พิธีมงคลสมรส
พิธีมงคลสมรส เรียกอย่างสามัญว่า งานแต่งงาน หรือ งานแต่ง เป็นประเพณีของ
พุทธศาสนิกชนชาวไทย นิยมให้มีพิธีสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาวด้วย
สมัยพุทธกาล เรียกพิธีนี้ว่า วิวาหมงคล หรืออาวาหมงคล คนไทยนิยมนามาใช้แบบกึ่ง
ทางการว่า งานวิวาห์ ปกติงานมงคลสมรสของไทย จะจัดพิธีที่บ้านเจ้าสาว ถ้ามีบ้านหรือ
เรือนหอโดยเฉพาะ นิยมจัดที่บ้านหรือเรือนหอนั้น
พิธีทาบุญงานมงคลสมรส ประเพณีไทยโบราณนิยมจัดงานให้เสร็จภายในวันเดียว
แบ่งเป็น ๒ ช่วงเวลา คือ ตอนเช้ามีพิธีทาบุญเลี้ยงพระ ให้คู่บ่าวสาวทาบุญตักบาตรร่วมก่อน
เมื่อเสร็จพิธีสงฆ์ช่วงเช้าแล้ว ตอนสายจะเป็นประเพณียกขันหมาก ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้พ่อแม่
ญาติผู้ใหญ่ และอื่น ๆ ตอนบ่ายมีพิธีสงฆ์อีกวาระหนึ่ง จะนิมนต์พระสงฆ์ชุดเดิมมาเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อทาน้ามนต์ใช้หลั่งน้าสังข์ โดยพระสงฆ์จะประพรมน้าพระพุทธมนต์ให้เพื่อ
เป็นสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาว บ้านหรือเรือนหอด้วย จากนั้นเป็นพิธีหลั่งน้าสังข์ของบิดา มารดา
และญาติผู้ใหญ่ของคู่บ่าวสาว ตลอดถึงแขกผู้มีเกียรติรับเชิญมาร่วมงาน จะไม่ขอลงรายละเอียด
พิธีแบบโบราณนี้ เพราะปัจจุบันแทบจะไม่มีการจัดพิธีรูปแบบนี้แล้ว สาหรับพิธีทาบุญ
งานมงคลสมรสในปัจจุบัน นิยมจัดพิธีสงฆ์ให้เสร็จช่วงเช้า เสร็จพิธีสงฆ์แล้ว จึงประกอบพิธี
ทางโลกต่อไป ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะพิธีสงฆ์เท่านั้น
การเตรียมการต่าง ๆ ก็คล้ายกับการทาบุญในพิธีทั่วไป การนิมนต์พระสงฆ์ นิยม
นิมนต์ ๙ รูป สมัยโบราณนิมนต์พระสงฆ์เป็นคู่ คือ ๘ รูป ๑๐ รูป เพื่อให้คู่บ่าวสาวนิมนต์
นิมนต์เท่า ๆ กัน สาหรับเครื่องประกอบพิธี นอกจากอุปกรณ์ทั่วไป เช่น พระพุทธรูป โต๊ะหมู่
ยังมีเครื่องประกอบพิธีโดยเฉพาะอีก คือ มงคลแฝด กระแจะ สาหรับเจิมคู่บ่าวสาว เตรียม
นาเข้าพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติตามลาดับ ดังนี้
ครั้นได้เวลาตามกาหนดแล้ว คู่บ่าวสาวจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยร่วมกัน
โดยเจ้าสาวนั่งด้านซ้ายของเจ้าบ่าว สมาทานศีล ฟังพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เมื่อถึงบท
พาหุง คู่บ่าวสาวตักบาตรร่วมกัน โดยทั้งคู่จับทัพพีเดียวกัน พระสงฆ์สวดมนต์จบ ประเคน
ภัตตาหารร่วมกันพระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และประพรมน้าพระพุทธมนต์
กรณีมีพิธีหลั่งน้าสังข์ในภายหลัง ประธานพิธีจะเป็นผู้เจิมหน้าคู่บ่าวสาว
เมื่อพิธีสงฆ์เสร็จสิ้นแล้ว จะมีพิธีตามประเพณีต่อไป สุดแต่เจ้าภาพจะกาหนด
การเจริญพระพุทธมนต์ในสมัยก่อน นิยมสวดมหาสมัยสูตร ปัจจุบันสวดเจ็ดตานานเหมือน
การทาบุญทั่วไป แต่จะสวดอังคุลิมาลปริตรและวัฏฏกปริตรเพิ่มด้วย โดยความหมายว่า
อังคุลิมาลปริตรจะช่วยให้คลอดบุตรง่าย และวัฏฏกปริตรเป็นการคุ้มครองบ้านหรือเรือนหอ
จากอัคคีภัย
หนังสือนักธรรมชั้นตรี,นักธรรมตรีpdf,นักธรรมตรี,สรุปนักธรรมตรี,ข้อสอบนักธรรมตรี,เก็งข้อสอบนักธรรมตรี
- หน้าแรก
- พุทธประวัติ
- ธรรมวิภาค
- เบญจศีล-เบญจธรรม
- แบบกระทู้ธรรมชั้นตรี
- แบบกระทู้ธรรมชั้นโท
- แบบกระทู้ธรรมชั้นเอก
- หมวด พุทธศาสนสุภาษิต
- อนุพุทธประวัติชั้นโท
- ดาวโหลดหนังสือธรรมศึกษาชั้นตรี โท เอก
- Download ข้อสอบนักธรรมและธรรมศึกษา ปี 2559-2563
- ประวัตินักธรรม-ธรรมศึกษา โดยสังเขป
- ขอบข่ายการเรียนการสอนธรรมศึกษา 2561
- ขอบข่ายธรรมศึกษา ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
- ข้อสอบนักธรรมตรี-โท-เอก[ย้อนหลัง]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น