แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คิดจะสึก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คิดจะสึก แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2563

คิดจะสึกใหม?


คิดจะสึกใหม?

...เชื่อว่าพระแทบจะทุกรูปมักจะพบกับคำถามนี้ แต่คำตอบนั้นอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการศึกษาในพระพุทธศาสนาที่แต่ละรูปได้รับ ผนวกกับความเข้าใจ ความลึกซึ้ง และฐานที่ใช้คิดว่า ใช้อารมณ์หรือเหตุผลในการตอบ
...แต่เมื่อประมวลคำตอบของพระหลาย ๆ รูปที่เคยเล่าสู่กันฟังซึ่งคำตอบก็คล้าย ๆ กัน คือ " ไม่แน่นอน " หรือ " ไม่มีใครรู้อนาคตได้" ที่ตอบว่า " สึก" และ "ไม่สึก" มีส่วนน้อย
...สำหรับรูปที่ตอบว่า "สึก" ส่วนใหญ่มักจะเป็นพระที่ท่านบวชตามประเพณี บวชแก้บน หรือลางานมาบวช ฯลฯ ทำนองเดียวกัน เหตุผลก็ตามนั้นเลย คือ ลางานมาได้ 15 วัน, พ่อแม่อยากให้บวชก่อนแต่งงาน หรือ บนบานเอาไว้
...รูปที่ตอบว่า "ไม่สึก" ส่วนใหญ่มักจะเป็นพระที่มีอายุมากแล้ว อาจจะบวชมานานหรือพึ่งบวชก็ได้ มักจะตอบเหมือน ๆ กันทำนองนี้ ส่วนเหตุผลของท่านก็มีหลาย ๆ แบบแตกต่างกันไปไม่เหมือนกันเสียทีเดียว​เช่น​ แก่แล้ว​ อยากหาที่สงบปฏิบัติ​ หากเป็นพระนักศึกษาก็มักบอกว่า "ไม่สึกเพราะยังเรียนไม่จบ" ซึ่งอาจเป็นบาลี หรือ ปริญญา ก็สุดแท้แต่ (ซึ่งคำตอบนี้ หมายถึง เรียนจบค่อยสึก)
...เราจะพิจารณาเรื่องนี้กันทำไม? เพราะว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับความยั่งยืนของพระพุทธศาสนาในระยะยาว มีคณะสงฆ์บางแห่ง บางประเทศ มีกฎของท่านว่า บวชแล้วห้ามสึก ถ้าหากฝ่าฝืนก็จะมีโทษในทางกฎหมาย หรือในทางสังคม อาทิ ศรีลังกา ธิเบต และที่อื่น ๆ อีกหลายแห่ง (แต่คณะสงฆ์ไทยไม่มีกฏนี้) ที่ท่านกำหนดเช่นนั้นก็อาจเพราะเห็นว่า " การที่บุคคลจะบวชเข้ามาในพระศาสนาเป็นพระภิกษุ สามเณร ได้นั้นควรจะต้องมีศรัทธา (ภักติ) นำ มีความรู้ความเข้าใจในอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนามาแล้วเป็นอย่างดี จนตัดสินใจปลงผม โกนหนวดออกบวชในพระศาสนา ผู้คนก็เคารพกราบไหว้บูชา และถวายจตุปัจจัยบำรุงเลี้ยงท่านเป็นอย่างดี จู่ ๆ ท่านจะมาบอกว่า " พอแล้ว "และ สิกขาลาเพศไปเฉย ๆ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นกระนั้นหรือ (การตีความของผู้เขียนส่วนตัว)
...และอีกกรณีตรงกันข้ามท่านที่ไม่สึก ไม่สึกนี้ก็ไม่แน่ว่าจะเข้าใจอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา ที่บวชเข้ามาเพื่อสิกขา(หรือศึกษา) มุ่งพัฒนาความรู้จากระดับที่ไม่รู้ ไปสู่ความเป็นผู้รู้ บางรูปก็อยู่ไปวัน ๆ ไม่คิดที่จะเรียนรู้ศึกษาอะไร ทำนองว่า ใช้ชีวิตให้หมดไป เดี๋ยวก็ตายแล้ว ถ้าอย่างนี้การไม่สึกของท่านอาจต้องมีการปรับปรุงให้ตรงทิศทางสักหน่อย
ไม่สึกเพราะเป็นห่วงลาภสักการะ ไม่สึกเพราะแก่แล้วไม่มีทางไป หรือ ไม่สึกเพราะศรัทธาแน่นแฟ้นในพระศาสนา ต้องการทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา และสุดท้าย คือ " ไม่สึกเพราะเกิดรู้แจ้งในภายใน อาสวะเบาบาง หรือหมดสิ้นไป "
...จะเห็นว่ามันมีหลายระดับสุดแต่ว่า แต่ละรูปท่านจะปรับปรุงไปทางไหน ท่านปรับอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น.
ขอบคุณบทความจาก FB Adirek Arthitchaphalo