วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

สรุปนักธรรมชั้นโท หน้าที่ 8/11

 










สรุปอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท


( 62, 57) พระอรหันต ค์ ี่พระพุธเจ้าทรงส่งไปกาพระศา ครั้งรกมีใรบ้าตอบ มีพระปัญจวัคคีย์ ๕ พระยสะ ๑ สหายของพระยสะที่ปรากฏนาม ๔ และที่ไม่ปรากฏนามอีก ๕๐ ฯ ( 59, 48) ประวัติุพุบุคคมีความคัต่อผู้ศึกาอย่า?

อบ ท าห้ผู้ศึกาไรับควารู้ในจริยาวัรแะคุณคามดีที่่าบ าเพ็มา อดจนถึานาร่วยเแผะพุธศาสนาอัท าห้เจริญ ืบมาถึทุวันี้ าให้เกิดควาื่อมวามนบถือ เป็นิฏฐติอัดี มา้อมมาปฏิบติตด้

(ปี 57) พระสาวกที่พระพุทธองค์ทรงส่งไปประกาศพระศาสนาครั้งแรก มีจ านวนเท่าไร? ประกอบด้วยใครบ้าง?

ตอบ มี ๖๐ องค์ ประกอบด้วยพระปัญจวัคคีย์ พระยสะ สหายพระยสที่ปรากฏนาม องค์ และไม่ปรากฏนามอีก ๕๐ องค์

(ปี 50) มาพุ ปัจเจ และอุพุ ต่างกัอย? การเยนอุพุธประวัต ร็ประโยน์ย่า?

อบ         ัมมัมพุธะ รัสรู้เอยช ู้อื่ให้รู้ตมได้ด้วย ปัจเจกพุธะ ตรรูเฉพาะต แตม่ามรถสู้อื่ให้รู้ตมได้

ุพุธะ ตรัรูตาม คืมีพุธเจ้านจึรูตาได้ รถสู้อื่ให้ะท าตมด้วย เพื่อจะได้ราบควาเป็นไฏิปทาขท่าน ี่ได้ช่ยประกาพระศาาใที่ั้น จนเป็นเเจิญแร่หายแะมั่นคง ้วจัด้ถือเปทิฏฐานุคติ าเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านโดยควรแก่ฐานะของตน ทั้งให้ส าเร็จเป็นสังฆานุสติมั่นคงอีกด้วย

(ปี 45) การศึกษานุุทประมีปรโยน์ย่างไ? มื่อครั้งี่พะอรหันต ค์ เกิดขึ้น มีใครบ้า?

อบ น าห้เกิดความื่อมความนับือ ก าหนดแะจ าวัรปฏิบัติอันดงามขท่าเป็ปฏิปทาเครเนินีวิตขตน และมื่มดีขพราวกราฏแจะิดชูเกีิคณขพระศสดให้ยิ่ขึ้น

มีพระพุทธองค์ พระปัญจวัคคีย์ พระยสะ สหายของพระยสะที่ปรากฏนาม และที่ไม่ปรากฏนามอีก ๕๐

(ปี 45) พระพุาวกไปประกาศนา เพระทรงเห็นปะโยช์อ?

อบ ทรเห็นปรยช์เกื้อูลมหาชน เพื่ใหเห็นธรมแะตั้ยู่ในสัมมฏิบัตอัเป็ปัจจัยแห่ความสุขค

(ปี 43) การศึกษานุุทประให้ประโยช์อย่า่อจ้าขะวติ? การศึกษานุุทประติใหคุค่าอย่าู้ศึก?

อบ เป็นการปราศเกีิคพระาวู้เป็นอุปแก่ะศนา เชิดพระคท่าน าเพื่นร่วมศาาให้เกิดาทะะนบถือ ามด พระปราฏแ้วจัเชิดูพระเกีิคณขพระศดายิ่ขึ                                                               ให้คุณค่าในด้นก หนดะจวัตรปฏิบติอันามท่ามาป็นปฏิปาเคื่อ าเนินีวิตขตน

 

·        พุทธบุคคล มี ประเภท คือ

.  สัมาสมพุธะ รัรู้โดยช ู้อื่ให้รู้ตมได้ด้วย

.  ปัจเจุทธะ รู้ะต แตม่ามาู้อื่ให้รูตาด้

.  อนุพุธะ รูตาม คืมีพุธเจ้าั่จึงรูตาด้ ามรถสู้อื่ให้ะท ามด้วย

(ปี 64, 61, 56, 49) ุพุธบุคล คืใค? มีควา าคญอย่าง ?


ตอบ คือ สาวกผู้ตรส


รูตามะพเจ้า นุุทบุคคลเป็นสนะในรัต เป็นยายืนยัความต


รู้ของพระพุทธเจ้า และเป็นก าลัง


าคัญช่วยะอค์ประศพระพศาสนา อัเป็นปะโยช์สุขแนเป็นันมาก ร่หยมาถึปัจจุบัน

(ปี 63, 51) พุธบุคคล มีกี่ประ? อะไรบ้าง? อบ มี  คือ . มาพุธะ . ปัจจกุท .

(ปี 62, 47) ุพุธบุคคล คือคร ? เป็นไเฉพาะบรพิตหรืพาะคฤหัสถ์ ?


อบ คือ าวกพระพุธเจ้ ทีท่าด้รัรูรคผลตมพระเจ้า เป็นได้ทั้รพิตแฤหัสถ์

(ปี 60) มาพุธะ ปัจเจก และอุพุธะ ต่ากันย่าง ?

