วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วิชาพุทธประวัติ นักธรรมชั้นตรี 2544

ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันอาทิตย์ ที่  ๔  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๔๔

๑.

๑.๑

ในครั้งพุทธกาล  ชาวชมพูทวีปส่วนมากนับถือศาสนาอะไร ?


๑.๒

ชนเหล่านั้นมีความคิดเห็น เรื่องความตาย และความเกิด โดยสรุปอย่างไร ?

๑.

๑.๑

ศาสนาพราหมณ์


๑.๒

เห็นอย่างนี้ คือเห็นว่าตายแล้วเกิดอย่างหนึ่ง เห็นว่าตายแล้วสูญอย่างหนึ่ง

๒.

๒.๑

กาฬเทวิลดาบส กราบที่พระบาทพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ  เพราะเหตุไร ?


๒.๒

พระราชโอรสนั้น ประสูติได้ ๕ วัน และ ๗ วัน มีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้น ?

๒.

๒.๑

เพราะเห็นพระราชโอรสนั้นมีลักษณะต้องด้วยตำรับมหาบุรุษลักษณะครั้นเห็นอัศจรรย์เช่นนั้นแล้วก็มีความเคารพนับถือจึงกราบที่พระบาทของพระราชโอรสนั้น


๒.๒

เมื่อประสูติได้  ๕  วัน  พระราชบิดาโปรดให้ชุมนุมพระญาติวงศ์และ

เสนามาตย์พร้อมกัน  เชิญพราหมณ์  ๑๐๘  คนมารับโภชนาหารแล้ว

ทำมงคลรับพระลักษณะและขนานพระนามว่า  “ สิทธัตถกุมาร ”        

เมื่อประสูติได้ ๗ วัน พระนางเจ้ามายาผู้เป็นพระราชมารดาสิ้นพระชนม์

๓.

๓.๑

อะไรเป็นมูลเหตุให้เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช ?


๓.๒

พระสิทธัตถะทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา  ด้วยวิธีอย่างไรบ้าง ?

๓.

๓.๑

พระอรรถกถาจารย์แสดงตามนัยมหาปทานสูตรว่า ได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้ง ๔ คือ คนแก่  คนเจ็บ  คนตาย  และสมณะ ทรงสังเวช เพราะได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูต  ๓  ข้างต้น  ยังความพอพระหฤทัยในการออกผนวชให้เกิดขึ้น เพราะได้ทอดพระเนตรเห็นสมณะ


๓.๒

วิธีแรก  ทรงกดพระทนต์ด้วยพระทนต์  กดพระตาลุด้วยพระชิวหา

วิธีที่สอง  ทรงผ่อนกลั้นลมอัสสาสะปัสสาสะ

วิธีที่สาม  ทรงอดพระกระยาหาร

๔.

๔.๑

พระสิทธัตถะทรงบำเพ็ญเพียรอยู่เป็นเวลากี่ปีจึงได้ตรัสรู้ ?


๔.๒

ในวันตรัสรู้ทรงอธิษฐานพระหฤทัยที่ใต้ต้นมหาโพธิ์ว่าอย่างไร ?

๔.

๔.๑

เป็นเวลา  ๖  ปี


๔.๒

ทรงอธิษฐานพระหฤทัยว่า " ยังไม่บรรลุโพธิญาณเพียงใด  จักไม่ลุกขึ้นเพียงนั้น  เนื้อเลือดแห้งไป  เหลือหนังหุ้มกระดูกก็ตาม "

๕.

๕.๑

พระสิทธัตถะทรงผจญมารได้ชัยชนะด้วยบารมีธรรมอะไรบ้าง ?


๕.๒

จงให้ความหมายของคำว่า  ปฐมเทศนา  และมัชฌิมาปฏิปทา

๕.

๕.๑

ด้วยบารมีธรรม ๑๐ อย่าง  คือ  ทาน  ศีล  เนกขัมมะ  ปัญญา  วิริยะ  ขันติ  สัจจะ  อธิษฐาน  เมตตา  อุเบกขา


๕.๒

ปฐมเทศนา  คือการแสดงธรรมครั้งแรก

มัชฌิมาปฏิปทา  คือข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลาง

๖.

๖.๑

คำว่า  " ที่นี่วุ่นวายหนอ  ที่นี่ขัดข้องหนอ "  เป็นคำอุทานของใคร ?  เพราะเหตุใดจึงอุทานเช่นนั้น ?


