ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธประวัติ นักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์ ที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๔
๑.
๑.๑
ในครั้งพุทธกาล ชาวชมพูทวีปส่วนมากนับถือศาสนาอะไร ?
๑.๒
ชนเหล่านั้นมีความคิดเห็น เรื่องความตาย และความเกิด โดยสรุปอย่างไร ?
๑.
๑.๑
ศาสนาพราหมณ์
๑.๒
เห็นอย่างนี้ คือเห็นว่าตายแล้วเกิดอย่างหนึ่ง เห็นว่าตายแล้วสูญอย่างหนึ่ง
๒.
๒.๑
กาฬเทวิลดาบส กราบที่พระบาทพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ เพราะเหตุไร ?
๒.๒
พระราชโอรสนั้น ประสูติได้ ๕ วัน และ ๗ วัน มีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้น ?
๒.
๒.๑
เพราะเห็นพระราชโอรสนั้นมีลักษณะต้องด้วยตำรับมหาบุรุษลักษณะครั้นเห็นอัศจรรย์เช่นนั้นแล้วก็มีความเคารพนับถือจึงกราบที่พระบาทของพระราชโอรสนั้น
๒.๒
เมื่อประสูติได้ ๕ วัน พระราชบิดาโปรดให้ชุมนุมพระญาติวงศ์และ
เสนามาตย์พร้อมกัน เชิญพราหมณ์ ๑๐๘ คนมารับโภชนาหารแล้ว
ทำมงคลรับพระลักษณะและขนานพระนามว่า “ สิทธัตถกุมาร ”
เมื่อประสูติได้ ๗ วัน พระนางเจ้ามายาผู้เป็นพระราชมารดาสิ้นพระชนม์
๓.
๓.๑
อะไรเป็นมูลเหตุให้เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช ?
๓.๒
พระสิทธัตถะทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา ด้วยวิธีอย่างไรบ้าง ?
๓.
๓.๑
พระอรรถกถาจารย์แสดงตามนัยมหาปทานสูตรว่า ได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้ง ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ ทรงสังเวช เพราะได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูต ๓ ข้างต้น ยังความพอพระหฤทัยในการออกผนวชให้เกิดขึ้น เพราะได้ทอดพระเนตรเห็นสมณะ
๓.๒
วิธีแรก ทรงกดพระทนต์ด้วยพระทนต์ กดพระตาลุด้วยพระชิวหา
วิธีที่สอง ทรงผ่อนกลั้นลมอัสสาสะปัสสาสะ
วิธีที่สาม ทรงอดพระกระยาหาร
๔.
๔.๑
พระสิทธัตถะทรงบำเพ็ญเพียรอยู่เป็นเวลากี่ปีจึงได้ตรัสรู้ ?
๔.๒
ในวันตรัสรู้ทรงอธิษฐานพระหฤทัยที่ใต้ต้นมหาโพธิ์ว่าอย่างไร ?
๔.
๔.๑
เป็นเวลา ๖ ปี
๔.๒
ทรงอธิษฐานพระหฤทัยว่า " ยังไม่บรรลุโพธิญาณเพียงใด จักไม่ลุกขึ้นเพียงนั้น เนื้อเลือดแห้งไป เหลือหนังหุ้มกระดูกก็ตาม "
๕.
๕.๑
พระสิทธัตถะทรงผจญมารได้ชัยชนะด้วยบารมีธรรมอะไรบ้าง ?
๕.๒
จงให้ความหมายของคำว่า ปฐมเทศนา และมัชฌิมาปฏิปทา
๕.
๕.๑
ด้วยบารมีธรรม ๑๐ อย่าง คือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา
๕.๒
ปฐมเทศนา คือการแสดงธรรมครั้งแรก
มัชฌิมาปฏิปทา คือข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลาง
๖.
๖.๑
คำว่า " ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ " เป็นคำอุทานของใคร ? เพราะเหตุใดจึงอุทานเช่นนั้น ?
๖.๒
พระพุทธองค์ได้ตรัสถึงสาเหตุของแผ่นดินไหวไว้อย่างไรบ้าง ? จงบอกมา ๕ สาเหตุ
๖.