อบ         ัมมัมพุธะ รัสรู้เอยช ู้อื่ให้รู้ตปัจเจกพุธะ ตรรูเฉพาะต ู้อื่ให้รู้ตาม

ุพุธะ รัรูตามทีะพุธเจ้ทรั่อน ามรถสู้อื่ให้รู้ตาม

( 52) พราวกสงฆู้ด้ชื่ว่านุุทะมีความส คัญอย่า?

อบ มีความ าคญคือพราวกฆ์จัเป็นนะรหนึ่รันะ ซึ่งเป็นผูมีศีะทฐิเกัน ถ้าไม่มีพาวฆ์เป็ู้รู้

ปฏิบัติธรม รูพระพเจ้าก็ ร็จะโยช์แะพฆ์นั้นไเป็นก าลญ่ขอพระศานา อั่วยประศพระธรม

ประดิษฐานพระพุทธศาสนาขึ้นเพื่อประโยชน์สุขแก่ชนเป็นอันมาก

(ปี 49) ุพุธบุคคล คืคร? ท่านเห่านั้มีควา าคัต่อพระาสดาอย่า ?


ตอบ คือ สาวกผู้ตรส


รู้ตามพระพุทธเจ้า มีความส าคัญอย่างนี้ แม้พระศาสดาได้ตรส


รู้ทรสดธรร แต่มื่อขาดู้ธรมปฏิบัต


ความตรสรู้ของพระองค์ก็ไม่สาเรจ็ ประโยชน์

(ปี 43) ุพุธบุคคลคือบุคกไห? ด้ชื่ว่าย่างั้นเพรหตุไร? ุพุธบุค เป็นนัหรือุคคลทั่?

อบ คือบุคคลู้เป็าวกะพุธเจ ไดื่อย่างั้นเพระเนผูู้้ตมพระพุจ้า เป็นนักก็มี เป็นบุคคลทั่วไปกมี

 

 

พระเจ้าพิมพิสาร

·        ปกครอเมือราคฤห์ แคว้มคธ

·        บราบัน เพระได้ัง นุปุพีถาและอรัจ

·       ายพรราาน เพื่อวัดแห่แรกขพระพุธศาสนา ื่อ่า วัดเวฬุวั ทรายด้วยวิีการทรงจับเต้าท ้า หลั่งลงถวายพระราชอุทยานเวฬุวันนั้นแก่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

(ปี 55) การที่พระเจ้าพิมพิสารเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เป็นเหตุให้พระองค์ได้รับอนุตตริยะอะไรบ้าง?

ตอบ ได้อนุตตริยะ ๓ อย่าง คือ .พระองค์ได้เฝ้า เป็นทัสสนานุตตริยะ .ได้ทรงสดับธรรม เป็นสวนานุตตริยะ

.ได้ธรรมจักษุเห็นธรรมนั้น เป็นลาภานุตตริยะฯ

(ปี 52) พระเาพิมิสรทรงถยพอุานเวฬุด่พรุสฆ์มีพระพุจ้าเป็นธาน ทรพิจาเห็นอย่าะทรง ายด้วยวิธีารอย่า? อบ ราะทรงเห็นว่า อุยานเฬุวัเป็นที่ไ ม่ใกล้นัก แต่บ้านบริบูณ์ด้วยทาเป็นทีปแะเี่มา ควร ทีู้มีธุรจะพึปถึง ลาวันม่ื่อกลนด้วหมู่คน คืนเงีบเียงี่จะอื้อกึก้อง ราศจกลมแต่ชที่เดิเข้าอกสมประกบ กิจขผู้ต้อการที่สัด ควี่หลีก้นยูามวิ ควเป็นที่เด็จอยู่ขอพระศดานี้ ะทรงวายด้ยวิธีทรจับพระ เต้าทเตด้วยน ้า ั่ายพระราอุทยานเวุวันั้นแ่พุสฆ์มีพระพุจ้เป็นธาน

(ปี 47) ในคราวที่เสด็จไปโปรดพระเจ้าพิมพิสาร ลัฏฐิวัน มีพระสาวกตามเสด็จไปเป็นจ านวนมาก ผู้ที่เป็นหัวหน้าของพระสาวกเหล่านั้นคือใคร? และท่านมีส่วนส าคัญในการประกาศพระศาสนาในครั้งนั้นอย่างไร?

อบ คือ อุรุเวลสส ท่าเป็นที่เคารพนับือองมห ด้ปะกาศควมีแก่นสรแห่ัทิเก่าขตน และควมที่ตนนสาวก พระพุค์ าให้เจ้าพิมพิสร้อมด้วยริวาร ่วน ้อมจิตดับพระรรมเทศนารื่อุปุพีถาและอรัจ เจ้าพพิสารพร้อด้วยบร ส่วน ด้ดตาห็น ีก ส่วน ตัอยูคมน์


มูุขอบ

·        พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน จึงขอบวช

·        พระอุรุกัปะ เห็นว่ัทิขตนหาแก่นสาด้ ด้ควาสลดใจ จึงวช

·        พระรัฐบาล บวชเพราะศรัทธา

·        พระนันทะ บวเพรา าใจ

·        พระวักกลิ บวชเพราะหลงไหลในรูป

·       พระมหากัจจายนะ ท่านได้รับมอบหมายจากพระเจ้าจัณฑปัชโชตให้ไปทูลเชญพระพุทธเจ้าเสด็จกรุงอุชเชนี จึงทูลลาบวชด้วย ครั้นได้เข้า ้าฟัรรมแล้ว อรห จึงูลบวช

·        บวชเพราะเบื่อหน่าย คือ พระยสะ พระมหากัสสปะ

·        บวเพราะเพื่ คื พระัททิยากยะ พระวิ ุพาหุ ปุณ ระควปติ ะเพื่นบอีก ๕๐ คน ฯ  ( 61) จงระบุชื่พราวกผู้ที่เพราตุต่อไนี?  . พราะศัท   . เพระจ า                                  . เพราหลรูป ตอบ . บวชเพราะศรัทธา คือ พระรัฐบาล         . บวชเพราะจ าใจ คือ พระนันทะ            . บวชเพราะหลงใหลในรูป คือ พระวักกลิ (ปี 56) พระสาวกผู้บวชเพราะเบื่อหน่าย บวชเพราะเพื่อน คือใคร?