๖.๒

พระพุทธองค์ได้ตรัสถึงสาเหตุของแผ่นดินไหวไว้อย่างไรบ้าง ? จงบอกมา ๕ สาเหตุ

๖.

๖.๑

ของยสกุลบุตร, เพราะเห็นอาการพิกลต่าง ๆ ของหมู่ชนบริวารที่นอนหลับ  ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความยินดีเหมือนเมื่อก่อน หมู่ชนบริวารเหล่านั้นปรากฏ


แก่ยสกุลบุตร ดุจซากศพที่ทิ้งอยู่ในป่าช้า ครั้นเห็นแล้วเกิดความสังเวชสลดใจ  คิดเบื่อหน่าย  จึงได้ออกอุทานเช่นนั้น


๖.๒

ตรัสถึงสาเหตุดังต่อไปนี้  (เลือกตอบเพียง  ๕  ข้อ)

           ๑) ลมกำเริบ

           ๒) ท่านผู้มีฤทธิ์บันดาล

           ๓) พระโพธิสัตว์จุติจากดุสิตลงสู่พระครรภ์

           ๔) พระโพธิสัตว์ประสูติ

           ๕) พระพุทธเจ้าตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

           ๖) พระพุทธเจ้ายังธรรมจักรให้เป็นไป

           ๗) พระพุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร

           ๘) พระพุทธเจ้าปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ

๗.

๗.๑

สังเวชนียสถาน ๔  มีอะไรบ้าง ?


๗.๒

พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระอานนท์เกี่ยวกับการที่ภิกษุจะพึงปฏิบัติต่อสตรีไว้อย่างไร ?

๗.

๗.๑

มี         ๑) สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ

           ๒) สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้

           ๓) สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา

           ๔) สถานที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน


๗.๒

ทรงแสดงว่า " ไม่เห็นเสียเลยดีกว่า  ถ้าจำเป็นจะต้องเห็นก็อย่าพูดด้วย  ถ้าจำเป็นจะต้องพูดก็ให้มีสติสำรวมระวังอย่าให้แปรปรวนไปด้วยราคะ "

ศาสนพิธี

๘.

๘.๑

ศาสนพิธีมีกี่หมวด ?  อะไรบ้าง ?


๘.๒

พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ  หมายถึงอะไร ?

๘.

๘.๑

มี  ๔  หมวดคือ

           ๑) หมวดกุศลพิธี  ว่าด้วยพิธีบำเพ็ญกุศล

           ๒) หมวดบุญพิธี  ว่าด้วยพิธีทำบุญ

           ๓) หมวดทานพิธี  ว่าด้วยพิธีถวายทาน

           ๔) หมวดปกิณกะ  ว่าด้วยพิธีเบ็ดเตล็ด


๘.๒

หมายถึง การประกาศตนของผู้แสดงว่าเป็นผู้รับนับถือพระพุทธเจ้า

เป็นของตน เป็นการแสดงตนให้ปรากฏว่า ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาประจำชีวิตของตน

๙.

๙.๑

ในงานมงคลควรจุดเทียนน้ำมนต์เมื่อไร ?


๙.๒

จงอธิบายวิธีปฏิบัติในการประเคนของถวายพระ

๙.

๙.๑

เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถึงมงคลสูตร ขึ้นต้นบทว่า  อเสวนา จ  พาลานํ


๙.๒

มีวิธีปฏิบัติดังนี้คือ

ก) พึงนำของที่จะประเคนเข้าไปให้ใกล้พระผู้รับประมาณหนึ่งศอก จะนั่งหรือยืน แล้วแต่สถานที่ที่พระนั่งอยู่นั้นจะอำนวย

ข) จับของที่จะประเคนด้วยมือทั้งสอง หรือมือเดียวก็ได้  ยกขึ้นให้สูงเล็กน้อยแล้วน้อมถวายพระ ซึ่งท่านจะยื่นมือทั้งสองออกมารับ  หากว่าผู้ถวายเป็นสตรี พึงวางของลงบนผ้ากราบที่พระปูไว้ข้างหน้า  เสร็จแล้วพึงไหว้หรือกราบก็เป็นอันเสร็จวิธีการประเคน การประเคนนี้ต้องแสดงออกด้วยความเคารพ  ไม่ใช่เสือกไสให้  หรือทิ้งให้โดยไม่เคารพ  อีกอย่างของที่จะประเคนนั้น  ต้องเป็นสิ่งของที่คน ๆ เดียวพอยกได้อย่างธรรมดา  ไม่ใช่ของหนักหรือใหญ่จนเกินไป

๑๐.

