนไม้ก็ดี ไปที่เรือนว่างเปล่าก็ดี ย่อมพิจารณาอย่างนี้ว่า รูป เวทนา สัญญา

สังขาร  วิญญาณ ไม่เที่ยง ย่อมเป็นผู้พิจารณาเนือง ๆ โดยความไม่เที่ยงในอุปาทานขันธ์ทั้ง  ๕ "


๑๐.๒

พิจารณาอย่างนี้ว่า  " กายนี้มีทุกข์มาก มีโทษมาก เหล่าอาพาธย่อมเกิดขึ้นในกายนี้ "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น