ตอบ        บวชเพราะเบื่อหน่าย คือ พระยสะ พระมหากัสสปะ

บวชเพราะเพื่อน คือ พระภัททิยศากยะ พระวิมละ พระสุพาหุ พระปุณณชิ พระควัมปติ และเพื่อนชาวชนบทอีก ๕๐ คน

(ตอบองค์ใดองค์หนึ่งก็ให้ และตอบองค์อื่น ถ้าถูกก็ควรให้)

 

 

เอตทัคคะ แปลว่า ผู้เลิศ                (ให้ท่องไปสอบ)

·        พระอัญโกฑัญะ ญญ (แปลว่า ู้รู้ีนาน ...มาย ู้มีอายุมาก ีปบกาก)

·        พระอุรุกัปะ ีบริวรมาก

·        พระมหากัสสปะ ผู้เลิศในทางถือธุดงค์

·        พระปุณณมันตานีบุตร ผู้เลิศในทางธรรมกถึก

·        พระสารีบุตร ผู้เลิศในทางมีปัญญามาก

·        พระโมคคัลลานะ ผู้มีฤทธิ์มาก

·        พระฏิกั แสวยถ้ยค าอันไพเาะ (ู้มีวจารา)

·        พระาห ผู้ใร่ใการศึกษา

·        พระาธะ ู้มีฏิ คือ มีญแจ่แจ้ธรรเทศนา

·        พระาช ู้ทรจีศราหม

·        พระอุบาลี ผู้ทรงพระวินัย


·        พระอานนท์ ผู้เลิศในทางพหูสูต มี ด้าน คือ เป็นพหูสต

·        พระอนุรุทธะ ผเลิศในทางทิพยจักขุญาณ (ตาทิพย์)


มีสติ มีคติ มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐาก


·        พระมหากัจจายนะ ผู้เลิศในทางผอธิบายเนื้อความย่อให้พิสดาร

·        พระัฐบ ผู้ิศใทาู้บวด้ยศรัท


·        พระวักลิ ิศใทาัทาธิม คือ ู้พ้กิเด้วยรัทธา

·        พระโกฬิวิสะ ู้ิศทามีวามเพียรราภแ้ว

·        พระกาฬุทายี ิศทายังให้เลื่อม                                     ...กนัเอ าจจะน ามาอกนัรรมโก็ด้ใหเตปด้วย

·        พระพาหิยทารจีร ู้ลิศทาาภิญารัรู็ว ...กนัรมเอ าจจะมาออนักก็ด้ให้รีด้วย

·        กิสาโคตมีเถรี ในทางทรงไว้ซึ่งจีวรอันเศร้าหมอง (ภิกษุณี)


·        กุณฑเกถรี ทาขิปปาภิ หรือ


รู้เร็ว (ภิกษุณี)


·        ภัททาปิลานีเรี ทาซึ่งุพเพิวาส (ภิกุณ)

·        ภัททาัจจาาเถรี ทาถึซึ่งภิญาอันหญ่้ว (ภิกุณ)

·        โสณาเถรี มีควาเพียรแล้ว (ภิกษ)

·        มหาปชาบดีโตมีเรี ญญ (ภิกษุณี)

·        ธรรมทินาเรี ู้ิศใทาธรึก (ภิกุณ)

·        อุบลวรรณาเถรี ผู้เลิศในทางมีฤทธิ์ (ภิกษุณี)

·        ปฏาจาเถรี ิศทาทรวิน (ภิกษุณี)

·        เขมาเถรี ู้ิศใทามีปัญ (ุณ)                                     ...ออนัธรรมเอก อาจจะน ามาออนักโทได้ใหเตด้วย

·        จิตตคฤหบดี ผู้เลิศในทางธรรมกถึก (ฝ่ายอุบาสก)                            ...ออกนักธรรมเอก  อาจจะน ามาออกนักธรรมโทได้ให้เตรียมไปด้วย

·        นางขุชชุตตรา ผู้เลิศในทางธรรมกถึก (ฝ่ายอุบาสิกา) ...ออกนักธรรมเอก  อาจจะน ามาออกนักธรรมโทได้ให้เตรียมไปด้วย

 

 

( 64, 58) พระเถระะเรีู้มีชื่ต่ปนี้ รับเอตทัคะใทา?

. พระมหากัจจายนะ                . พระโมฆราช             . พระราหุล            . ปฏาจาราเถรี             . อุบลวรรณาเถรี

ตอบ        . พระมหากัจจายนะ เป็นเอตทัคคะในทางอธิบายคาย่อให้พิสดาร . พระโมฆราช เป็นเอตทัคคะในทางทรงจีวรเศร้าหมอง

. พระราหุล เป็นเอตทัคคะในทางผู้ใฝ่ใจศึกษาพระธรรมวินัย . ปฏาจาราเถรี เป็นเอตทัคคะในทางทรงวินัย

. อุบลวรรณาเถรีเป็นเอตทัคคะในทางมีฤทธิ์

(ปี 62) พระโมฆราช และ พระอุบาลี ไดรับการยกย่องว่าเลศในทางไหน?

