วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บทที่ ๘ เสด็จกรุงราชคฤห์

บทที่ ๘  เสด็จกรุงราชคฤห์
•   อุปติสสะเป็นบุตรแห่งตระกูลหัวหน้าหมู่บ้าน บิดาชื่อ วันคันตพราหมณ์  มารดาชื่อว่า สารีพราหมนี จึงได้นามว่า  สารีบุตร
•   โกลิตเป็นบุตรแห่งตระกูลหัวหน้าหมู่บ้านโกลิตคาม  มารดาชื่อว่าโมคคัลลี  จึงได้นามว่า โมคคัลลานะ      ทั้งสองท่าน ศึกษาในสำนักสัญชัยปริพาชก
•   ฟังธรรมจากพระอัสสชิได้ดวงตาเห็นธรรมด้วยหัวข้อธรรม  (สรุปอริยสัจ ๔)
ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ  พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมนั้น และความดับเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น  พระมหาสมณะตรัสสอนอย่างนี้
•   ติสสะและโกลิตะพร้อมด้วยสหาย ๒๕๐ คน เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
•   พระพุทธองค์ตรัสอุบายแก่ง่วงแก่โมคคัลลานะ ๙ ข้อพร้อมกับข้อเตือนใจ ๓ ข้อ
ซึ่งปฏิบัติธรรมใกล้บ้าน กัลลวาลมุตตคาม
•   พระโมคคัลละสำเร็จพระอรหันต์ในวันที่ ๗  หลังจากการบวชด้วยอุบายแก้ง่วง และ ตัณหักขยธรรม
•   อุบายแก้ง่วง ๘ ข้อ
๑. เมื่อมีสัญญาอข่างไร ให้ใส่ใจถึงสัญญาอย่างนั้นให้มากๆ
๒.   ให้พิจารณาธรรมที่ได้ฟังมาแล้ว
๓.   ให้ท่องบ่นธรรมนั้นซึ่งได้เรียนได้ฟังมาแล้ว
๔.   ให้ยอน (แยง)หูทั้ง ๒ ข้างและเอามือลูบตัว
๕.   ให้ยืนขึ้น  เอาน้ำลูบตัวเหลียวมองดูทิศต่างๆ และแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า
๖.   ให้ใส่ใจถึงแสงสว่างกลางวัน
๗.   ให้เดินจงกรม  สำรวมอินทรีย์  ทำจิตให้เป็นสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่าน
๘.   ให้สำเร็จสีหไสยาสน์  คือ นอนตะแคงข้างขวาซ้อนเท้า มีสติตั้งใจว่าจะลุกขึ้น และเมื่อตื่นแล้วจงลุกขึ้นทันที
•   พระสารีบุตรบรรลุธรรมด้วยการฟังธรรมชื่อว่าเวทนาปริคคหสูตร หลังบวช ๑๕  วัน
•   ตรัสแก่ทีฆนขะ  เป็นหลานของพระสารีบุตร  ที่ถ่ำสุกรขาตา ที่เขาคิชกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์
•   พระพุทธเจ้าทรงแต่งตั้งพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะในตำแหน่งคู่พระอัครสาวก
•   สารีบุตร ได้รับการยกย่องเป็นเอตทัคคะว่ามีปัญญาเลิศ  เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา
•   พระโมคคัลลานะ ได้รับการยกย่องเป็นเอตทัคคะว่า มีฤทธิ์ล้ำเลิศ เป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย

•   พระศาสดาเปรียบพระสารีบุตรเหมือนมารดาผู้ให้กำเนิดบุตร  เปรียบพระโมคคัลลานะเหมือนนางนมผู้เลียงบุตรที่เกิดแล้ว

