วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หมวด ๔ ธรรมศึกษา วิชา ธรรม ระดับอุดมศึกษา (ธศ 322) ชั้นโท

อปัสเสนธรรม ๔
พิจารณาแล้วเสพของอย่างหนึ่ง
พิจารณาแล้วอดกลั้นของอย่างหนึ่ง
พิจารณาแล้วเว้นของอย่างหนึ่ง
พิจารณาแล้วบรรเทาของอย่างหนึ่ง
อปัสเสนธรรม แปลว่ำ ธรรมดุจพนักพิง หมำยถึงธรรมเป็นที่อิงหรือพึ่งอำศัย
ของผู้มีปัญญำที่รู้จักพิจำรณำปฏิบัติต่อสิ่งต่ำงๆ ให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดทุกข์โทษแก่ตน เป็น
ทำงป้องกันไม่ให้อกุศลเกิดขึ้น และให้กุศลเจริญยิ่งขึ้น
อัปปมัญญา ๔

เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
อัปปมัญญา แปลว่ำ ภำวะจิตที่แผ่ไปโดยไม่มีประมำณ หมำยถึง กำรแผ่คุณธรรม คือ
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ไปในหมู่มนุษย์และสัตว์หำประมำณมิได้ คือไม่จำกัดขอบเขต
แต่ถ้ำแผ่ไปโดยเจำะจงตัวบุคคล หรือโดยไม่เจำะจงตัวบุคคลแต่ยังมุ่งจำกัดเอำหมู่คนหรือสัตว์
เรียกว่ำ พรหมวิหาร แปลว่ำ ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพรหม หรือธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่ำง

ประเสริฐ หมำยถึง พรหมโดยสมมติ คือ ท่ำนผู้เป็นใหญ่
พระอริยบุคคล ๔
๑. พระโสดาบัน
๒. พระสกทาคามี
๓. พระอนาคามี

๔. พระอรหันต์
อริยบุคคล แปลว่ำ บุคคลผู้ประเสริฐ หมำยถึง บุคคลผู้ได้บรรลุอริยผลอันเป็น
โลกุตระ จึงจัดเป็นผู้ประเสริฐในพระพุทธศำสนำ เพรำะสำมำรถละสังโยชน์กิเลสได้เด็ดขำด

ตำมภูมิธรรมของตน
สัมปรายิกัตถประโยชน์ คือประโยชน์ภายหน้า ๔
๑. สัทธาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศรัทธา คือเชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ เช่นเชื่อว่า
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นต้น
๒. สีลสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศีล คือรักษากายวาจาเรียบร้อยดี ไม่มีโทษ
๓. จาคสัมปทา ถึงพร้อมด้วยการบริจาคทานเป็นการเฉลี่ยสุขให้แก่ผู้อื่น
๔. ปัญญาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยปัญญา รู้จักบาปบุญ คุณโทษ

ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ เป็นต้น
สัมปรายิกัตถประโยชน์ แปลว่ำ ประโยชน์ในภำยหน้ำหรือประโยชน์ในภพหน้ำ

ชำติหน้ำ หมำยถึง คุณธรรมที่เป็นเหตุให้มีควำมสุขในภพหน้ำ
มรรค ๔
โสดาปัตติมรรค
สกทาคามิมรรค
อนาคามิมรรค

อรหัตตมรรค
มรรค แปลว่ำ ทำง หมำยถึง ทำงเข้ำถึงควำมเป็นพระอริยบุคคล ได้แก่ ญำณคือ

ควำมรู้ที่เป็นเหตุให้ผู้ปฏิบัติสำมำรถละสังโยชน์ได้เด็ดขำดเป็นชั้น ๆ
ผล ๔
โสดาปัตติผล
สกทาคามิผล
อนาคามิผล

อรหัตตผล
ผล เป็นธรรมำรมณ์สืบเนื่องมำจำกมรรค เป็นผลที่เกิดจำกกำรละกิเลสได้ด้วยมรรค

หรือธรรมำรมณ์อันพระอริยบุคคลพึงเสวยเป็นชื่อของโลกุตรธรรมที่ใช้คู่กับมรรค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น