๖.๑
ของยสกุลบุตร, เพราะเห็นอาการพิกลต่าง ๆ ของหมู่ชนบริวารที่นอนหลับ ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความยินดีเหมือนเมื่อก่อน หมู่ชนบริวารเหล่านั้นปรากฏ
แก่ยสกุลบุตร ดุจซากศพที่ทิ้งอยู่ในป่าช้า ครั้นเห็นแล้วเกิดความสังเวชสลดใจ คิดเบื่อหน่าย จึงได้ออกอุทานเช่นนั้น
๖.๒
ตรัสถึงสาเหตุดังต่อไปนี้ (เลือกตอบเพียง ๕ ข้อ)
๑) ลมกำเริบ
๒) ท่านผู้มีฤทธิ์บันดาล
๓) พระโพธิสัตว์จุติจากดุสิตลงสู่พระครรภ์
๔) พระโพธิสัตว์ประสูติ
๕) พระพุทธเจ้าตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
๖) พระพุทธเจ้ายังธรรมจักรให้เป็นไป
๗) พระพุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร
๘) พระพุทธเจ้าปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ
๗.
๗.๑
สังเวชนียสถาน ๔ มีอะไรบ้าง ?
๗.๒
พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระอานนท์เกี่ยวกับการที่ภิกษุจะพึงปฏิบัติต่อสตรีไว้อย่างไร ?
๗.
๗.๑
มี ๑) สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ
๒) สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
๓) สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา
๔) สถานที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน
๗.๒
ทรงแสดงว่า " ไม่เห็นเสียเลยดีกว่า ถ้าจำเป็นจะต้องเห็นก็อย่าพูดด้วย ถ้าจำเป็นจะต้องพูดก็ให้มีสติสำรวมระวังอย่าให้แปรปรวนไปด้วยราคะ "
ศาสนพิธี
๘.
๘.๑
ศาสนพิธีมีกี่หมวด ? อะไรบ้าง ?
๘.๒
พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ หมายถึงอะไร ?
๘.
๘.๑
มี ๔ หมวดคือ
๑) หมวดกุศลพิธี ว่าด้วยพิธีบำเพ็ญกุศล
๒) หมวดบุญพิธี ว่าด้วยพิธีทำบุญ
๓) หมวดทานพิธี ว่าด้วยพิธีถวายทาน
๔) หมวดปกิณกะ ว่าด้วยพิธีเบ็ดเตล็ด
๘.๒
หมายถึง การประกาศตนของผู้แสดงว่าเป็นผู้รับนับถือพระพุทธเจ้า
เป็นของตน เป็นการแสดงตนให้ปรากฏว่า ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาประจำชีวิตของตน
๙.
๙.๑
ในงานมงคลควรจุดเทียนน้ำมนต์เมื่อไร ?
๙.๒
จงอธิบายวิธีปฏิบัติในการประเคนของถวายพระ
๙.
๙.๑
เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถึงมงคลสูตร ขึ้นต้นบทว่า อเสวนา จ พาลานํ
๙.๒
มีวิธีปฏิบัติดังนี้คือ
ก) พึงนำของที่จะประเคนเข้าไปให้ใกล้พระผู้รับประมาณหนึ่งศอก จะนั่งหรือยืน แล้วแต่สถานที่ที่พระนั่งอยู่นั้นจะอำนวย
ข) จับของที่จะประเคนด้วยมือทั้งสอง หรือมือเดียวก็ได้ ยกขึ้นให้สูงเล็กน้อยแล้วน้อมถวายพระ ซึ่งท่านจะยื่นมือทั้งสองออกมารับ หากว่าผู้ถวายเป็นสตรี พึงวางของลงบนผ้ากราบที่พระปูไว้ข้างหน้า เสร็จแล้วพึงไหว้หรือกราบก็เป็นอันเสร็จวิธีการประเคน การประเคนนี้ต้องแสดงออกด้วยความเคารพ ไม่ใช่เสือกไสให้ หรือทิ้งให้โดยไม่เคารพ อีกอย่างของที่จะประเคนนั้น ต้องเป็นสิ่งของที่คน ๆ เดียวพอยกได้อย่างธรรมดา ไม่ใช่ของหนักหรือใหญ่จนเกินไป
๑๐.
๑๐.๑
ปาฏิบุคลิกทาน หมายถึงอะไร ?
๑๐.๒
สังฆทาน หมายถึงอะไร ?
๑๐.
๑๐.๑
หมายถึง ทานที่ถวายเจาะจงเฉพาะรูปนั้นรูปนี้
๑๐.๒
หมายถึง ทานที่ถวายไม่เจาะจงรูปใด มอบเป็นของกลางให้สงฆ์จัดเฉลี่ยกันใช้สอยเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น