วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก 2553


 




ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง

วันพุธ ที่ ๒๔ พฤศจิกายน    พ.ศ.๒๕๕๓


            พระสารีบุตรปรินิพพานที่ไหน ?  ท่านเลือกสถานที่นั้นเพราะเหต

            ที่  นาลันทคาม  แคว้นมคธ ฯ

เพราะตั้งใจจะโปรดนางสารีพราหมณีผู้เป็นมารดาของท่าน ให้พ้ มิจฉาทิฏฐิก่อนที่ท่านจะปรินิพพาน ฯ

            พระมหากัสสปะ กับพระรัฐบาล ออกบวชเพราะมีความคิดเห็นต่างก อย่างไร ?


            พระมหากัสสปะออกบวชเพราะคิดเห็นว่า ผู้อยู่ครองเรือนต้องคอยนั่ เพราะการงานที่ผู้อื่นท ำไม่ดี มีใจเบื่อหน่าย จึงละสมบัติแล

พระรัฐบาลออกบวชเพราะมีความคิดเห็นตามธรรมุเทศ ๔ ข้อที่พระศาส ทรงแสดง ว่า

๑. โลกคือหมู่สัตว์ อันชราเป็นผู้น ำ ๆ เข้าไปใกล้ ไม่ยั่งย ๒. โลกคือหมู่สัตว์ ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่จ ำเพาะต ๓. โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีอะไรเป็นของ ๆ ตน จ ำต้องละทิ้งสิ่ ๔. โลกคือหมู่สัตว์ พร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม เป็น


            พระเจ้าพิมพิสาร เมื่อครั้งยังเป็นพระราชกุมาร ได้ตั้งความปร อย่างไรบ้าง ?


            ได้ตั้งความปรารถนาไว้ว่า

๑. ขอให้ข้าพเจ้าได้รับอภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดินมคธนี้เถิด

            ขอท่านผู้เป็นพระอรหันต์ผู้รู้เองเห็นเองโดยชอบ พึงมายังแว่น ข้าพเจ้าผู้ได้รับอภิเษกแล้ว

๓. ขอข้าพเจ้าพึงได้เข้าไปนั่งใกล้พระอรหันต์นั้น ๔. ขอพระอรหันต์นั้น พึงแสดงธรรมแก่ข้าพเจ้า ๕. ขอข้าพเจ้าพึงรู้ทั่วถึงธรรมของพระอรหันต์นั้น ฯ

            สตานุสารีวิญญาณ คืออะไร ?  เกิดขึ้นแก่พระมหาบุรุษ  ความว่าอย

            วิญญาณไปตามสติ ฯ

ความว่า ทุกรกิริยานี้ จักไม่เป็นทางเพื่อการตรัสรู้ แต่อานาปาน จักเป็นทางเพื่อการตรัสรู้แน่ ฯ

            มหาปุริสลักษณะมีกี่ประการ ? พระอุณณาโลมกับพระอุณหิสต่ อย่างไร ?


            มี ๓๒ ประการ ฯ

พระอุณณาโลม ได้แก่พระโลมาที่ขาวละเอียดอ่อนคล้ายส ำลีอยู่ใน พระโขนง ส่วนพระอุณหิสนั้น ได้แก่พระเศียรที่กลมเป็นปริ ดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์ ฯ


            พระสาวกรูปใดเป็นเอตทัคคะทางมีปัญญามาก ทางขยายความย่อให้พิสด ทางมีวาจาไพเราะ ทางทรงจีวรเศร้าหมอง ? และในท่านเหล่านั้น อง ไหนเป็นที่เลื่อมใสของผู้เป็นรูปัปปมาณิกา โฆสัปปมาณิกา ลู และธัมมัปปมาณิกา ? 

            พระสารีบุตร เป็นเอตทัคคะทางมีปัญญามาก และเป็นที่เลื่อมใสขอ ธัมมัปปมาณิกา


พระมหากัจจายนะ เป็นเอตทัคคะทางขยายความย่อให้พิสดาร และเป็น เลื่อมใสของผู้เป็นรูปัปปมาณิกา

พระโมฆราช เป็นเอตทัคคะทางทรงจีวรเศร้าหมอง และเป็นที่เลื่อมใส ผู้เป็นลูขัปปมาณิกา

พระโสณกุฏิกัณณะ เป็นเอตทัคคะทางมีวาจาไพเราะ และเป็นที่เลื่อม ผู้เป็นโฆสัปปมาณิกา ฯ

            พระพุทธเจ้าตรัสสอนพระราธะว่า สิ่งใดเป็นมาร ท่านจงละความก ำ พอใจในสิ่งนั้นเสีย มารในที่นี้หมายถึงอะไร ?