อบ พระ ับกย่อว่เป็นผู้ทรงจีวเศหม พระอุบาล ด้ยกย่อว่าเป็นผู้รงวินัย

( 57) ภิกษุ ภิุณ ู้เอตทัคทาเป็นพระธรมกถึก คือคร? อบ ภิกษุ คือปุมันตานบุต ภิกษ คืนาธรมทินถรี

 

 


พระพุทธเจ้าอุปสมบทให

·        พระอัญญาโกณฑัญญะ พระพุทธเจ้าตรส

โดยชอบ เพราะท่านเป็นโสดาบันอยู่


ว่า เป็นภิกษุมเถิด รมอั่าวดี้ว จงพรหมจรรย์เ ื่อท ที่สุดุกข


·       พระยสะ พระพุทธเจ้าตรส แล้ว


ว่า จงเป็นภิกุมาเ ธรมอันเร่าดีแ้ว จงติพรหมย์เถิ เพราท่าุพะอรหต์


·        พระมหากัสสปะ อุปสมบทด้วยวิธพิเศษ คือ อุปสมบทด้วยวิธีรับพระโอวาท ข้อ

·        พระนางมหาปชาบดีโคตมี อุปสมบทด้วยวิธีพิเศษ คือ อุปสมบทด้วยวิธีรับครุธรรม

 

 

เพรังธากะพทธจ้า

·        พระอัญโกฑัญะ บรุพอรหัเพรา ัตัก

·       กุลบตร หัเพระฟัง อนุปุพีก (ทาน ศีล สวรค์ โทแห่กาม านิส์ขการอกบ) และอริสัจ ป่า อิสิปตนมคทายวัน แขเมือพารา


·        ชฎิล (พระอุรุเวลกัสสปะ พระนทีกัสสปะ พระคยากัสสปะ) บรรลพระอรหัตต์เพราะฟัง อาทิตตปรย

·        พระมหากสสะได้รับอุมบท้วนาน ัน จึงรรลุพระรหต์


ายสูตร


 

 

พระสูตร / พระธรรมค˚าสอน

·       ธัมมรกัปปตต ว่าด้วยิ่ ที่ม่คเสส่วนุด อย่ คือ .กามุขัลิกานุยค .กิลมถานโย , มัฌิมาฏิปทา ข้ปฏิบัติอัเป็ทาายกลอริรคีองค์ 8 และอริสัจ => แก พระปญจวัคคีย์

·        อนัตลัสูตร ว่าด้วยเรื่อง ันธ์ คือ รูป เวนา สัญา ขาร ิญาณ ม่เที่ยง เป็นุก เป็นนัตตา ม่ควรดมั่นือมั่น =>

แสดงแก่ พระปัญจวัคคีย์

·       ทิิยยสู ว่าด้วยเื่อง อายตนภายใน ายตภาย วิญญ ะเนาซึ่เกตา าดับ ป็นร้อน ร้อน เพราะไฟคือความก าหนัด ความโกรธ ความหลง และร้อนเพราะความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ่าไร าพัน ความคับแค้นใจ

=> แสแก ฎิล ี่น้ พร้อมด้วยบริว ,๐๐ คน

·       เวทนาปริคคหสูตร มีใจความว่า ให้พิจารณาร่างกาย ซึ่งมีความแตกท าลายไม่ยั่งยืน และแสดงผลเสียของการยึดมั่น พร้อมกับตรัสให้ ลิกิฏฐิอย่านั้นีย => แก ทีฆนปริพา ้าสุกราตา เขาคฌกูฏ เมือคฤห์

(ปี 58) พระธรรมเทศนาที่ได้ชื่อวาอาทิตตปริยายสตร เพราะเหตุไร ? พระพุทธองค์ทรงแสดงแก่ใคร ? ตอบ เพราะแสดงสภาวธรรมเป็นของร้อน อันเหมาะแก่บุรพจรรยาของผู้ฟัง ฯ แก่พวกปุราณชฎิล (ปี 56) พระศาสดาทรงแสดงอาทตตปริยายสตรโปรดพวกปุราณชฎิลเพราะเหตุไร?

ตอบ เพราะเป็น พระสตูรที่เหมาะแกบุ่รพจรรยาของพวกปุราณชฎิล ผู้อบรมมาในการบูชาเพลิง

( 51) ัตตักตร ทิตตปริย ่าด้วื่ออะ? ทรแสแก่?

