วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก 2550

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐

๑.     สังฆกรรมจำแนกออกเป็นประเภท  เรียกโดยชื่อมีอะไรบ้าง ?   กรรมอะไรบ้างที่สงฆ์จตุวรรคทำได้ ?

๑.     มี  อปโลกนกรรม ๑   ญัตติกรรม ๑   ญัตติทุติยกรรม ๑   ญัตติจตุตถกรรม ๑ ฯ

เว้นปวารณา  ให้ผ้ากฐิน  อุปสมบท  และอัพภาน  นอกนั้นทำได้    ทุกอย่าง ฯ

๒.     สีมาสังกระ  คืออะไร ?   สงฆ์จะทำสังฆกรรมในสีมาเช่นนั้นได้หรือไม่อย่างไร ?

๒.     คือ  สีมาที่สมมติคาบเกี่ยวกันระหว่างสีมาที่สมมติไว้เดิมและสีมาที่สมมติขึ้นใหม่ ฯ

สงฆ์ทำสังฆกรรมในสีมาที่สมมติไว้เดิมได้  แต่ทำในสีมาที่สมมติขึ้นใหม่ไม่ได้ ฯ

๓.     การอปโลกน์ และ การสวดเพื่อให้ผ้ากฐิน  จัดเป็นสังฆกรรมประเภท ใด ?   การกรานกฐินด้วยผ้าสังฆาฏิ  พึงกล่าวว่าอย่างไร ?

๓.     การอปโลกน์เพื่อให้ผ้ากฐิน จัดเป็นอปโลกนกรรม การสวดเพื่อให้     ผ้ากฐิน จัดเป็นญัตติทุติยกรรม ฯ

ว่า  อิมาย  สงฺฆาฏิยา  กฐินํ  อตฺถรามิ ฯ

๔.     การบรรพชาและการอุปสมบท  สำเร็จด้วยวิธีอะไร ?

        นอกจากอภัพบุคคลและผู้มีบรรพชาโทษแล้ว  บุคคลประเภทใดบ้างที่ถูกห้ามไม่ให้อุปสมบท ?

๔.     การบรรพชาสำเร็จด้วยวิธีไตรสรณคมน์  และการอุปสมบทสำเร็จด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรมวาจา ฯ

        คือ    ๑. คนไม่มีอุปัชฌาย์

               ๒. คนไม่มีบาตร คนไม่มีจีวร  หรือไม่มีทั้งบาตรทั้งจีวร

               ๓. คนยืมบาตร จีวร  หรือยืมทั้งบาตรทั้งจีวรเขามา ฯ

๕.     อนุวาทาธิกรณ์เช่นไร  อันภิกษุจะพึงยกขึ้นว่าได้ ?

๕.     ต้องเป็นเรื่องมีมูล  คือ  เรื่องที่ได้เห็นเอง ๑   เรื่องที่ได้ยินเอง  หรือมีผู้บอกและเชื่อว่าเป็นจริง ๑   เรื่องที่เว้นจาก ๒ สถานนั้น  แต่รังเกียจโดยอาการ ๑  เช่นได้ยินว่า  พัสดุชื่อนี้ของผู้มีชื่อนี้หายไป  ได้พบพัสดุชนิดนั้นในที่อยู่ของภิกษุชื่อนั้น ฯ

๖.     การคว่ำบาตรในทางพระวินัยหมายถึงอะไร ?  และจะหงายบาตรได้ เมื่อไร ?

๖.     หมายถึง  การไม่ให้คบค้าสมาคมด้วยลักษณะ ๓ ประการ  คือ

        ๑.  ไม่รับบิณฑบาตของเขา

        ๒.  ไม่รับนิมนต์ของเขา

        ๓.  ไม่รับไทยธรรมของเขา ฯ

        เมื่อผู้ถูกคว่ำบาตรนั้นละโทษนั้นแล้ว   กลับประพฤติดี ฯ 

๗.     สังฆราชี  คืออะไร ?

๗.     คือ  การที่ภิกษุแตกกันเป็น ๒ ฝ่าย  เพราะมีความเห็นปรารภ       พระธรรมวินัยผิดแผกกันจนเกิดเป็นวิวาทาธิกรณ์ขึ้น หรือมีความปฏิบัติไม่สม่ำเสมอกัน  ยิ่งหย่อนกว่ากัน  เกิดรังเกียจกันขึ้น  แต่ยังไม่แยกทำอุโบสถปวารณาหรือสังฆกรรมอื่น ฯ

๘.     ภิกษุเมื่อลาสิกขา  ต้องทำเป็นกิจลักษณะด้วยการกล่าวคำปฏิญญาตนเป็นผู้อื่นจากภิกษุต่อหน้าใครได้บ้าง ? และทำอย่างไรจึงเป็น         กิจลักษณะ ?  

๘.     ต่อหน้าภิกษุด้วยกันหรือคนอื่นจากภิกษุก็ได้ ฯ

ปฏิญญาอย่างนี้ คือ

       พร้อมด้วยจิต  คือทำด้วยตั้งใจเพื่อลาสิกขาจริง ๆ

       พร้อมด้วยกาล  คือด้วยคำเด็ดขาด  ไม่ใช่รำพึง ไม่ใช่ปริกัป

       พร้อมด้วยประโยค  คือปฏิญญาด้วยตนเอง

       พร้อมด้วยบุคคล  คือผู้ปฏิญญาและผู้รับปฏิญญาเป็นคนปกติ

       พร้อมด้วยความเข้าใจ  คือผู้รับปฏิญญาเข้าใจคำนั้นในทันที ฯ


 พระราชบัญญัติคณะสงฆ์

๙.     พระราชบัญญัติคณะสงฆ์  คืออะไร ?

๙.     คือ กฏหมายฉบับหนึ่งว่าด้วยคณะสงฆ์ มีศักดิ์รองลงมาจากรัฐธรรมนูญ ฯ

๑๐.   ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแตกแยก  มีโทษอย่างไร ?

๑๐.   ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี  หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ ฯ

***********

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น