วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2562







ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง

วันพฤหัสบดี ที่ ๑๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

๑.          ภิกษุรักษาพระวินัยดีแล้ว ย่อมได้อานิสงส์อย่างไร?

ตอบ     ย่อมได้อานิสงส์ คือไม่ต้องเดือดร้อนใจ ได้รับความแช่มชื่น ได้ประพฤติดีงามจะเข้าหมู่ ภิกษุผู้มีศีลก็องอาจไม่สะทกสะท้าน ฯ

๒.        นิสสัยคืออะไร?มีเท่าไร?อะไรบ้าง?

ตอบ     คือปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิต ฯ มี ๔ อย่าง ฯ
๑. เที่ยวบิณฑบาต ๒. นุ่งห่มผ้าบังสุกุล
๓. อยู่โคนต้นไม้          ๔. ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า ฯ

๓.         พูดอย่างไรเรียกว่า อวดอุตตริมนุสสธรรม?

ตอบ     พูดอวดคุณพิเศษอันยิ่งของมนุษย์ เช่น ฌาน วิโมกข์ สมาธิ ส มรรค ผล นิพพานเรียกว่า อวดอุตตริมนุสสธรรม ฯ

๔. ปาราชิก ๔ สิกขาบทไหนที่ภิกษุใช้ให้คนอื่นทำก็ต้องอาบั? ตอบ สิกขาบทที่ ๒ และสิกขาบทที่ ๓ ฯ

๕.         คำว่า“ภิกษุประทุษร้ายตระกูล” ในสิกขาบทที่๑๓ แห่งสังฆาทิเสส หมายถึงการทำอย่างไร?
ตอบ     หมายถึงการที่ภิกษุประจบคฤหัสถ์ ยอมตนให้เขาใช้สอยเช่
ส่งข่าวให้เขาเป็นต้น
หรือด้วยการเอาเปรียบโดยเชิงให้สิ่งเล็กน้อยด้วยหวังได้มาก

๖.          จีวร ผ้านิสีทนะ อังสะ ผ้าเช็ดหน้า ย่ามผ้า เมื่อจะใช้สอยไหนควร พินทุอย่างไหนไม่ควร?เพราะเหตุใด?
ตอบ     จีวรและอังสะ ควรพินทุ เพราะใช้ห่ม
ผ้านิสีทนะ ผ้าเช็ดหน้า และยไม่ต้องพินทุามผ้า เพราะไม่ได้ใช้นุ่งห

๗.         ไตรจีวร มีอะไรบ้าง?ภิกษุอยู่ปราศจากไตรจีวรแม้คืนหนึ่งต้องอาบัติ อะไร ?

ตอบ     มี สังฆาฏิ คือผ้าคลุม อุตตราสงค์ คือผ้าห่ม และอันตรวาสก คือผ้านุ่ง ฯ ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ฯ

๘.         ภิกษุเข้าบ้านในเวลาวิกาล บอกลาภิกษุอื่นที่มีอยู่โดยไม่ ต้องอาบัติอะไรหรือไม่?
ตอบ     ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่มีกิจรีบด่วนฯ


 ๙. เสขิยวัตร คืออะไร?โภชนปฏิสังยุตว่าด้วยเรื่องอะไร ? ตอบ คือ วัตรหรือธรรมเนียมที่ภิกษุจำต้องศึกษา ฯ
ว่าด้วยเรื่องการรับและการฉันอาหาร ฯ

๑๐.     ภิกษุฉันพลางพูดพลาง จะต้องอาบัติอะไรหรือไม่?

ตอบ     พูดทั้งที่ยังมีอาหารอยู่ในปาก ต้องอาบัติทุกกฏ พูดไม่มีอ ไม่ต้องอาบัติ ฯ





--------------------


ให้เวลา ๓ ชั่วโมง






วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วิชาพุทธประวัติ นักธรรมชั้นตรี 2543

ปัญหาและเฉลยพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓

วันศุกร์ ที่  ๑๗  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓

----------------------------------------

๑.

๑.๑

พุทธประวัติคืออะไร ?



๑.๒

มีความสำคัญอย่างไรที่ต้องเรียนรู้ ?


๑.

๑.๑

คือ เรื่องที่พรรณนาความเป็นไปของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



๑.๒

มีความสำคัญในการศึกษาและปฏิบัติพระพุทธศาสนา เพราะแสดง

พระพุทธจริยาให้ปรากฏ เช่นเดียวกับตำนานย่อมมีความสำคัญต่อชาติของตน ที่ให้รู้ได้ว่า ชาติได้เป็นมาแล้วอย่างไร


๒.

๒.๑

เจ้าชายสิทธัตถะทรงปรารภถึงอะไรจึงเสด็จออกบรรพชา ?



๒.๒

ทรงบรรพชาเมื่อพระชันษาเท่าไร ?  และทรงบรรพชาได้กี่ปีจึงตรัสรู้ ?


๒.

๒.๑

ทรงปรารภถึงความแก่   ความเจ็บ   ความตาย และ สมณะ



๒.๒

เมื่อพระชันษา ๒๙ ปี, และทรงบรรพชาได้ ๖ ปี จึงตรัสรู้


๓.

๓.๑

ญาณ ๓ ที่พระพุทธองค์ทรงได้ในวันตรัสรู้คืออะไรบ้าง ?