อบ ัตตัก ว่าด้วยรื่ ันธ์ คือ รูป เวนา สัญ ขาร วิญญ เที่ยง ป็นุก เป็นอัตต ม่ควยึดมั่นถืมั่น ทรแสแก่พระปัญจวัคคีย์

อาิตตปริย ่าด้วื่อง สิทั้ปวป็นขร้อน ร้อเพราฟคืราคะโมหะ ทรแสแก่ฎิล ี่น้อง ร้อมด้วยบริว , คน

(ปี 48) าที่มีอยู่ในธัมมจักกัปปวตตนสูตรต่อไปนี้ ได้แก่อะไร?                                      . ส่วนสุด อย่าง                      . มัชฌิมาปฏิปทา

อบ         . ่วนสุด ย่าง คือ . ามัลิกานุยค ความมกมุ่นอยู่าม . ัตตมถานโย ามท ตนให้ล าบาก . มัชฌิมาปฏิป ด้แก่ข้ปฏิบติายลาง คือ มรคมีอค์


พระปัญจวัคคีย์ (โกณฑัญญะ วปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ)

(ปี 62, 60, 44) พระปัญจวัคคีย์ด้ ร็จเป็นอรหัต์ ด้วยพธรรมเทศื่อ ? ควาย่อว่าย่างไร ? อบ ื่อ ัตตัก ามย่อ่า รูป เวนา ขาร วิญญ เที่ยง เป็นทุข์ เป็ัตต (ปี 54) ภิกษุผู้รัตตัญญู ย่อมมีคุณสมบัตเช่นไร จึงพ้นจากค าต าหนิว่า โตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะบวชนาน?

อบ ย่อมเป็นผู้เก่าแก่ ด้พบห็แลันดในิจการขอคณ ย่มอาจจัด อาจ าให้ส าเด้วยตหรือ่าแนะน ู้อื่น ป็นจ้าแบบเจ้า แผนดุจผู้รักษาคลังพัสดุ

(ปี 52) เอหิภิกขุปสมปทาี่ปรทาแก่ปัญจวัคคย์ และะต่ากันย่า เพระเตุไร? ตอบ ต่างกันคือที่ประทานแก่พระปัญจวัคคีย์มค าว่า เพื่อท าที่สุดทุกข์โดยชอบ ่วนี่ประทาแก่ะยะไม่มีค ว่า เพื่อ าที่สุดทุข์โดอบ เพระพระด้ถึที่สุดทุข์้ว

( 52) พระปญจวัคคีย์อหนบด้ศิษย์มีควา าคต่อพราส ศิย์นัื่อะไรแลเป็นู้ ิศใทาด้านใด? อบ พระอัญโก ด้ปุมัตานีบุนศย์เป็ู้เทาธรรมกถึก พระอัิได้พรีบุป็นศิย์ เป็นผู้ิศใทามีปัญามาก

(ปี 52) พระปัญจวัคคีย์ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์พร้อมกัน แต่พระอัญญาโกณฑัญญะได้รับยกย่องเป็นปฐมสาวก เพราะเหตุไร?

ตอบ เพราะพระอัญญาโกณฑัญญะเป็นผู้ได้ดวงตาเห็นธรรมก่อนและได้รับอุปสมบทก่อนองค์อื่น

(ปี 51) ปัญจวัคคีย์ทั้ง ท่าน ได้ดวงตาเห็นธรรมก่อนหลังกันอย่างไร? ตอบ ท่านโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นองค์แรก ต่อมาท่านวัปปะ

และท่านภัททิยะจึงได้ และต่อมาท่านมหานามะและท่านอสสชิจึงได้ตามล าดับ

(ปี 47) พระวาจาว่า ่านจเป็ุมาเถิด รรมันเากล่าว้ว ่านจประติพรหจรย์ เพื่ท าี่ ุดทุก์โดยชบเถ ดังนี้ ว่า ทีุ่ด

ทุข์ คือ? ู้ท ที่สดทุก์ได้ก่าผู้อื่คือ? ด้วยะธรมเทศาอะ?

อบ คือ พระอรหั                  คือ พระิกุปัญจวัคีย์                 ด้วยพระเทศนาื่อ่า นัตกขูตร

·        พระอัญญาโกณฑัญญะ

(ปี 64, 59) เอหิภิกขุุปสัาทีประทาแก่โกฑัญ พระยะต่ากันย่าง เพระเตุ? ตอบ ต่างกันคือที่ประทานแก่พระโกณฑัญญะมีค าว่า เพื่อท าที่สดทุกข์โดยชอบ ส่วนที่ประทานแก่พระยสะไม่มีค าว่า เพื่อท าที่สุดทุกข์โดยชอบ

เพราะพระโกณทัญญะยังไม่ถึงที่สุดทุกข์ ส่วนพระยสะได้ถึงที่สุดทุกข์แล้ว

(ปี 63) โกณทัญญพราหมณ์ มีเหตุจูงใจอะไร จึงได้ออกบวชตามพระมหาบุรุษ ?

อบ เพราเคข้าร่วมท ายพักะขอพระมบุรุษดยเชือมันว่า จะรูเป็นพระพุทจ้าแน่นอ จึงบวตามด้วยวัว่า เมื่อ

พระมหาบุรุษตรสรู้แล้วจักทรงเทศนาโปรดตนให้รตาม

(ปี 61) พระอนุุทค์แรก คืใคร ? ด้ดาเห็นธรมราะฟัพระธรมเทศื่อะไร ?

อบ คือพอัญญา เพราะฟัธรมจักกัปปัตตูต

(ปี 58) ุพุค์แรก คืใคร ? เป็นพระรหันตเพราฟัรมเทศนาื่อ ?

อบ คือ พระอัญาโญญ ื่อนัตัก

(ปี 55) พระอัญาฑัญะ อุรุเกัปะทบวพระศาาโยมีวามป็มาต่ากันย่าง?

อบ ต่างกัอย่านี้ พระอัญาโฑฑด้จักษุ คือดวาเห็นธร ที่่านกล่าวว่าเป็นะโดาบัน มีรัทธามั่นคง้ว จึขอบวช พระอุรุวลกัด้ปรีชาหยั่งเห็นัทิขตนหาก่นสาม่ได้ถืตนว่า เป็นผู้วิศษ แต่หาป็นเ่นนั้ม่ ควาลดใจจึง ลอยบริขรชฏิตนีย้วจึบวช


(ปี 55) พระวาจาที่ตรสให้อุปสมบทแก่พระอัญญาโกณฑัญญะ และพระยสะเหมือนกันหรือต่างกัน? เพราะเหตุไร?