๑๐.๑

ปาฏิบุคลิกทาน  หมายถึงอะไร ?


๑๐.๒

สังฆทาน  หมายถึงอะไร ?

๑๐.

๑๐.๑

หมายถึง  ทานที่ถวายเจาะจงเฉพาะรูปนั้นรูปนี้


๑๐.๒

หมายถึง ทานที่ถวายไม่เจาะจงรูปใด มอบเป็นของกลางให้สงฆ์จัดเฉลี่ยกันใช้สอยเอง

วิชาพุทธประวัติ นักธรรมชั้นตรี 2545

ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันเสาร์ ที่  ๒๓  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕

 ๑.    ๑.๑ พุทธประวัติว่าด้วยเรื่องอะไร ?

        ๑.๒ การเรียนรู้พุทธประวัติได้ประโยชน์อย่างไร ?

 ๑.    ๑.๑ ว่าด้วยเรื่องความเป็นมาของพระพุทธเจ้า เป็นการแสดงพระพุทธจริยาในด้าน

             ต่างๆ ของพระองค์ให้ปรากฏ ฯ

        ๑.๒ ได้ประโยชน์ ๒ ประการ  คือ

                   ๑) ในด้านการศึกษา ทำให้ทราบความเป็นมาของพระพุทธเจ้า เช่นเดียว

                       กับการศึกษาตำนานความเป็นมาของชาติตน ทำให้บุคคลได้ทราบว่า

                       ชาติของตนเป็นมาอย่างไร มีความสำคัญอย่างไรเป็นต้น

                   ๒) ในด้านปฏิบัติ ทำให้บุคคลได้แนวในการดำเนินชีวิตตามพระพุทธจริยา

                       อันเป็นปฏิปทานำความสุขความเจริญมาให้แก่บุคคล  ตามสมควรแก่การ

                       ประพฤติปฏิบัติ ฯ

 ๒.    ๒.๑ พระมหาบุรุษทรงอธิษฐานเพศเป็นบรรพชิตที่ไหน ?

        ๒.๒ ในราตรีแห่งการตรัสรู้  พระมหาบุรุษทรงบรรลุญาณอะไรในแต่ละยาม ?

 ๒.    ๒.๑ ที่ริมฝั่งแม่น้ำอโนมา ณ อนุปิยอัมพวัน แคว้นมัลละ ฯ

        ๒.๒ ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ในปฐมยาม

             ทรงบรรลุจุตูปปาตญาณหรือทิพพจักษุญาณ ในมัชฌิมยาม

             ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ ในปัจฉิมยาม ฯ

 ๓.    ๓.๑  พระพุทธองค์ทรงตัดสินพระทัยแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์เพราะทรงพิจารณา              อย่างไร ?

        ๓.๒ พระพุทธองค์ตรัสรู้ธรรมพิเศษแล้ว ในพรรษาแรกเสด็จประทับอยู่ที่ไหน ?

             และทรงบำเพ็ญพุทธกิจไว้อย่างไร ?

 ๓.    ๓.๑ เพราะทรงพิจารณาว่า บุคคลผู้มีกิเลสน้อยเบาบางก็มี หนาก็มี ผู้มีอินทรีย์กล้า

