วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก 2553


 



ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง 

วันพฤหัสบดี        ที่ ๒๕ พฤศจิกายน   พ.ศ.๒๕๕๓



            สังฆกรรม กับวินัยกรรม มีก ำหนดบุคคลและสถานที่ต่างก เหมือนกันอย่างไร ?



            ต่างกันดังนี้ สังฆกรรม ต้องประชุมสงฆ์ครบองค์ตามก ำหนดแห่งก ต้องท ำในสีมา เว้นไว้แต่อปโลกนกรรม ท ำนอกสีมาก็ได้ ส่วนวิ ไม่ต้องประชุมสงฆ์ และท ำนอกสีมาก็ได้ ฯ


            นิมิตที่อยู่รอบโรงอุโบสถ มีไว้เพื่อประโยชน์อะไร ? จงเขียนค ทิศตะวันตกเฉียงใต้มาดู ?


            มีไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายก ำหนดเขตการท ำสังฆกรรม ฯ


ทกฺขิณาย  อนุทิสายกึ นิมิตฺตํ ฯ


            จงอธิบายความหมายของวิสุงคามสีมา  และสัตตัพภันตรสีมา


            วิสุงคามสีมา หมายถึงเขตแห่งสามัคคีที่สงฆ์ได้รับพระราชทาน ราชานุญาตยกให้เป็นแผนกหนึ่งจากบ้าน ฯ สัตตัพภันตรสีมา หมาย แห่งสามัคคีในป่าหาคนตั้งบ้านเรือนไม่ได้ชั่ว ๗ อัพภันดร โดยรอบ นับแต่ที่สุดแห่งสงฆ์ออกไป ฯ



            กฐิน เป็นสังฆกรรมอะไร ? การรับกฐิน ตลอดจนถึงการกราน ต้องท  ในสีมาเท่านั้น หรือท ำนอกสีมาก็ได้ ?


            เป็นญัตติทุติยกรรม ฯ


การรับกฐิน การอปโลกน์เพื่อให้ผ้ากฐิน และการกรานกฐินทำในสีมาหรือ นอกสีมาก็ได้ การสวดญัตติทุติยกรรมวาจาให้ผ้ากฐิน ต้องท ำในสีมา


            บุรพกิจที่พึงทเป็นเบื้องต้นก่อนแต่อุปสมบท ำ คืออะไรบ้าง ? ใน เหล่านั้น กิจที่ต้องท ำเป็นการสงฆ์ มีอะไรบ้าง ?


            คือ ให้บรรพชา ขอนิสสัย ถืออุปัชฌายะ ขนานชื่อมคธแห่งอุปสัมปท และบอกนามอุปัชฌายะ บอกบาตรจีวร สั่งให้อุปสัมปทาเปกขะออกไปย ข้างนอก สมมติภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ซักซ้อมอุปสัมปทาเปกขะถึงอั เรียกอุปสัมปทาเปกขะเข้าในสงฆ์ ให้ขออุปสมบท สมมติภิกษุรู สอบถามอุปสัมปทาเปกขะถึงอันตรายิกธรรมในสงฆ์ ฯ


มี สมมติภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ซักซ้อมอุปสัมปทาเปกขะถึงอันตราย อุปสัมปทาเปกขะเข้าในสงฆ์ สมมติภิกษุรูปหนึ่งสอบถามอุปสัมปท ถึงอันตรายิกธรรมในสงฆ์ ฯ


            อุปสัมปทาเปกขะจะส ำเร็จเป็นพระภิกษุได้ เมื่อพระกรรมวาจาจารย์ส บาลีบทใด ?



            ถึงบทว่าโส  ภาเสยฺย ท้ายอนุสาวนาที่ ๓ ฯ


            ติณวัตถารกวินัยมีอธิบายอย่างไร ?  ใช้ระงับอธิกรณ์อะไร ?


            อธิบายว่า กิริยาที่ให้ประนีประนอมกันทั้ง ๒ ฝ่าย ไม่ต้อง หาความเดิม เป็นดังกลบไว้ด้วยหญ้า ฯ ใช้ระงับอาปัตตาธิกรณ์ที่ยุ ไม่รู้จบและเป็นเรื่องสคัญอันจะเป็นเครื่องกระเทือนทั่วไป ำ เว้นครุกาบ อาบัติที่เนื่องด้วยคฤหัสถ์ ฯ


            ลิงคนาสนา คืออะไร ? บุคคลที่ทรงพระอนุญาตให้ท ำลิงคนาส กี่ประเภท ? ใครบ้าง ?


            คือ การให้ฉิบหายเสียจากเพศ ฯ มี ๓ ประเภท ฯ


คือ ภิกษุต้องอันติมวัตถุแล้ว ยังปฏิญญาตนเป็นภิกษุ ๑ บุค ไม่ขึ้น ได้รับอุปสมบทแต่สงฆ์ ๑ สามเณรผู้ประกอบด้วยองค์ ๑ ผู้มักผลาญชีวิตเป็นต้น ๑ ฯ


            ศาสนสมบัติมีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ? การจะน ำผลประโยชน์จ ศาสนสมบัติไปใช้จ่าย มีหลักเกณฑ์อย่างไร ?


            มี ๒ ประเภท ฯ


คือ  ศาสนสมบัติกลาง  และ  ศาสนสมบัติวัด ฯ


มีหลักเกณฑ์อย่างนี้คือ ศาสนสมบัติกลาง ใช้จ่ายในกิจการของส ตามพระวินัยโดยอนุมัติของสงฆ์ ศาสนสมบัติวัด ใช้จ่ายในกิ วัดนั้น ๆ แต่จะน ำศาสนสมบัติของวัดหนึ่งไปใช้อีกวัดหนึ่งไม่



๑๐.   ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง จะสามารถโอนกรรม หรือไม่ ? มีหลักปฏิบัติอย่างไร ?


๑๐. สามารถโอนได้ ฯ


มีหลักปฏิบัติตามความในมาตรา  ๓๔  แห่งพระราชบัญญัติคณะส


พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที พ.ศ. ๒๕๓๕ (มาตรา ๓๔ การโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ ที่ศาสนสมบัติกลาง ให้กระท ำได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ เว้นแต ตามวรรคสอง




*********



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น