บทที่ ๗ ส่งสาวกไปประกาศศาสนา

บทที่  ๗  ส่งสาวกไปประกาศศาสนา
•   ยสกุลบุตร  เป็นบุตรของมหาเศรษฐี   มารดาชื่อว่าสุชาดา  ในกรุงพาราณสี  แคว้นกาสี
•   เบื่อหน่ายในชีวิตเปล่งอุทานว่า ที่นี่วุ่นวายหนอ    ที่นี่ขัดข้องหนอ
•   พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมเทศนาชื่อ  อนุปุพพิกถา”  แก่ยสะเป็นคนแรก
•  อนุปุพพิกถา”  คือ  วาจาปรารภธรรมที่พึงพรรณนาโดยลำดับมี  ๕ ประการ
๑.  ทาน   การให้ปันสิ่งของๆ ตนแก่ผู้อื่น            
๒.  ศีล    การรักษากาย  วาจาให้เรียบร้อย
๓.  สัคคะ  สวรรค์อันบุคคลพึงได้ด้วยทานและศีล  
๔.  กามาทีนพ    โทษของกาม  ซึ่งมีแต่ความทุกข์  ความวุ่นวายไม่สงบ                            
๕.  เนกขัมมะ    อานิสงส์แห่งการออกบวช
•   ทรงแสดงสามุกกังสิกเทศนา  คือ  อริยสัจ ๔ ปิดท้าย   * ยสะได้ดวงตาเห็นธรรม คือ บรรลุโสดาปัตติผล
•   พ่อของยสะฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๔  บรรลุพระโสดาบันแสดงตนเป็นอุบาสกขอถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิตนับว่าเป็นอุบาสกคนแรกที่ถึงพระรัตนตรัย  เรียกว่า  เตวาจิกอุบาสก
•   ยสกุลบุตรสำเร็จพระอรหัตผลด้วยการฟังธรรมซ้ำเป็นครั้งที่สอง  และทูลขอบรรพชาอุปสมบท
•   พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้เป็นพระภิกษุด้วยพระดำรัสว่าเธอจงเป็นภิกษุมาเถิด  ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว  เธอจงประพฤติพรหมจรรย์
•   มารดาและภรรยาเก่าของพระยสะเป็นพระโสดาบันด้วยการฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจ๔และแสดงตนเป็นอุบาสิกาขอถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิต เรียกว่า เตวาจิกอุบาสกา
•   เพื่อนสนิทพระยสะบวชตาม ๔ คน คือ วิมล   สุพาหุ  ปุณณชิ  ควัมปติ  และสหายพระยสะอีก  ๕๐  คน
•   ส่งสาวกออกประกาศพระศาสนา  พระพุทธองค์ส่งภิกษุทั้ง ๖๐ องค์  ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังต่างถิ่น ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและอริยสัจแก่ภัททวัคคีย์  ๓๐ คน  และส่งไปประกาศที่เมือง ปาวา
•   โปรดชฏิล  ๓  พี่น้อง  ที่ตำบลอุรุเวลา  แขวงเมืองราชคฤห์  ซึ่งอาศัยริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตามลำดับ  คือ  พี่ชายใหญ่ชื่ออุรุเวลกัสสปะมีบริวาร  ๕๐๐ ตั้งอาศรมอยู่ตำบลอุรุเวลา  น้องชายกลาง ชื่อนทีกัสสปะ มีบริวาร ๓๐๐  ตั้งอาศรมอยู่ตำบลนที  น้องชายเล็กชื่อคยากัสสปะ  มีบริวาร ๒๐๐  ตั้งอาศรมอยู่ตำบลคยา
•   แสดงอาทิตตปริยายสูตรที่ตำบลคยาสีสะ
•   ใจความโดยย่อ อายตนะภายนอก กระทบกับอายตนะภายในแล้วเกิดเป็นของร้อนด้วยราคะ โทสะ โมหะ ไม่ควรยึดติดกับสิ่งนั้นๆ
•  โปรดพระเจ้าพิมพิสารที่สวนลัฏฐิวัน  หรือสวนตาลหนุ่ม  มีข้าราชบริพาร ๑๒ นหุต ( ๑๒ หมื่น) แวดล้อม
•   ทั้งหมดฟังธรรมจากพระศาสดาด้วยอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๑๑ นหุต ตั้งอยู่ในโสดาบัน ๑ นหุตตั้งอยู่ในไตรสรณคมน์
•   ความปรารถนาของพระเจ้าพิมพิสาร ๕ ประการและสำเร็จดังประสงค์
๑. ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งแคว้นมคธนี้     
๒. ขอให้พระอรหันต์ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ เสด็จมายังแว่นแคว้นมคธนี้
๓. ขอให้ข้าพเจ้า ได้เข้าไปนั่งใกล้พระอรหันต์พระองค์นั้น
๔.  ขอให้พระอรหันต์  แสดงธรรมแก่ข้าพเจ้า
๕.  ขอให้ข้าพเจ้า  รู้ทั่วถึงธรรมของพระอรหันต์นั้น
•   พระเจ้าพิมพิสารถวายเวฬุวนาราม   ด้วยการหลั่งน้ำทักษิโณทกให้ตกลงบนพระหัตถ์ของพระศาสดา
•   พระเวฬุวนารามเป็นวัดแรกในพระพุทธศาสนา