อบ เหมือนตรทีทรรับเข้รหมจรรย์ ่า จงเป็นภิกาเถ ธรรมอันรา่าวดี้ว จงฤติพรหมเถิ

ต่างกัที่อัญาโกฑัญะ พระพุธด าต่อท้าย่า เพื่อ ที่สุดทุข์โดย เพระท่านยัม่บอรหตต

่วน ม่มีค าว เพื าที่สุดทุข์โดย เพระท่านบุพะอรหัต์แ้ว

( 54) พระอัญาฑั ็จเป็นอรหัต์หากบเป็นพระิก้วี่วั?   าเเพาะฟัพระธเทศนาื่อ?

อบ ัน  ื่อ นัตตักูตร

( 53) พระอัญาฑัมูตุจูงจอะ จึงด้บวามอุปัฏฐากมหาบรุษขณ ญทุกรกิริยา?

อบ เพราด้เเข้าร่วมท าพระักะขอพระาบรุษเชื่มั่นว่าจะรัสรู้เป็นพะพุธเจ จึงตามอุปัฏฐากด้ยหวัว่า เมื่พระมหา

บุรุษตรสรู้ จักทรงเทศนาโปรด

( 50) พระอัญาฑัญะ เดิมว่า? เกดทีหน? รีย ? ท ามจึงไื่อญาฑัญะ ?

อบ ื่อเดิมว่าโกณ เกดที่บ้านราื่อโทณวตถุ ยู่ม่ห่างจากรุงกบิลพดุ์ รียบไเพแลรู้ ราท าัก เพราอาศัยอุานว่า อญฺญ แปลว่า ดู้้้ว ที่ะภาคจ้าทรงเเมื่อ่านโณฑไดดวงตาเห็น

( 49) พระอัญาฑัญะ คร่คูตมปะวัติ ควาเชือถืท่าหนักไปทาหน ต าาทายลักษะหืออัตกิลมถนุโยค

ปฏิบัติ? ขอฟังเหตุผล ตอบ เห็นว่าหนักไปในอัตตกิลมถานุโยคปฏิบัติ เหตผลคือ เดิมท่านเชื่อต าราแน่ใจ จึงบวชตามและเฝ้าอุปัฏฐาก ครั้นเห็นทรง

ิกุกรกิรยา ก็สิ้นหวันี่ก็เาะื่อมั่นัตตกิลมถานุยคปฏติว เลิกียเป็นม่ เมื่อพะอัส่า ร็จแล้ว ก็คัค้านไม่

เชื่ถือ อาารที่คัดค้านและดถ้อยค าี่แสอครวะนั้น เป็นเรื่ยืนยันความเห็ดักล่

(ปี 46) ุพุค์แรกส เปภิกษุด้วยพุธด รัว่าย่างไ? ุพุค์นั้นได้เป็นะโดาบันแะได้เป็นพะอรหันต เพราฟัง

พระธรมเทศาอ? อบ ด้วพระพุธด าว่า ท่าจงเป็นภุมาเถิด รรมันเากล่าวล้ว ่านจประติพรหจรย์ เพื ทีุด

ทุข์โดยเถิด  ด้เป็นดาบัน ราด้ฟัธัมมจักกปปวัตตน ะได้เป็ะอรหนต์ เพราด้ฟััตัก

(ปี 43) พระโกณฑัญญะได้เกิดความรู้เห็นอย่างไรก่อน จึงนับว่าเป็นปฐมอริยสาวก? ท่านได้รับเกียรตยศเป็นพิเศษเพราะเหตุนี้อย่างไรบ้าง?

ตอบ ได้เกิดความรเห็นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สงิ่ นั้นทั้งมวลมีความดับไปเป็นธรรมดา คือไดดวงตาเห็นธรรม (ธรรมจักษุ) แล้ว ทูลขอบวชกับพระพุทธองค์ จึงนับได้ว่าเป็นปฐมอริยสาวกในพระศาสนา

เมื่อ่านเกิดควมรู้ห็นดังี้ พรบรมสดาจึงรงเทาน ่า "อญฺญา โกญฺ อญาส ฺฑญฺ แปลว่า โกณฑญะ ดู้้้วหน แต่นั้มา ่านมีนมว่า ัญาโ ข้นี้เป็กียริยศพเศษส รับท่านผูเป็นฐมอริาวก

·        พระอัสสชิ

( 64, 57, 45) พระอัสิได้ดงธรรมแกุ่ปตปริพา มีใจวามย่อว่าย่?

อบ มีจควมย่อว่า ธรรมใเกดแต่เตุ พระศสดารงแสดตุแห่งมนั้น ะควมดแหมนั้น ะศาสดารัสสอนย่านี้ ฯ  ( 53) มายาทดีมีคว รวมอมเป็นศรีขอ ามรถจปลูกศัท ื่อมให้เกดแก่ผู้บเห็น นี่เป็นฏิปทาริยาวพระาวก รูปใด? จงเล่าประวัติของท่านโดยย่อ

อบ พระอัสิเถระ ท่าเป็นหนึ่พระปัญจวัคีย์ ด้ฟัพระธรมเทศาจด้รรลุพระรหัต้ว ด้นก าลังนการาศพระ ศาส อุติสสปริพาบเห็แล้วเกิดควื่อม ธรรจาก่าน แล้วเข้ามาบวพรพุธศาสนา

(ปี 51) อุติสสปริพาื่อมะพุธศาสนาเราด้ฟัธรมจากใค? มีใจควมว่าอย่า?

