วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก 2546

ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

พ.ศ. ๒๕๔๖

๑.

๑.๑

ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สำเร็จด้วยญาณอะไร ?  เพราะเหตุไร ?


๑.๒

พระพุทธองค์ ครั้นตรัสรู้แล้ว ทรงเปล่งพระอุทานในยามสุดท้าย มีความว่าอย่างไร ?

๑.

๑.๑

ด้วยอาสวักขยญาณ ฯ  เพราะอาสวักขยญาณ คือความรู้เป็นเหตุสิ้นอาสวะ คือ เครื่องเศร้าหมองอันหมักหมมในจิตสันดาน ฯ


๑.๒

มีความว่า “ เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏชัดแก่พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่  พราหมณ์นั้นย่อมกำจัดเสนามาร คือชรา พยาธิ มรณะ เสียได้ ดุจ

พระอาทิตย์อุทัย กำจัดมืดทำอากาศให้สว่างขึ้นฉะนั้น” ฯ

๒.

๒.๑

พระพุทธองค์ทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาที่ไหนเป็นแห่งแรก ? 

ทรงเห็นประโยชน์อะไรจึงทรงประดิษฐาน ณ ที่นั้น ?


๒.๒

การที่พระพุทธองค์ทรงสามารถประดิษฐานพระพุทธศาสนาได้มั่นคง  เพราะทรงสั่งสอนโดยอาการอย่างไรบ้าง ?

๒.

๒.๑

ที่ กรุงราชคฤห์ ฯ  เพราะทรงเห็นว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่บริบูรณ์มั่งคั่ง และ

มีศาสดาเจ้าลัทธิมาก ถ้าได้โปรดคนเหล่านี้ให้เกิดความเลื่อมใสได้แล้ว  การเผยแผ่พระพุทธศาสนาก็สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะศาสดา

เจ้าลัทธิต่างๆ นั้น ล้วนมีศิษยานุศิษย์มาก ผู้คนนับถือมาก ด้วยเหตุนี้

จึงทรงเลือกเมืองนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนาเป็นแห่งแรก ฯ


๒.๒

โดยอาการ ๓ อย่าง คือ

      ๑) ทรงสั่งสอนให้ผู้ฟังรู้ยิ่ง เห็นจริงในธรรมที่ควรรู้ควรเห็น

      ๒) ทรงสั่งสอนมีเหตุมีผลที่ผู้ฟังอาจตรองตามให้เห็นจริงได้

      ๓) ทรงสั่งสอนเป็นอัศจรรย์ที่ผู้ปฏิบัติตาม ย่อมได้รับผลโดยสมควร

          แก่การปฏิบัติ ฯ

๓.

๓.๑

ความปรารถนาของพระเจ้าพิมพิสารข้อที่ ๕ ความว่าอย่างไร ?


๓.๒

ความปรารถนานั้นสำเร็จแก่พระองค์เมื่อไร ?  ที่ไหน ?

๓.

๓.๑

ความว่า “ขอให้ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึงธรรมของพระอรหันต์” ฯ


๓.๒

สำเร็จบริบูรณ์ในวันที่ได้ฟังอนุปุพพีกถาและอริยสัจ ๔ ที่พระพุทธองค์

ทรงแสดงโปรด  จนได้ดวงตาเห็นธรรม ฯ  ที่สวนตาลหนุ่ม ฯ

๔.

๔.๑

พระวาจาที่พระมหาบุรุษทรงเปล่งในวันประสูตินั้น เรียกว่าอะไร ? ใจความโดยย่ออย่างไร ?


๔.๒

พระพุทธกิจ ๕ อย่าง มีอะไรบ้าง ?  ข้อไหนที่ทรงบำเพ็ญเป็นนิจตราบเท่าปรินิพพาน ?

๔.

๔.๑

เรียกว่า อาสภิวาจา ฯ  ใจความย่อว่า  “ เราเป็นผู้เลิศเป็นยอดแห่งโลก  เราเป็นผู้เจริญผู้ใหญ่แห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐแห่งโลก  ความบังเกิดชาตินี้มี ณ ที่สุด บัดนี้ ความบังเกิดอีกมิได้มี ”  ฯ


๔.๒

มี ๕ อย่าง ฯ คือ

      ๑) เวลาเช้า เสด็จออกบิณฑบาต

      ๒) เวลาเย็น ทรงแสดงธรรม

      ๓) เวลาย่ำค่ำ ทรงโอวาทภิกษุ

      ๔) เวลาเที่ยงคืน ทรงตอบปัญหาเทวดา

      ๕) เวลาย่ำรุ่ง ทรงตรวจดูเวไนยสัตว์ ฯ

          ยกเว้นข้อเสด็จออกบิณฑบาต นอกนั้นทรงบำเพ็ญเป็นนิจ

          ตราบเท่าปรินิพพาน ฯ

๕.