๗.    หมายถึง      รูป      เวทนา    สัญญา     สังขาร     วิญญาณ ฯ

            พระอรหันตสาวก ๑๐ องค์แรกในพระพุทธศาสนา คือใครบ้าง ? มี ท่านใดได้รับเอตทัคคะบ้าง ? และเป็นเอตทัคคะในทางไหน ?

            คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ พระอัสสชิ พระยสะ พระวิมละ พระสุพาหุ พระปุณณชิ และพระควัมปต มีพระอัญญาโกณฑัญญะรูปเดียว ฯ ในทางรัตตัญญู ผู้รู้ราตรีนาน

            ถูปารหบุคคล  คือใคร ?  มีกี่ประเภท ?  อะไรบ้าง ?

            คือ บุคคลผู้ควรแก่การสร้างสถูปไว้ประดิษฐาน ฯ มี ๔ ประเภท ฯ คือ

พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒. พระปัจเจกพุทธเจ้า ๓. พระอรหันตสาวก ๔. พระเจ้าจักรพรรดิราช ฯ



๑๐.   อภิญญาเทสิตธรรม        มีอะไรบ้าง ?        ทรงแสดงแก่ใคร ?     ที่ไหน ?

๑๐. มี       สติปัฏฐาน ๔         สัมมัปปธาน ๔         อิทธิบาท ๔         อินทรีย์ ๕               พล
โพชฌงค์ ๗     มรรคมีองค์ ๘ ฯ

ทรงแสดงแก่ภิกษุสงฆ์ผู้อาศัยอยู่ในเมืองเวสาลี ฯ

ที่กูฏาคารศาลา         ป่ามหาวัน ฯ

*********

วิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก 2554


 






ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง


วันพุธ ที่ ๑๔ ธันวาคม          พ.ศ. ๒๕๕๔ 

                        บารมี ๑๐ ของพระมหาบุรุษมีอะไรบ้าง ? ท่านเปรียบเทียบบารมีข้ กับอาวุธยุทโธปกรณ์ชนิดใด ในการต่อสู้กับหมู่มาร ?

                        คือ ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารม ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี

ศีลบารมี  เปรียบเทียบกับแผ่นดิน
ปัญญาบารมี  เปรียบเทียบกับพระขรรค์
วิริยบารมี  เปรียบเทียบกับพระบาท
บารมีที่เหลือจากนี้  เปรียบเทียบกับโล่ป้องกัน ฯ



                        นวหรคุณ คือพระพุทธคุณ ๙ บท บทไหนปรากฏแก่พระพุทธองค์เต็ม ที่ไหน ? เมื่อไร ?

                        พระพุทธคุณบทว่า ํอรหสมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ส โลกวิทู พุทฺโธ ภควา ปรากฏแก่พระพุทธองค์เต็มที่ ณ ควงไม้ พระมหาโพธิ ต ำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ ตั้งแต่ครั้งแรก พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ฯ


พระพุทธคุณบทว่า อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ แก่พระพุทธองค์เต็มที่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันในพระนครพาราณส ครั้งแสดงอนุตรธรรมจักรให้เป็นไปแก่ภิกษุปัญจวัคคีย์ ฯ

                        พระพุทธเจ้าหลังจากได้ตรัสรงเปล่งอุทานในยามสุดท้ายว่าอย่างไรู้แล้ว ?

                        ทรงเปล่งอุทานว่า เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีเพี เมื่อนั้นพราหมณ์นั้น ย่อมก ำจัดมารและเสนามารเสียได้ ดุจพระอา ก ำจัดมืดให้สว่างฉะนั้น ฯ

                        อนิมิสเจดีย์และรัตนจงกรมเจดีย์ เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้า กิจอะไร ?


                        อนิมิสเจดีย์  เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับยืนจ้องดูต้น

โดยมิได้กระพริบพระเนตรตลอด ๗ วัน รัตนจงกรมเจดีย์เป็นสถาน ที่พระพุทธเจ้าทรงนิรมิตที่จงกรมขึ้นแล้วเสด็จจงกรมณ ที่นั้นถ้วน๗วัน ฯ

                        ภัพพบุคคลและอภัพพบุคคล ที่ท่านเปรียบกับดอกบัว ๔ เหล่า ค ประเภทใดบ้าง ?


