ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันเสาร์ ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๔
๑.
๑.๑
คำว่า มาร และ บ่วงแห่งมาร หมายถึงอะไร ?
๑.๒
บุคคลจะพ้นจากบ่วงแห่งมารด้วยวิธีอย่างไรบ้าง ?
๑.
๑.๑
คำว่า มาร หมายถึงกิเลสกาม คือเจตสิกอันเศร้าหมอง ได้แก่ ตัณหา ราคะ และอรติ เป็นต้น
คำว่า บ่วงแห่งมาร หมายถึงวัตถุกาม ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ
๑.๒
ด้วยวิธี ๓ อย่างคือ
๑) สำรวมอินทรีย์ มิให้ความยินดีครอบงำในเมื่อเห็นรูป
เป็นต้นอันน่าปรารถนา
๒) มนสิการกัมมัฏฐาน อันเป็นปฏิปักษ์แก่กามฉันท์ คือ
อสุภะและกายคตาสติหรือมรณัสสติ
๓) เจริญวิปัสสนา คือพิจารณาสังขารแยกออกเป็นขันธ์
สันนิษฐานเห็นเป็นสภาพไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
๒.
๒.๑
ทุกขตา ความเป็นทุกข์แห่งสังขารนั้นกำหนดเห็นด้วยทุกข์กี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
๒.๒
ความทุกข์ที่เกิดจากการต้องดิ้นรนต่อสู้ในการทำมาหากิน จัดเป็นทุกข์ชนิดไหน ?
๒.
๒.๑
ด้วยทุกข์ ๑๐ อย่างคือ
๑) สภาวทุกข์
๒) ปกิณกทุกข์
๓) นิพัทธทุกข์
๔) พยาธิทุกข์
๕) สันตาปทุกข์
๖) วิปากทุกข์
๗) สหคตทุกข์
๘) อาหารปริเยฏฐิทุกข์
๙) วิวาทมูลกทุกข์
๑๐) ทุกขขันธ์
๒.๒
จัดเป็นอาหารปริเยฏฐิทุกข์
๓.
๓.๑
การพิจารณาแลเห็นสังขารโดยไตรลักษณ์ จัดเป็นวิสุทธิอะไร ?
๓.๒
จงจัดวิสุทธิ ๗ ลงในไตรสิกขา ?
๓.
๓.๑
จัดเป็นทิฏฐิวิสุทธิ ความหมดจดแห่งความเห็น
๓.๒
๑) สีลวิสุทธิ จัดเป็นศีล
๒) จิตตวิสุทธิ จัดเป็นสมาธิ
๓) ทิฏฐิวิสุทธิ กังขาวิตรณวิสุทธิ มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ
ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ญาณทัสสนวิสุทธิ จัดเป็นปัญญา
๔.
๔.๑
วัฏฏะในบาลีว่า วฏฺฏูปจฺเฉโท หมายถึงอะไร ? วัฏฏะนั้นจะขาดได้อย่างไร ?
๔.๒
บาลีแสดงปฏิปทาแห่งนิพพานว่า " สิญฺจ ภิกฺขุ อิมํ นาวํ " ความว่า " ภิกษุเธอจงวิดเรือนี้ " คำว่า เรือ และ วิด ในบาลีนี้หมายถึงอะไร ?
๔.
๔.๑
วัฏฏะ หมายถึง ความเวียนเกิดด้วยอำนาจกิเลส กรรม และวิบาก
วัฏฏะนั้นจะขาดได้ด้วยการละกิเลสอันเป็นเบื้องต้นเสีย
๔.๒
คำว่า เรือ หมายถึงอัตภาพร่างกาย
คำว่า วิด หมายถึงบรรเทากิเลส และบาปธรรมให้เบาบางจนขจัดได้ขาด
๕.
๕.๑
ในส่วนสังสารวัฏฏ์ สัตวโลกตายแล้วมีคติเป็นอย่างไร ?
๕.๒
ในข้อ ๕.๑ นั้นมีอุทเทสบาลีแสดงไว้อย่างไร ?
๕.
๕.๑
สัตวโลกตายแล้วมีคติเป็น ๒ คือสุคติ และทุคติ
๕.๒
มีอุทเทสบาลีแสดงว่า
จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา
เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันต้องหวัง
จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา
เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้
๖.
๖.๑
คนโทสจริต มีอุปนิสัยเป็นอย่างไร ? จะแก้ด้วยการเจริญกัมมัฏฐานบทใด ?