             ก็มี อ่อนก็มี เป็นผู้จะพึงสอนให้รู้ได้โดยง่ายก็มี โดยยากก็มี เป็นผู้สามารถจะ

             รู้ได้ก็มี ไม่สามารถจะรู้ได้ก็มี เปรียบเหมือนดอกบัว ๔ เหล่า เมื่อเป็นเช่นนั้น

             พระธรรมเทศนาคงไม่ไร้ผล จักยังประโยชน์ให้สำเร็จแก่คนทุกเหล่า เว้นแต่

             จำพวกที่มิใช่เวไนยสัตว์ที่เปรียบด้วยดอกบัวอันเป็นภักษาแห่งปลาและเต่า ฯ

        ๓.๒ ประทับอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี ฯ

             ได้ทรงบำเพ็ญพุทธกิจที่สำคัญไว้ดังนี้

                   ๑) ทรงแสดงธรรมโปรดพระภิกษุปัญจวัคคีย์ให้ได้สำเร็จมรรคผลสูงสุด

                   ๒) ทรงแสดงธรรมโปรดพระยสะพร้อมด้วยสหายอีก ๕๔ คน จนสำเร็จ

                       พระอรหัตผลทั้งหมด

                   ๓) ทรงแสดงธรรมโปรดบิดามารดาและภรรยาเก่าของพระยสะให้ได้

                       ดวงตาเห็นธรรม แล้วแสดงตนเป็นอุบาสกอุบาสิกา ผู้ถึงพระ

                       รัตนตรัยก่อนกว่าชนทั้งปวงในโลก

                   ๔) ทรงส่งพระอรหันตสาวก ๖๐ องค์ ไปประกาศพระศาสนายังถิ่นต่างๆ

                       เพื่อประโยชน์สุขแก่ชาวโลก ฯ

 ๔.    ๔.๑ พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมต่อไปนี้แก่ใคร ?   ที่ไหน ?

                   ก) โอวาทปาฏิโมกข์

                   ข) เวทนาปริคคหสูตร

        ๔.๒ สถานที่ต่อไปนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธองค์อย่างไร ?

                   ก)                                                          เวฬุวัน

                   ข)                                                          สาลวัน

 ๔.    ๔.๑       ก)                                                          แก่พระอรหันตขีณาสพ ๑,๒๕๐ องค์ ณ เวฬุวนาราม แคว้นมคธ

                   ข)                                                          แก่ทีฆนขปริพาชก ณ ถ้ำสุกรขาตา เขาคิชฌกูฏ แขวงเมืองราชคฤห์ ฯ

        ๔.๒       ก)                                                          เป็นพระราชอุทยานของพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งทรงถวายเป็นที่ประทับ

                       ของพระพุทธองค์พร้อมกับพระสงฆ์ เป็นสังฆารามแห่งแรก ฯ

                   ข) เป็นสถานที่แสดงธรรมโปรดสุภัททปริพาชกผู้เป็นปัจฉิมสักขิสาวก

                       และเป็นสถานที่ปรินิพพาน ฯ

 ๕.    ๕.๑ พระราชาของแคว้นไหนที่นับถือพระพุทธศาสนาเป็นองค์แรก ? และทรงพระนาม

             ว่าอะไร ?

        ๕.๒ ความปรารถนาว่า "ขอให้ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึงธรรมของพระอรหันต์" เป็นความ

             ปรารถนาของใคร ?  และความปรารถนานั้นสำเร็จบริบูรณ์เมื่อไร ?

 ๕.    ๕.๑ พระราชาของแคว้นมคธ ทรงพระนามว่า พิมพิสาร ฯ

        ๕.๒ ของพระเจ้าพิมพิสารครั้งยังทรงเป็นพระราชกุมาร ฯ  สำเร็จบริบูรณ์ในวันที่

             ได้ฟังอนุปุพพีกถาและอริยสัจ ๔ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโปรด ณ สวนตาลหนุ่ม 

             จนได้ดวงตาเห็นธรรม ฯ

 ๖.    ๖.๑ พระพุทธองค์ประทับจำพรรษาสุดท้าย ณ ที่ใด ?

        ๖.๒ พระองค์ทรงปลงอายุสังขารเมื่อใด ?

 ๖.    ๖.๑ ณ บ้านเวฬุวคาม กรุงเวสาลี แคว้นวัชชี ฯ

        ๖.๒ เมื่อวันเพ็ญเดือน ๓  คือ  ๓ เดือนก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ฯ

 ๗.    ๗.๑ เมื่อจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธองค์ได้ประทานพระโอวาทเรื่อง

             ศาสดาแทนพระองค์ไว้อย่างไร ?

        ๗.๒ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถึงวิธีปฏิบัติต่อภิกษุผู้ถูกลงพรหมทัณฑ์ไว้อย่างไร ?

 ๗.    ๗.๑ ได้ประทานพระโอวาทว่า "ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี อันใด อันเราได้

             แสดงแล้ว ได้บัญญัติแล้วแก่ท่านทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้น จักเป็นศาสดา

             แห่งท่านทั้งหลาย โดยกาลที่ล่วงไปแล้วแห่งเรา" ฯ

        ๗.๒ ตรัสไว้ว่า "ภิกษุนั้นจะพึงปรารถนาเจรจาคำใด ก็พึงเจรจาคำนั้น ภิกษุทั้งหลาย

             ไม่พึงว่า ไม่พึงโอวาท ไม่พึงสั่งสอนเลย" ฯ

ศาสนพิธี

 ๘.    ๘.๑ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา กำหนดไว้กี่วัน ?   มีวันอะไรบ้าง ?