บทที่ ๖ เสวยวิมุตติสุขและปฐมเทศนา

บทที่   ๖  เสวยวิมุตติสุขและปฐมเทศนา
•   สัตตมหาสถาน  คือสถานที่สำคัญ  ๗ แห่ง  ได้แก่สถานที่เคยเสวยวิมุตติสุข  เป็นเวลา ๗ สัปดาห์ ๔๙ วัน
 สัปดาห์ที่ ๑ ประทับบนรัตนบัลลังค์ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์  ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท
 สัปดาห์ที่ ๒ ทรงประทับยืนจ้องพระเนตรดูต้นพระศรีมหาโพธิ์ 
โดยมิได้กระพริบพระเนตรตลอด ๗ วัน สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่า อนิมิสเจดีย์
 สัปดาห์ที่ ๓  พระองค์ทรงเนรมิตที่จงกรมระหว่าง อนิมิสเจดีย์กับต้นพระศรีมหาโพธิ์
แล้วเสด็จจงกรม  ณ  ที่นั้น  ตลอด ๗ วัน  สถานที่นี้เรียกว่า  รัตนจงกรมเจดีย์
สัปดาห์ที่ ๔ พระองค์ทรงนั่งขัดสมาธิในเรือนแก้ว
ซึ่งเทวดาเนรมิตถวาย ทรงพิจารณาพระอภิธรรมตลอด ๗ วัน สถานที่นั้นได้ชื่อว่ารัตนฆรเจดีย์
สัปดาห์ที่  ๕  ทรงประทับใต้ร่มไม้  อชปาลนิโครธ (ต้นไทร)
- พบพราหมณ์ที่ชอบตวาดว่า หึ หึ 
- ทรงขับธิดามารทั้ง ๓ คือ นางตัณหา นางราคา นางอรดี
สัปดาห์ที่  ๖  ทรงประทับใต้ร่มไม้  มุจลินท์ (ไม้จิก
- มีฝนตกพรำเจือลมหนาวตลอด ๗ วัน  มีพญานาคชื่อว่ามุจลินท์  ขนดหางเป็น ๗ รอบ แผ่พังพานปรกพระองค์ เพื่อไม่ให้ลมและฝนถูกต้องพระองค์
สัปดาห์ที่ ๗  ทรงประทับใต้ต้นราชายตนะ(ไม้เกด)
- พ่อค้าสองพี่น้องคือ  ตปุสสะและภัลลิกะ ถวายข้าวสัตตุผงสัตตุก้อน 
- ถึงพระพุทธและพระธรรมเป็นสรณะ เรียกว่า  เทวฺวาจิกอุบาสก
- พระองค์ทรงมอบพระเกตุธาตุ  ๘  เส้นแก่อุบาสกทั้งอง
•   ท้าวสหัมบดีพรหมอาราธนาให้แสดงธรรม
•   พระพุทธองค์ทรงพิจารณาดอกบัว ๔  เหล่า  เปรียบปัญญาคน คือ
๑. อุคฆฏิตัญญู มีปัญญาเฉียบแหลม (บัวพ้นน้ำ)   
๒. วิปจิตัญญู มีปัญญาปานกลาง (บัวเสมอผิวน้ำ)
๓. เนยยะ มีปัญญาพอแนะนำได้ (บัวในน้ำ)  
๔.ปทปรมะ ด้อยปัญญา (บัวอในโคลนตม)
•    พระพุทธองค์ทรงคิดถึงอาฬารดาบสและอุททกดาบสเป็นคนแรกที่จะแสดงธรรมให้ฟัง
•    พระองค์ได้พบอุปกาชีวกระหว่างทางไปกรุงพาราณสี
•   ปฐมเทศนา  ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
•   แสดงแก่ปัญจวัคคีย์  เมื่อวันขึ้น ๑๕  ค่ำ  เดือน ๘  ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน  กรุงพาราณสี  แคว้นกาสี
•   เนื้อความธรรมโดยย่อ คือ สิ่งที่บรรพชิตไม่ควรเสพที่สุด ๒ อย่าง
๑. กามสุขัลลิกานุโยค  การพันพันตนในกาม          ๒.อัตตกิลมถานุโยค การทรมานตนให้ลำบาก
๓. สิ่งที่บรรพชิตควรเสพคือ  มัชฌิมาปฏิปทา  คือ ข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลาง อันประกอบด้วยอริยมรรคมีองค์ ๘
•   โกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม คือ  โสดาปัตติผล
•   เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าทรงบวชให้โกณฑัญญะเป็นรูปแรก
•   พระอัญญาโกณฑัญญะจึงเป็นพระสงฆ์องค์แรกในพุทธศาสนา
•  วันนี้เป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบ  คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรียกว่า วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
•   ทรงแสดงธรรมชื่อว่า  อนัตตลักขณสูตร  โปรดปัญจวัคคีย์ ในวันแรม  ๕  ค่ำ  เดือน ๙  และทั้งหมดได้บรรลุพระอรหันต์
•   มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก ๖ องค์  คือ พระพุทธเจ้า ๑  พระปัญจวัคคีย์  ๕

•   ใจความย่อของอนัตตลักขณสูตร คือ  ขันธ์  ๕  คือ  รูป  เวทนา สัญญา  สังขาร  วิญญาณ  เป็นของไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นอนัตตา  ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น