๓.๒

ญาณข้อไหน ที่ทำให้พระองค์ทรงสำเร็จความเป็นพุทธะโดยสมบูรณ์ ?


๓.

๓.๑

คือ ๑) ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ

      ๒) จุตูปปาตญาณ

      ๓) อาสวักขยญาณ



๓.๒

ญาณ ข้อที่ ๓


๔.

๔.๑

พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาเมื่อไร ?



๔.๒

ใจความแห่งปฐมเทศนานั้นว่าด้วยเรื่องอะไร ?


๔.

๔.๑

เมื่อวันเพ็ญ เดือนอาสาฬหะ สองเดือนหลังจากตรัสรู้



๔.๒

ว่าด้วยที่สุดสองอย่างอันบรรพชิตไม่ควรเสพ, มัชฌิมาปฏิปทา, และอริยสัจ ๔


๕.

  พระธรรมเทศนาต่อไปนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงที่ไหน และมีผลอย่างไร ?



๕.๑

อนัตตลักขณสูตร                  ๕.๒  อาทิตตปริยายสูตร


๕.

๕.๑

ทรงแสดงที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน  มีผลให้พระปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ได้บรรลุอรหัตตผล



๕.๒

ทรงแสดงที่ตำบลคยาสีสะ ใกล้แม่น้ำคยา มีผลให้พระภิกษุปุราณชฎิลบรรลุอรหัตตผล


๖.

๖.๑

พระพุทธองค์เสด็จกรุงราชคฤห์ครั้งแรกภายหลังตรัสรู้ประทับที่ไหน ?



๖.๒

ทรงรับถวายพระอารามแห่งแรกชื่ออะไร ?


๖.

๖.๑

ประทับ ณ ลัฏฐิวัน  สวนตาลหนุ่ม



๖.๒

ชื่อว่าเวฬุวนาราม


๗.

๗.๑

พระพุทธองค์ทรงจำพรรษาสุดท้ายที่เมืองอะไร ?



๗.๒

ทรงรับภัตตาหารมื้อสุดท้ายที่เมืองอะไร ?


๗.

๗.๑

ที่เวฬุวคาม เขตเมืองเวสาลี



๗.๒

ที่ปาวานคร




                                  ศาสนพิธี


๘.

   ผู้ศึกษามีความรู้เรื่องศาสนพิธีต่อไปนี้อย่างไร ?



๘.๑

บุญพิธี                                  ๘.๒  ทานพิธี


๘.

   รู้อย่างนี้คือ



๘.๑

บุญพิธี ว่าด้วยวิธีทำบุญมี ๒ อย่างคือ ทำบุญงานมงคล เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญฉลองอายุ เป็นต้น และทำบุญงานอวมงคล เช่น งานศพ เป็นต้น



๘.๒

ทานพิธี ว่าด้วยพิธีถวายทานต่าง ๆ เช่น สังฆทาน เป็นต้น


๙.

  จงอธิบายวิธีปฏิบัติของพิธีกรรมต่อไปนี้ ?



๙.๑

วิธีกราบเบญจางคประดิษฐ์          ๙.๒  วิธีกรวดน้ำ


๙.

๙.๑

การกราบเบญจางคประดิษฐ์  มีวิธีปฏิบัติดังนี้   ชายนั่งคุกเข่าท่าพรหม  หญิงนั่งคุกเข่าราบท่าเทพธิดา เข่าทั้งสองจดพื้น ประนมมือไหว้ หมอบกราบลง ทอดฝ่ามือทั้งสองที่พื้น ให้ฝ่ามือห่างกันเล็กน้อย ก้มศีรษะลงระหว่างฝ่ามือทั้งสองนั้น ให้หน้าผากจดพื้น


๙.๒ การกรวดน้ำมีวิธีปฏิบัติดังนี้ เมื่อพระสงฆ์ผู้เป็นประธานในพิธีอนุโมทนา เริ่มว่าบท "ยถา วาริวหา...." ทายกพึงกรวดน้ำ พอถึงบทว่า "สพฺพีติโย..." เป็นต้นไป พึงประนมมือรับพรไปจนจบ แล้วกราบ ๓ หน ฯ

๑๐.       ๑๐.๑ พุทธมามกะ หมายถึงบุคคลเช่นใด?

            ๑๐.๒ จงเขียนคำถวายสังฆทานประเภทสามัญพร้อมทั้งคำแปล?

๑๐.๑ หมายถึงผู้ประกาศตน เป็นผู้รับนับถือพระพุทธเจ้าเป็นของตนเป็นการแสดงให้ปรากฏว่า ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาประจำชีวิตของตน นั่นเอง ฯ

๑๐.๒ คำถวายสังฆทานประเภทสามัญ เขียนดังนี้

อิมานิ มยํ ภนฺเต, ภตฺตานิ, สปริวารานิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส, โอโณชยาม, สาธุโน ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ, อิมานิ, ภตฺตานิ สปริวารานิ, ปฏิคฺคณฺหาตุ, อมฺหากํ, ทีฆรตฺตํ, หิตาย, สุขาย

คำแปล

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวาร ทั้งหลายเหล่านี้แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวารทั้งหลาย เหล่านี้เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