                        ภัพพบุคคลคือบุคคลผู้สามารถจะตรัสรู้ธรรมได้ ได้แก่ อุคฆติตัญญูที่เปรียบด้วยดอกบัวพ้นน ้ำ วิปจิตัญญูที่เปรียบด้วยดอกบัวเสมอน ้ำ และเนยยะที่เปรียบด้วยดอกบัวที่ยังอยู่ในน ้ำ ส่วนอภัพพบุคคลคือบุคคลผู้ไม่สามารถจะตรัสรู้ธรรมได้ ได้แก่ ปทปรมะที่เปรียบด้วยดอกบัวที่เป็นภักษาหารแห่งปลาและเต่า ฯ



                        พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระอัครสาวกทั้ง ๒ ว่าเป็นผู้มีปัญญาอ สพรหมจารีทั้งหลาย มีอุปมาต่างกันอย่างไร ฯ

                        มีอุปมาต่างกันอย่างนี้ พระสารีบุตรเถระเปรียบเหมือนมารดาผู้ ย่อมแนะน ำให้กุลบุตรตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล พระมหาโมคคัลลานเถระเปรียบเหมือนนางนมผู้เลี้ยงทารกผู้เกิดแ ย่อมแนะน ำให้กุลบุตรตั้งอยู่ในคุณเบื้องสูงกว่านั้น ฯ



                        อนุรุทธศากยะออกบวชเพราะมูลเหตุอะไร ? ผู้ที่ออกบวชพร้อมกับ มีใครบ้าง ?


                        เพราะมูลเหตุจากการที่อนุรุทธศากยะเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ซึ่งควรออกบวชตามพระพุทธเจ้าอย่างที่เจ้าศากยะองค์อื่นผู้มีชื่อ
ได้กระท ำกัน      และครั้นเมื่อได้ฟังค ำพูดของมหานามศากยะผู้พี่
ของผู้อยู่ครองเรือนไม่มีสิ้นสุด  ที่สุดของการงานไม่มีปรากฏ  จ
พี่อยู่ครองเรือนส่วนตนออกบวช ฯ
มี     พระเจ้าภัททิยะ          อานันทะ     ภัคคุ        กิมพิละ        เทวทัต      และ   อุบา

                        พระสาวกผู้กล่าวว่า โลกคือหมู่สัตว์อันชราเป็นผู้น ำ ๆ เข้าไปใก ดังนี้ คือใคร ? กล่าวแก่ใคร ? ได้รับเอตทัคคะในทางใด ?

                        คือ พระรัฐบาล ฯ แก่พระเจ้าโกรัพยะ ฯ ในทางเป็นยอดของภิกษุผู้บวชด้วยศรัทธา ฯ


                        นิมิตโอภาสที่พระศาสดาทรงแสดงแก่พระอานนท์ก่อนทรงปลงอายุสัง มีใจความว่าอย่างไร ? ทรงแสดงเพื่ออะไร ?

                        มีใจความว่า อิทธิบาททั้ง ๔ ประการ ท่านผู้ใดผู้หนึ่ง ได้เจริ สามารถจะด ำรงอยู่ได้กัป ๑ หรือเกินกว่านั้น อิทธิบาททั้ พระตถาคตได้เจริญแล้ว ถ้าทรงปรารถนา ก็จะดรงอยู่ได้กัป ำ ๑ หรือ เกินกว่านั้น ฯ เพื่อให้พระอานนท์กราบทูลอาราธนาให้ทรงด ำรงอยู่ชั่วอายุกัป เกินกว่านั้น ฯ


๑๐.   อายุสังขาราธิษฐานกับการปลงอายุสังขาร หมายถึงอะไร ? พระพุทธ ทรงกระท ำที่ไหน ?

๑๐. อายุสังขาราธิษฐาน หมายถึงการที่พระพุทธเจ้าทรงตั้งพระหฤทัยว่า
พระชนม์อยู่แสดงธรรมสั่งสอนมหาชน             จนกว่าพุทธบริษัทจะตั้งมั
ได้ประกาศพระศาสนาให้แพร่หลายมั่นคงสำเร็จประโยชน์แก่มหาชน  ฯ
ที่อชปาลนิโครธ        ใกล้สถานที่ตรัสรู้ ฯ
การปลงอายุสังขาร        หมายถึงการที่พระพุทธเจ้าทรงก ำหนดวันปริน
นับแต่วันเพ็ญเดือน ๓ ไปอีก ๓ เดือน ฯ
ที่ปาวาลเจดีย์            เมืองไพศาลี ฯ

*********

วิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก 2555

วิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก 2555

ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

วันเสาร์ ที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

๑.      ศากยวงศ์สืบเชื้อสายมาจากใคร? ที่ได้นามว่า ศากยะ เพราะเหตุไร?

ตอบ สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าโอกกากราช ฯ

เพราะเหตุ ๒ ประการ คือ

๑. เพราะได้ชื่อตามชนบทที่ตั้งเมือง

๒. เพราะมีความกล้าหาญ สามารถตั้งเมืองได้เอง ฯ

๒.     พระวาจาที่พระมหาบุรุษทรงเปล่งครั้งแรก เรียกว่าอะไร? ความว่าอย่างไร?