ตอบ จากพระอัสสชิ มีใจความว่า พระศาสดาทรงแสดงความเกิดแห่งธรรมทั้งหลาย เพราะเป็นไปแห่งเหตุ และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น เพราะดับแห่งเหตุ พระศาสดาตรัสอย่างนี้

(ปี 48) ความเป็ู้ส รวมกริยาการให้บร้อดีงามมความนส เป็นกยแผ่พุธศาสนาด้ทาหนึ ้อี้มีปฏทาพระ าวกค์ใดเป็นตัวอย่า? จง่าวัติเขปมา

อบ พระอรหันาวกุกรู้วนเป็นผู้วมกริยาอายบร้อดีงามทั้ิ้น แต่ที่ด้ับยย่อเป็พิเศษคืพรอัิเถระ ท่ามีกิาอาการ ทีน่าเื่อม เป็เหุให้ติสสริพาห็นแล้วเกดศัท เข้หา ธรรมจนด้บรตต ภาหลยังักวนสหายตนเามา บวพระธรรมวินัย ด้เป็น าคัญช่วยะศดา่พรพุธศาสนาให้เจุ่รือว้แลมั่อย่ารวร็ว


(ปี 44) ค าถามว่า " ู้มีอายุ ินรีย์ขท่าหมด่อใส ่านบจ าเพาะใคร ใครเป็ศาดา าถามของใคร? ใครเป็นผตอบ? ตอบว่าอย่างไร?


อนของท่าน ท่านชอบใจธรรมของใคร " เป็น


อบ อุติริพา พระอัิเป็นอบ ตอบว่า " ู้มียุ าบวจ าเพาะพร👉  ผู้ป็นโอรสากยราชจากศากกุล ท่าน เป็นศาสดาของเรา เราชอบใจธรรมของท่าน "

 

ยสกุลบุตร

(ปี 64, 59) เอหิภิกขุุปสัาทีประทาแก่โกฑัญ พระยะต่ากันย่าง เพระเตุ? อบ ต่างกัคือี่ประทาแก่โกมีค าว่า เพื่ท าี่ทุก์โยชส่วนที่ประทานแก่พระยสะไม่มีค าว่า เพื่อท าที่สุดทุกข์โดยชอบ

เพราะพระโกณทัญญะยังไม่ถึงที่สุดทุกข์ ส่วนพระยสะได้ถึงที่สุดทุกข์แล้ว

(ปี 64, 58) ที่ี่วุ่นายหนอ ที่ขัดข้หน เป็นค าอุานข ? เพาะหตุใดจึงุทาอย่านั้น ?

อบ กุลบุต ราเหหมู่ชบริวารับมีอารพิกล่าง ดุซากศี่ทิ้อยู่นป่า้า เกิดความลดใจ ดเบื่หน่าย

( 63, 54) พระพุค์ทรแสุปุพีถาแ่ใครเป็นคนแร? ุปุพีถานั้กล่าวถึื่ออะไ ?

อบ ดงแ่ยบุตเป็นคนรก กล่าวพรนาห้  พรราศีควมรักากวาจาเรร้อย  รรณนาสคือามคุณ ที่บุคคลใคร่ซึ่งจะพึงได้พึงถึงด้วยกรรมอันดีคือทานและศีล พรรณนาโทษแห่งกาม และพรรณนาอานิสงส์แห่งความออกไปจากกาม

(ปี 62, 53) กุลบุรได้ฟัธรรจากเป็นครั้แรก ี่ไหน ? ธรรนัมีชื่ว่อะไ ?

อบ ป่าิสิปตนมคทายวัน เมือพารา ุปุพีถาและอัจ

(ปี 60, 46) ุปุพีถา คือ ? ทรยกขึ้แสด้วยพะพุธประค์อย่า ? พราวกผูฟัง นุปุพีถา ครั้งแรกคือ? ี่ไหน?

อบ คือ ถ้ยค าที่กล่าวโด าดับ ด้ยพระพุค์เพื่จิตกุลบุรให้ห่างไจากควมยนดีกาม ับรมเทศาให้เกิด

ธรรมจักษุ ้าที่ราศจาทิน ับน ้ย้อมได้ ฉะนั้น คือ กุลบตร   ป่าิปตมฤคทายัน

(ปี 55) พระวาจาที่ตรสให้อุปสมบทแก่พระอัญญาโกณฑัญญะ และพระยสะเหมือนกันหรือต่างกัน? เพราะเหตุไร?

อบ เหมนกัที่รงรับเข้รหมจรรย์ ่า จงเป็นภิกาเถ ธรรมอันราาวดี้ว จงติพรหมเถ

ต่างกัที่อัญาโกฑัญะ ะพุธด าต่อท้าย่า เพื่อ ที่สุดทุข์โดย เพระท่านยัม่บอรหตต

่วน มีค าว เพื่อ าที่สุดทุข์โด เพระท่านบุพะอรหัต์แ้ว

(ปี 52) เอหิภิกขุุปสมปาที่ทาแก่ปัญจวัคคย์ และะต่ากันย่า เพระเตุไร?

