วิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี 2546
ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
พ.ศ. ๒๕๔๖
๑.
๑.๑
โลกเดือดร้อนวุ่นวาย เพราะขาดธรรมอะไร ?
๑.๒
บุคคลมีกาย วาจา ใจ งดงาม เพราะปฏิบัติธรรมอะไร ?
๑.
๑.๑
เพราะขาดธรรมคุ้มครองโลก ๒ อย่าง คือ
๑) หิริ ความละอายแก่ใจ
๒) โอตตัปปะ ความเกรงกลัว ฯ
๑.๒
เพราะปฏิบัติธรรมอันทำให้งาม ๒ อย่าง คือ
๑) ขันติ ความอดทน
๒) โสรัจจะ ความเสงี่ยม ฯ
๒.
๒.๑
รัตนะ ๓ มีอะไรบ้าง ?
๒.๒
รัตนะ ๓ นั้น มีคุณอย่างไร ?
๒.
๒.๑
มี พระพุทธ ๑ พระธรรม ๑ พระสงฆ์ ๑ ฯ
๒.๒
มีคุณอย่างนี้ คือ
๑) พระพุทธเจ้ารู้ดีรู้ชอบด้วยพระองค์เองก่อนแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้ตาม
๒) พระธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว
๓) พระสงฆ์ปฏิบัติชอบตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
สอนผู้อื่นให้กระทำตาม ฯ
๓.
๓.๑
ธรรมเป็นดุจล้อรถนำไปสู่ความเจริญ เรียกว่าอะไร ?
๓.๒
ปุพฺเพกตปุญฺญตา หมายความว่าอย่างไร ?
๓.
๓.๑
เรียกว่า จักรธรรม ฯ
๓.๒
หมายความว่า ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ในปางก่อน ฯ
๔.
๔.๑
ปธาน ๔ มีอะไรบ้าง ?
๔.๒
เพียรระวังตนให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติด จัดเข้าในปธานข้อไหน ?
๔.
๔.๑
มี ๑) สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน
๒) ปหานปธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
๓) ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน
๔) อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม ฯ
๔.๒
จัดเข้าในสังวรปธาน ฯ
๕.
จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้ ?
๕.๑
ปัจจยปัจจเวกขณะ
๕.๒
อภิณหปัจจเวกขณะ
๕.
๕.๑
ปัจจยปัจจเวกขณะ คือ พิจารณาเสียก่อนจึงบริโภคปัจจัย ๔ คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัช ไม่บริโภคด้วยตัณหา ฯ
๕.๒
อภิณหปัจจเวกขณะ คือ พิจารณาทุก ๆ วันว่า เรามีความแก่ มีความเจ็บมีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ เจ็บ ตายไปได้ เราต้อง
พลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น เรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน เราทำดี จักได้ดี ทำชั่ว จักได้ชั่ว ฯ
๖.
๖.๑
ธาตุกัมมัฏฐาน มีอะไรบ้าง ?
๖.๒
กำหนดพิจารณาอย่างไร เรียกว่า ธาตุกัมมัฏฐาน ?
๖.
๖.๑
มี ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ฯ
๖.๒
กำหนดพิจารณากายนี้ ให้เห็นว่าเป็นแต่เพียงธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประชุมกันอยู่ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เรียกว่า ธาตุกัมมัฏฐาน ฯ
๗.
๗.๑
พาหุสัจจะ หมายความว่าอย่างไร ?
๗.๒
พาหุสัจจะ เป็นอริยทรัพย์อย่างหนึ่งนั้น อธิบายอย่างไร ?
๗.
๗.๑
หมายความว่า ความเป็นผู้เคยได้ยินได้ฟังมามาก ฯ
๗.๒
อธิบายว่า พาหุสัจจะ คือความเป็นผู้เคยได้ยินได้ฟังมามากนั้น ได้ชื่อว่าอริยทรัพย์ เพราะเป็นเหตุให้ได้อิฏฐผล มีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และไมตรี เป็นต้น ทั้งไม่เป็นภาระแก่เจ้าของ และที่ดีพิเศษกว่าทรัพย์สิน
เงินทองทั่วไป คือ ยิ่งใช้ยิ่งมี ฯ
๘.
๘.๑
สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ ดำริอย่างไร ?
๘.๒
มรรคมีองค์ ๘ ข้อใดบ้างสงเคราะห์เข้าในสีลสิกขา ?
๘.
๘.๑
คือ ดำริจะออกจากกาม ๑
ดำริในอันไม่พยาบาท ๑
ดำริในอันไม่เบียดเบียน ๑ ฯ
๘.๒
วาจาชอบ การงานชอบ เลี้ยงชีวิตชอบ สงเคราะห์เข้าในสีลสิกขา ฯ
๙.
๙.๑
บุคคลผู้สามารถยึดเหนี่ยวน้ำใจคนอื่นไว้ได้ เพราะตั้งอยู่ในธรรมอะไร ?
๙.๒
ธรรมในข้อ ๙.๑ นั้น มีอะไรบ้าง ?
๙.
๙.๑
ในสังคหวัตถุ ๔ ฯ
๙.๒
มี ๑) ทาน ให้ปันสิ่งของของตนแก่ผู้อื่นที่ควรให้ปัน
๒) ปิยวาจา เจรจาวาจาที่อ่อนหวาน
๓) อัตถจริยา ประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
๔) สมานัตตตา ความเป็นคนมีตนเสมอไม่ถือตัว ฯ
๑๐.
๑๐.๑
อบายมุข คืออะไร ?
๑๐.๒
ดื่มน้ำเมามีโทษอย่างไรบ้าง ?
๑๐.
๑๐.๑
คือ เหตุเครื่องฉิบหาย ฯ
๑๐.๒
มีโทษ ๖ อย่าง คือ
๑) เสียทรัพย์
๒) ก่อการทะเลาะวิวาท
๓) เกิดโรค
๔) ถูกติเตียน
๕) ไม่รู้จักอาย
๖) ทอนกำลังปัญญา ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น