        ๘.๒ วันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างไร ?

 ๘.    ๘.๑ ๔ วัน มีวันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา วันมาฆบูชา และวันอาสาฬหบูชา ฯ

        ๘.๒ เป็นวันอัฏฐมีบูชา คือวันคล้ายกับวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ฯ

 ๙.    ๙.๑  คำว่า "เจริญพระพุทธมนต์" กับ "สวดพระพุทธมนต์" ใช้ในพิธีต่างกันอย่างไร ?

        ๙.๒ จงเขียนคำอาราธนาพระปริตรมาดู

 ๙.    ๙.๑ คำว่า "เจริญพระพุทธมนต์" ใช้ในพิธีมงคล ส่วนคำว่า "สวดพระพุทธมนต์"

             ใช้ในพิธีอวมงคล ฯ

        ๙.๒       วิปตฺติปฏิพาหาย                สพฺพสมฺปตฺติสิทฺธิยา

                   สพฺพทุกฺขวินาสาย              ปริตฺตํ  พฺรูถ  มงฺคลํ ฯ

                   วิปตฺติปฏิพาหาย                สพฺพสมฺปตฺติสิทฺธิยา

                   สพฺพภยวินาสาย                ปริตฺตํ  พฺรูถ  มงฺคลํ ฯ

                   วิปตฺติปฏิพาหาย                สพฺพสมฺปตฺติสิทฺธิยา

                   สพฺพโรควินาสาย               ปริตฺตํ  พฺรูถ  มงฺคลํ ฯ

๑๐. ๑๐.๑ คำว่า "เผดียงสงฆ์" หมายถึงอะไร ?

      ๑๐.๒ การกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ หมายถึงอย่างไร ?

๑๐. ๑๐.๑ หมายถึงการแจ้งความประสงค์ให้สงฆ์ทราบ ฯ

      ๑๐.๒  หมายถึงการกราบพร้อมด้วยองค์ ๕ คือให้หน้าผาก กับฝ่ามือสองข้าง เข่าสองข้างจดพื้น ฯ

วิชาพุทธประวัติ นักธรรมชั้นตรี 2546

ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

พ.ศ. ๒๕๔๖


๑.

๑.๑

ประชาชนในชมพูทวีป มีกี่จำพวก ? อะไรบ้าง ?


๑.๒

ชาวชมพูทวีป แบ่งเป็นกี่วรรณะ ? อะไรบ้าง ?

๑.

๑.๑

มี ๒ จำพวก คือ

      ๑) มิลักขะ   เจ้าของถิ่นเดิม

      ๒) อริยกะ    พวกอพยพมาใหม่ ฯ


๑.๒

แบ่งเป็น ๔ วรรณะ คือ  กษัตริย์ ๑  พราหมณ์ ๑  แพศย์ ๑  ศูทร ๑  ฯ

๒.

๒.๑

กษัตริย์พระองค์ใดที่เป็นต้นศากยวงศ์ ?


๒.๒

พระโอรสและพระธิดาของเจ้าศากยะไปสร้างพระนครขึ้นใหม่ชื่อว่าเมืองอะไร ?  ที่ชื่ออย่างนั้นเพราะเหตุไร ?

๒.

๒.๑

พระเจ้าโอกกากราช ฯ


๒.๒

เมืองกบิลพัสดุ์ ฯ  เพราะเป็นที่อยู่ของกบิลดาบสมาก่อน ฯ

๓.

สถานที่ต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าอย่างไร ?


๓.๑

ลัฏฐิวัน ฯ


๓.๒

เชตวัน ฯ

๓.

๓.๑

ลัฏฐิวัน เป็นสถานที่ที่พระศาสดาทรงแสดงอนุปุพพีกถาและอริยสัจ ๔

แด่พระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยข้าราชบริพารผู้เสด็จไปเข้าเฝ้า ณ ที่นั่น ฯ


๓.๒

เชตวัน เป็นพระอารามซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย และพระพุทธองค์ประทับจำพรรษานานถึง ๑๙ พรรษา ฯ


๔.

๔.๑

เทศนากัณฑ์แรก  ชื่ออะไร ?


๔.๒

ปัจฉิมสักขิสาวก ได้แก่ใคร ?

๔.