อบ ต่างกัคือี่ประทาแก่ปัญจวัคคีย์ าว่า เพื่อ าที่สุดทุข์โดยอบ ส่วนี่ประทาแก่ม่ม าว่า เพื่อ าที่สุดทุข์ยช ที่ทาแก่มีค าว่า พื่ท าี่สุดทุกโดยช ะพระสะได้ถึที่สุดทุข์แล้ว

(ปี 51) พระสากผู้เป็นพะอริยบุคเพาะฟัธรมเทศรื่อเดียวซ ้า ครั้ง คือ? ธรเทศนาเรื่ออะ?

อบ คือ พระย รื่อ นุปุพีถาและอรสัจ


(ปี 50) เศีบิาพระะออดตามาพระะให้ับบ้าน แตหตุฉนมื่อบแล้วจึงมด้น าับปตามวามค์เทราบว่า พระรรลุเป็นพะอรหันต้ว ม่คพื่จะับไรอืออีต่อไ จะออเป็นพระิก

(ปี 49) พระดาบิดตั้งภมิ ยู่ที่ไหน? กบเพราเห?


? ตอบ เพราะได้


อบ อยู่ี่เมือพาราสี กล้ป่าอิปตนมฤคทยวัน เพระมีควบื่หน่ายใกาครองฆราาส นื่จากได้เห็นากรขอนบริวารอัน วิปริตโดยอาก่า เป็นที่ตั้แห่การยังจิตให้เลิดเิน จึงด้ดินอกจากเรือพุค์ด้ฟัพระธรมเทศาจนุเป็น พระอรหันต์ จึงได้ออกบวช

(ปี 47) พระพุทธเจ้าทรงท าอิทธาภิสังขารแก่ใครเป็นครั้งแรก? ทรงท าเช่นนั้นด้วยพระพุทธประสงค์อย่างไร?

ตอบ ทรงท าแก่ ยสกุลบุตรและบิดาของยสกุลบุตรเป็นครั้งแรก ด้วยพระพุทธประสงค์เพื่อให้ยสกุลบุตรพิจารณาภูมิธรรมอันตนได้เห็นแล้ว จนถึด้บุพะอรห แลให้บาได้ฟัรม้วบรุพปัตต

 


ฎิ (ะอุุเสป ทีกัสป ะคยกัปะ)

(ปี 63, 55) ฎิล ี่น้ มีื่ออรบ? ด้บอรหาะฟัพระธรมเทศะไร?

ตอบ พระอุรุเวลกัสสปะ พระนทีกัสสปะ พระคยากัสสปะฯ                              ฟังอาทิตตปริยายสตร

(ปี 61) ฎิล ี่น้ ตั้ศรบูาไยู่ ถานใด ?

อบ . ุรุวลกสส ตั้งาศรอยู่ี่ต าบอุรเวล                                  . ทีัสส ตั้งาศมอยู่ล าน ้อ้มหือคุ้แห่งแม่คงคา

. คยากัสสปะ ตั้งอาศรมอยู่ที่ต าบลคยาสีสะ

(ปี 56) พระศาสดาทรงแสดงอาทตตปริยายสตรโปรดพวกปุราณชฎิลเพราะเหตุไร?

ตอบ เพราะเป็น พระสูตรที่เหมาะแก่บุรพจรรยาของพวกปุราณชฎิล ผู้อบรมมาในการบูชาเพลิง

(ปี 52) ฎิล ี่น้ต่างัทตน เป็นภิกษุพุธศาสนาเราหตุใ?

อบ อุรุเวลกัปะ ถืตัวว่าเป็ู้วิเศษ แต่พะพุธเจ้าทร้อิธิาฏิหาย์แะอเทสนาปฏิหย์ทรมานจนถอทิฏฐิานะ ด้ป


 

 

 

 

 

 

 

 

าหยั่งเห็น


ว่าลัทธิตนหาแก่นสรมด้ มิเป็นผู้วิศษแต่ปะการใด ด้วามสดใจ จึทูลขอุมบท นนีกัสปะกัปะ เห็พี่ายถือ เพศเป็นภิกษุ ถามทราบความว่าพรหมจรรย์นี้ประเสริฐ จึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าทูลขออุปสมบท

( 51) ัตตลักตร ทิตตปริย ่าด้วื่ออะ? ทรแสแก่?

อบ ัตตัก ว่าด้วยรื่ ันธ์ คือ รูป เวนา สัญ ขาร วิญญ เที่ยง ป็นุก เป็นอัตต ม่ควยึดมัอมั่น ทรแสแก่พระปัญจวัคคีย์

อาิตตปร ่าด้วื่อง สิทัปวเป็นขร้อน ร้อเพรฟคืราคะโมหะ ทรแสแก่ฎิล ี่น้ ร้อมด้วยบริว , คน

( 46) ฎิล ี่น้ ื่อรบ? ใครได้ยกย่อว่าเป็นผูมีบารมาก? ท่าเห่านันพร้มบริวบรอรหัต เพะฟัพระธรมเทศนอะไ? ใจคย่อว่าย่?

อบ ื่อ อุรุเวลกัสปะ ีกัปะ แลคยากปะ อุรุเสส  เพราฟัอาิตตริย

ใจคามย่อ่า อายตนภายใน ายตภาย วิญญ แลเวทซึ่เกิตา าดับ ป็ร้อน ร้อเพราฟคืควมก าหนั

ความโกรธ ความหลง และร้อนเพราะความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ่าไร าพัน ความคับแค้นใจ

·        ะอุุเัสปะ

(ปี 64, 48) พระสาวกผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีบริวารมาก คือใคร? เพราะท่านมีคุณธรรมอะไร?


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น