๖.๒
การที่ท่านสอนให้เจริญเมตตาในตนก่อนแล้ว จึงแผ่ไปในชนอื่นนั้น
มีเหตุผลอย่างไร ?
๖.
๖.๑
คนที่มีจิตมักฉุนเฉียวโกรธเคืองง่าย ๆ สันดานหนักไปในโทสะ มักก่อทุกข์โทมนัสให้แก่ผู้อื่น จัดเป็นคนโทสจริต มีโทสะเป็นเครื่องประพฤติเป็นปกติของตัว
ควรเจริญกัมมัฏฐาน ๘ ประการ คือวัณณกสิณ ๔ กับพรหมวิหาร ๔
๖.๒
มีเหตุผลดังนี้ คือจะได้ทำตนให้เป็นพยานว่า ตนนี้อยากได้แต่ความสุข เกลียดชังทุกข์ และภัยต่าง ๆ ฉันใด สัตว์ทั้งหลายอื่น ๆ ก็อยากได้สุข เกลียดชังทุกข์และภัยต่าง ๆ ฉันนั้น เมื่อเห็นดังนี้แล้ว จิตก็ปรารถนาให้สัตว์ทั้งสิ้นอื่น ๆ มีความสุขความเจริญ
๗.
๗.๑
วิปัลลาสคืออะไร ? จำแนกโดยวัตถุเป็นที่ตั้งมีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
๗.๒
จะถอนวิปัลลาสนั้นได้เพราะเจริญธรรมอะไร ?
๗.
๗.๑
คือ กิริยาที่ถือเอาโดยอาการวิปริตผิดจากความจริง มี ๔ อย่างคือ
๑) วิปัลลาสในของที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง
๒) วิปัลลาสในของที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข
๓) วิปัลลาสในของที่ไม่ใช่ตนว่าเป็นตน
๔) วิปัลลาสในของที่ไม่งามว่างาม
๗.๒
วิปัลลาสในของที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง จะถอนได้ด้วยอนิจจสัญญา
วิปัลลาสในของที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข จะถอนได้ด้วยทุกขสัญญา
วิปัลลาสในของที่ไม่ใช่ตนว่าเป็นตน จะถอนได้ด้วยอนัตตสัญญา
วิปัลลาสในของที่ไม่งามว่างาม จะถอนได้ด้วยอสุภสัญญา
๘.
๘.๑
ผู้เจริญสติปัฏฐานต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ?
๘.๒
ผู้เจริญสติปัฏฐานสมบูรณ์เต็มที่แล้ว จะได้รับอานิสงส์เช่นใด ?
๘.
๘.๑
มี ๑) อาตาปี มีความเพียรแผดเผากิเลส
๒) สมฺปชาโน มีสัมปชัญญะ
๓) สติมา มีสติ
๘.๒
ได้รับอานิสงส์ ๕ ประการดังนี้
๑) ได้ความบริสุทธิ์
๒) ได้ข้ามพ้นโสกะและปริเทวะ
๓) ได้ความดับไปแห่งทุกข์และโทมนัส
๔) ได้บรรลุธรรมที่ถูก
๕) ได้ทำให้แจ้งพระนิพพาน
๙.
๙.๑
การพิจารณากองลมหายใจเข้าออก เพียงแต่รู้ว่าสั้นยาว ดังนี้ จัดเป็น
สติปัฏฐานข้อไหน ?
๙.๒
ในธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน หัวข้อธรรมที่จะนำมาพิจารณานั้นมีอะไรบ้าง ?
๙.
๙.๑
จัดเป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
๙.๒
มี นิวรณ์ ๕ อุปาทานขันธ์ ๕ อายตนะ ๖ โพชฌงค์ ๗ และอริยสัจ ๔
๑๐.
๑๐.๑
อนิจจสัญญาในคิริมานนทสูตร มีใจความว่าอย่างไร ?
๑๐.๒
การพิจารณาอาทีนวสัญญาโดยย่อ ได้แก่พิจารณาอย่างไร ?
๑๐.
๑๐.๑
มีใจความว่า " ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปในป่าก็ดี ไปที่โคนไม้ก็ดี ไปที่เรือนว่างเปล่าก็ดี ย่อมพิจารณาอย่างนี้ว่า รูป เวทนา สัญญา
สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง ย่อมเป็นผู้พิจารณาเนือง ๆ โดยความไม่เที่ยงในอุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ "
๑๐.๒
พิจารณาอย่างนี้ว่า " กายนี้มีทุกข์มาก มีโทษมาก เหล่าอาพาธย่อมเกิดขึ้นในกายนี้ "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น