๕.๑

โอวาทปาฏิโมกข์ทรงแสดงที่ไหน ?  เมื่อไร ?


๕.๒

ข้อที่ทรงยกขันติขึ้นตรัสในโอวาทปาฏิโมกข์นั้น  หมายความว่าอย่างไร ?

๕.

๕.๑

ที่เวฬุวนาราม กรุงราชคฤห์ ฯ  เมื่อวันเพ็ญเดือน ๓ ฯ


๕.๒

หมายความว่า ศาสนธรรมคำสอนของพระองค์เป็นไปเพื่อให้อดทนต่อเย็น ร้อน หิวระหาย ถ้อยคำให้ร้าย ใส่ความ ด่าว่า และทุกขเวทนาอันแรงกล้าเกิดแต่อาพาธ ฯ

๖.

๖.๑

อุปติสสปริพาชก เมื่อได้ฟังธรรมโดยย่อจากพระอัสสชิเถระแล้ว  มีความเข้าใจในเนื้อความแห่งธรรมนั้นว่าอย่างไร ?


๖.๒

ครั้งพุทธกาล กุลบุตรผู้มีศรัทธาเลื่อมใสในพระศาสนาขออนุญาตบวช

จากมารดาบิดา  เมื่อไม่ได้รับอนุญาตก็เสียใจ จึงทำการประท้วง กุลบุตร

ผู้นั้นคือใคร ?  ประท้วงด้วยวิธีใด ?

๖.

๖.๑

ว่าอย่างนี้คือ  “ ธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ และจะสงบระงับไป เพราะเหตุ

ดับก่อน  พระศาสดา ทรงสั่งสอนให้ปฏิบัติ  เพื่อสงบระงับเหตุแห่งธรรมเป็นเครื่องก่อให้เกิดทุกข์” ฯ


๖.๒

กุลบุตรผู้นั้น คือพระรัฐบาล ฯ ประท้วงด้วยวิธีนอนไม่ลุกขึ้น และอดอาหาร ฯ

๗.

๗.๑

อนาถบิณฑิกเศรษฐี มีนามเดิมว่าอะไร ?


๗.๒

ท่านได้บรรลุคุณวิเศษอะไรในพระพุทธศาสนา ?

๗.

๗.๑

สุทัตตะ ฯ


๗.๒

โสดาปัตติผล ฯ

๘.

๘.๑

ผู้ได้นามว่า  “ ภัทเทกรัตตะ ”  ผู้มีราตรีเดียวเจริญ  เพราะประพฤติเช่นไร ?


๘.๒

พระเถระรูปใดได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เข้าใจอธิบายเรื่อง “ ผู้มีราตรีเดียวเจริญ ”  นี้ให้พิสดาร ?


๘.

๘.๑

เพราะเป็นผู้มีความเพียร ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันกลางคืน อยู่ด้วยความไม่ประมาท ฯ


๘.๒

พระมหากัจจายนเถระ ฯ

๙.

๙.๑

ปัญหาว่า  “ หมู่มนุษย์ในโลกนี้ คือ ฤษี กษัตริย์ พราหมณ์ เป็นอันมาก อาศัยอะไร จึงบูชายัญบวงสรวงเทวดา ”  ใครเป็นผู้ถาม ?


๙.๒

พระศาสดาทรงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?

๙.

๙.๑

ปุณณกมาณพ ฯ


๙.๒

ทรงพยากรณ์ว่า  “ หมู่มนุษย์เหล่านั้นอยากได้ของที่ตนปรารถนา  อาศัยของที่มีชราทรุดโทรม  จึงบูชายัญบวงสรวงเทวดา ”  ฯ

๑๐.

๑๐.๑

พระพุทธดำรัสว่า  “ ดูก่อนสุภัททะ  ถ้าภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ จะพึงอยู่ดีอยู่ชอบแล้วไซร้  โลกก็จกไม่พึงว่างเปล่าจากพระอรหันต์ทั้งหลาย ”  ดังนี้ 

คำว่า  “ พระอรหันต์ ”   ในที่นี้ หมายถึงใคร ?


๑๐.๒

โทณพราหมณ์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในวันแจกพระบรมสารีริกธาตุ มีใจความย่ออย่างไร ?

๑๐.

๑๐.๑

หมายถึง  พระขีณาสวอรหันต์ ฯ   


๑๐.๒

มีใจความย่อดังนี้

    ๑) พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญขันติธรรมและตำหนิในการที่จะทำ

        สงครามกัน

    ๒) ชวนให้สามัคคีร่วมใจกัน โดยแบ่งส่วนพระบรมสารีริกธาตุเท่า ๆ กัน ฯ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น