ตอบ อาสภิวาจา ฯ

ความว่า “เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก (อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส)       เราเป็นผู้เจริญแห่งโลก (เชฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส) เราเป็นผู้ประเสริฐแห่งโลก (เสฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส)   ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย (อยมนฺติมา ชาติ) บัดนี้ ภพใหม่มิได้มี (นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว)” ฯ

๓.     การที่พระพุทธองค์ทรงเลิกการทรมานพระวรกายแล้ว กลับมาเสวยพระกระยาหาร เพราะทรงพิจารณาเห็นอย่างไร?

ตอบ เพราะทรงพิจารณาเห็นว่า คนที่ไม่บริโภคอาหารจนร่างกายหมดกำลัง ไม่สามารถบำเพ็ญเพียรทางจิตได้ ฯ

๔.     เมื่อพระเบญจวัคคีย์ได้ดวงตาเห็นธรรม ได้อุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาแล้ว พระบรมศาสดาทรงพิจารณาเห็นอย่างไรจึงทรงแสดงอนัตตลักขณสูตรโปรดพระเบญจวัคคีย์?

ตอบ ทรงพิจารณาเห็นว่า พระเบญจวัคคีย์ตั้งอยู่ในที่แห่งสาวก มีอินทรีย์คือศรัทธาเป็นต้น แก่กล้า ควรเจริญวิปัสสนาเพื่อวิมุติได้แล้ว จึงทรงแสดงอนัตตลักขณสูตรโปรดพระเบญจวัคคีย์ ฯ

๕.     พระอัสสชิเถระแสดงธรรมโดยย่อแก่อุปติสสปริพาชก ความว่าอย่างไร? และได้ผลอย่างไร?

ตอบ มีความว่า ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุของธรรมนั้นและความดับแห่งธรรมนั้น พระศาสดาทรงสั่งสอนอย่างนี้ ฯ อุปติสสปริพาชกได้ฟังแล้ว ได้ธรรมจักษุ ดวงตาเห็นธรรม ฯ

๖.      การอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจา พระสาวกผู้เป็นอุปัชฌายะ และเป็นสัทธิวิหาริกรูปแรก คือใคร?

ตอบ    พระสารีบุตร เป็นอุปัชฌายะรูปแรก ฯ

พระราธะ เป็นสัทธิวิหาริกรูปแรก ฯ

๗.     ข้อความว่า “วรรณะใดประพฤติกุศลกรรมบถ วรรณะนั้นย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์” ดังนี้ ใครกล่าว และกล่าวแก่ใคร?

ตอบ พระมหากัจจายนะ กล่าว ฯ กล่าวแก่พระเจ้ามธุรราชอวันตีบุตร ฯ

๘.     ปัญหาว่า “โลกคือหมู่สัตว์ อันอะไรปิดบังไว้ จึงหลงดุจอยู่ในที่มืด” ดังนี้ ใครเป็นผู้ถาม? ได้รับคำพยากรณ์ว่าอย่างไร?

ตอบ อชิตมาณพเป็นผู้ถาม ฯ ได้รับการพยากรณ์ว่า โลกคือหมู่สัตว์ อันอวิชชาคือความไม่รู้แจ้งปิดบังไว้จึงหลงดุจอยู่ในที่มืด ฯ

๙.     พระสาวกสาวิกาต่อไปนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เลิศในทางใด?

๑. พระมหาโมคคัลลานะ                    ๒. พระมหากัสสปะ

๓. พระอุบาลี                                 ๔. พระนางมหาปชาบดีโคตมี

๕. พระนางเขมา

ตอบ    ๑. พระมหาโมคคัลลานะ เป็นผู้เลิศในทางมีฤทธิ์

๒. พระมหากัสสปะ เป็นผู้เลิศในทางถือธุดงค์

๓. พระอุบาลี เป็นผู้เลิศในทางทรงพระวินัย

๔. พระนางมหาปชาบดีโคตมี เป็นผู้เลิศในทางผู้รัตตัญญู

๕. พระนางเขมา เป็นผู้เลิศในทางมีปัญญา ฯ



๑๐. พุทธเจดีย์มีกี่ประเภท? อะไรบ้าง? พระพุทธรูป สงเคราะห์เข้าในเจดีย์ประเภทใด?

ตอบ มี ๔ ประเภท ฯ คือ ธาตุเจดีย์ บริโภคเจดีย์ ธรรมเจดีย์ และอุทเทสิกเจดีย์ ฯ

สงเคราะห์เข้าในอุทเทสิกเจดีย์ ฯ