วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี 2548

 วิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี 2548

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันเสาร์ ที่  ๑๙  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘


   ๑.  ธรรมมีอุปการะมาก ได้แก่อะไรบ้าง ?  บุคคลผู้ขาดธรรมนี้จะเป็นเช่นไร ?

   ๑.  ได้แก่ สติ ความระลึกได้ และ สัมปชัญญะ ความรู้ตัว ฯ  จะเป็นคนหลงลืม

        จะทำจะพูดหรือจะคิดอะไรมักผิดพลาด ฯ

   ๒.  บุพพการีและกตัญญูกตเวที คือบุคคลเช่นไร ?  จัดเป็นคู่ไว้อย่างไรบ้าง ?

   ๒.  บุพพการี คือบุคคลผู้ทำอุปการะก่อน  กตัญญูกตเวที คือบุคคลผู้รู้อุปการะ

        ที่ท่านทำแล้ว และตอบแทน ฯ  จัดเป็นคู่ไว้ดังนี้  บิดามารดา กับ บุตรธิดา, 

        ครูอาจารย์ กับ ศิษย์,  พระมหากษัตริย์ กับ ประชาราษฎร์,  พระพุทธเจ้า กับ

        พุทธบริษัท,  เป็นต้น ฯ

   ๓.  พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ชื่อว่ารัตนะ เพราะเหตุไร ?

   ๓.  เพราะเป็นของมีคุณค่าและหาได้ยาก เหมือนเพชรนิลจินดามีค่ามาก นำประโยชน์

        และความสุขมาให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ฯ

   ๔.  ธรรม ๔ อย่าง ดุจล้อรถนำไปสู่ความเจริญ ข้อว่า  “คบสัตบุรุษ คือคนดี”  นั้น

        จะนำไปสู่ความเจริญได้อย่างไร ?

   ๔.  เมื่อคบสัตบุรุษแล้วย่อมเป็นเหตุให้คิดดีพูดดีทำดี อันก่อให้เกิดความสุขความเจริญ

        ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน ทั้งยังให้ถึงความเจริญ

        อย่างที่สุดคือพระนิพพานได้ ฯ

   ๕.  ปัจจยปัจจเวกขณะ หมายความว่าอย่างไร ?

   ๕.  หมายความว่า พิจารณา (ถึงคุณและโทษของปัจจัย ๔) ก่อน จึงบริโภคปัจจัย ๔

        คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัช ไม่บริโภคด้วยตัณหา ฯ

   ๖.  ขันธ์ ๕ ได้แก่อะไรบ้าง ?  ย่อเป็น ๒ ได้อย่างไร ?

   ๖.  ได้แก่ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ ฯ 

        รูปขันธ์จัดเป็นรูป   ที่เหลือจัดเป็นนาม ฯ

   ๗.  อปริหานิยธรรม คืออะไร ?  ข้อที่ ๔ ความว่าอย่างไร ?

   ๗.  คือ ธรรมไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม เป็นไปเพื่อความเจริญฝ่ายเดียว ฯ

        ข้อที่ ๔ ความว่า ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ใหญ่เป็นประธานในสงฆ์ เคารพนับถือภิกษุ

        เหล่านั้น เชื่อฟังถ้อยคำของท่าน ฯ

   ๘.  ในมรรคมีองค์ ๘  คำว่า  “เพียรชอบ”  คือเพียรอย่างไร ?

   ๘.  คือ

             เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน

             เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว

             เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน

             เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม ฯ

   ๙.  บุคคลจะได้รับประโยชน์ปัจจุบัน จะต้องปฏิบัติตามหลักธรรมอะไร ?

   ๙.  ต้องปฏิบัติตามหลักทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ๔ ประการ คือ

             ๑. อุฏฐานสัมปทา ถึงพร้อมด้วยความหมั่น ในการประกอบกิจการงาน

                                    ในการศึกษาเล่าเรียน  ในการทำธุระหน้าที่ของตน

              ๒. อารักขสัมปทา   ถึงพร้อมด้วยการรักษา ทั้งทรัพย์และการงาน ไม่ให้เสื่อมไป

              ๓. กัลยาณมิตตตา ความมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่ว

              ๔. สมชีวิตา         ความเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หาได้ ฯ

๑๐.  มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาความสุข พระพุทธศาสนาแสดงความสุขของผู้ครองเรือน

        ไว้อย่างไร ?

๑๐.  แสดงไว้ ๔ อย่าง คือ

              ๑. สุขเกิดแต่ความมีทรัพย์

              ๒. สุขเกิดแต่การจ่ายทรัพย์บริโภค

              ๓. สุขเกิดแต่ความไม่ต้องเป็นหนี้

             ๔. สุขเกิดแต่ประกอบการงานที่ปราศจากโทษ ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น