๔.๑

เทศนากัณฑ์แรก  ชื่อ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ฯ


๔.๒

ปัจฉิมสักขิสาวก ได้แก่ พระสุภัททะ ฯ

๕.

๕.๑

ปัญจวัคคีย์ ได้แก่ใครบ้าง ?


๕.๒

ท่านเหล่านั้นอุปสมบทด้วยวิธีอะไร ?  และบรรลุอรหัตผลที่ไหน ?

๕.

๕.๑

ได้แก่  พระอัญญาโกณฑัญญะ ๑   พระวัปปะ ๑   พระภัททิยะ ๑ 

พระมหานามะ ๑  พระอัสสชิ ๑ ฯ


๕.๒

อุปสมบทด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา ฯ

บรรลุอรหัตผลที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี ฯ

๖.

๖.๑

เมื่อวันพระศาสดาปรินิพพาน มีพระสาวกผู้ใหญ่อยู่ในที่นั้นกี่รูป ? ใครบ้าง ?


๖.๒

หลังพุทธปรินิพพานแล้ว ได้มีการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระที่ไหน ?  เมื่อไร ?

๖.

๖.๑

มี ๒ รูป คือ พระอนุรุทธเถระ และพระอานนทเถระ ฯ


๖.๒

ที่ มกุฏพันธนเจดีย์ ฯ  หลังพุทธปรินิพพานได้ ๗ วัน ฯ

๗.

๗.๑

ถูปารหบุคคล คือบุคคลเช่นไร ?


๗.๒

ตามข้อ ๗.๑ นั้น มีกี่ประเภท ?  คือใครบ้าง ?

๗.

๗.๑

คือ บุคคลที่ควรบรรจุอัฐิธาตุไว้ในสถูป เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชา

ด้วยความเลื่อมใส ฯ


๗.๒

มี ๔ ประเภท ฯ  คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑  พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑  พระอรหันต์ ๑ พระเจ้าจักรพรรดิราช ๑ ฯ



ศาสนพิธี

๘.

ท่านได้ศึกษาศาสนพิธีแล้ว  เข้าใจเรื่องต่อไปนี้อย่างไร ?


๘.๑

บุญพิธี


๘.๒

ทานพิธี

๘.

๘.๑

บุญพิธี ว่าด้วยพิธีทำบุญ มี ๒ อย่าง คือ

      ๑) ทำบุญงานมงคล เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญอายุเป็นต้น

      ๒) ทำบุญงานอวมงคล เช่น งานศพ เป็นต้น ฯ


๘.๒

ทานพิธี ว่าด้วยพิธีถวายทานต่าง ๆ เช่น ถวายสังฆทานเป็นต้น ฯ

๙.

๙.๑

การแสดงความเคารพมีกี่วิธี ?  อะไรบ้าง ?


๙.๒

ในแต่ละวิธีนั้น มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ?

๙.

๙.๑

มี ๓ วิธีคือ ประนมมือ ๑  ไหว้ ๑  กราบ ๑ ฯ


๙.๒

ประนมมือ คือการกระพุ่มมือทั้งสองประกบกันไว้ระหว่างอก  โดยให้ทุกนิ้วของมือทั้งสองแนบชิดติดตรงกัน

ไหว้ คือการยกมือที่ประนมขึ้นพร้อมก้มศีรษะเล็กน้อยให้มือประนมจรดหน้าผาก นิ้วมือทั้ง ๒ อยู่ระหว่างคิ้ว

กราบ คือการแสดงอาการกราบราบลงพื้นด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ได้แก่กราบด้วยองค์ ๕ คือ หน้าผาก ๑  ฝ่ามือ ๒  เข่า ๒ จรดพื้น ฯ

๑๐.

๑๐.๑

คำว่า  หนฺทานิ มยํ ภนฺเต อาปุจฺฉาม พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา  ใครเป็น

ผู้กล่าว และกล่าวในโอกาสอะไร  ?


๑๐.๒

ใครเป็นผู้กล่าวตอบคำนั้น และกล่าวว่าอย่างไร ?

๑๐.

๑๐.๑

อุบาสกอุบาสิกาผู้ไปฟังธรรมในวันธัมมัสสวนะเป็นผู้กล่าว 

ในโอกาสลากลับบ้าน ฯ


๑๐.๒

พระสงฆ์กล่าว และกล่าวว่า  ยสฺสทานิ  ตุมฺเห  กาลํ  มญฺญถ ฯ