วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

อนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท 2543

 อนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท 2543


ปัญหาและเฉลยอนุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นโท

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓

วันศุกร์ ที่  ๑๗  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓

------------------------------

๑.

๑.๑

อนุพุทธบุคคลคือบุคคลพวกไหน ?  ได้ชื่อว่าอย่างนั้นเพราะเหตุไร ?


๑.๒

อนุพุทธบุคคล เป็นนักบวชหรือบุคคลทั่วไป ?

๑.

๑.๑

คือบุคคลผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ได้ชื่ออย่างนั้นเพราะเป็นผู้รู้ตาม

พระพุทธเจ้า


๑.๒

เป็นนักบวชก็มี เป็นบุคคลทั่วไปก็มี

๒.

๒.๑

การศึกษาอนุพุทธประวัติให้ประโยชน์อย่างไรต่อเจ้าของประวัติ ?


๒.๒

การศึกษาอนุพุทธประวัติให้คุณค่าอย่างไรต่อผู้ศึกษา ?

๒.

๒.๑

เป็นการประกาศเกียรติคุณพระสาวกผู้เป็นอุปการะแก่พระศาสนา               ได้เชิดชูพระคุณท่าน นำเพื่อนร่วมศาสนาให้เกิดปสาทะและนับถือ  ความดีของพระสาวกปรากฏแล้วจักเชิดชูพระเกียรติคุณของพระศาสดายิ่งขึ้น


๒.๒

ให้คุณค่าในด้านกำหนดและจดจำวัตรปฏิบัติอันงดงามของท่านมาเป็นปฏิปทาเครื่องดำเนินชีวิตของตน

๓.

๓.๑

พระโกณฑัญญะได้เกิดความรู้เห็นอย่างไรก่อน จึงนับว่าเป็นปฐมอริยสาวก ?


๓.๒

ท่านได้รับเกียรติยศเป็นพิเศษเพราะเหตุนี้อย่างไรบ้าง ?

๓.

๓.๑

ได้เกิดความรู้เห็นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้น        ทั้งมวลมีความดับไปเป็นธรรมดา คือได้ดวงตาเห็นธรรม (ธรรมจักษุ) แล้วทูลขอบวชกับพระพุทธองค์ จึงนับได้ว่าเป็นปฐมอริยสาวกใน       พระศาสนา


๓.๒

เมื่อท่านเกิดความรู้เห็นดังนี้  พระบรมศาสดาจึงทรงเปล่งอุทาน ว่า "อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ” แปลว่า โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอๆ แต่นั้นมา ท่านมีนามว่า อัญญาโกณฑัญญะ ข้อนี้เป็นเกียรติยศพิเศษสำหรับท่านผู้เป็นปฐมอริยสาวก ฯ


๔.

๔.๑

พระสาวกรูปใดได้รับการบวชด้วยญัตติจตุตถกรรมเป็นรูปแรก ?


๔.๒

พระสาวกรูปนั้นได้รับยกย่องเป็นเลิศในทางไหน ?

๔.

๔.๑

พระราธะ


๔.๒

ในทางมีปฏิภาณ คือญาณแจ่มแจ้งในพระธรรมเทศนา

๕.

๕.๑

พระพุทธองค์ทรงยกย่องพระสารีบุตรคู่กับพระโมคคัลลานะโดยอุปมาไว้ อย่างไร ?


๕.๒

ที่ตรัสอุปมาไว้อย่างนั้นเพราะเหตุไร ?

๕.

๕.๑

พระพุทธองค์ตรัสอุปมาว่า พระสารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู้ให้ทารกเกิด   พระโมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนมผู้เลี้ยงทารกที่เกิดแล้วนั้น


๕.๒

ที่ตรัสอุปมาไว้อย่างนั้นเพราะพระสารีบุตรย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ใน   โสดาปัตติผล พระโมคคัลลานะย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ในคุณเบื้องบนที่   สูงกว่านั้น

๖.

๖.๑

การพบกันของพระอัสสชิและอุปติสสปริพาชกมีผลต่อพระพุทธศาสนา    อย่างไร ?


๖.๒

พระสารีบุตรมีปัญญาเลิศกว่าพระสาวกทั้งหลายนั้น มีอะไรเป็นเครื่อง     ยืนยัน ?

๖.

๖.๑

มีผลเกิดขึ้นดังนี้คือ

     ๑) อุปติสสปริพาชกได้ความเลื่อมใสในวัตรของพระอัสสชิ

     ๒) อุปติสสปริพาชกได้ฟังธรรมแล้วได้ดวงตาเห็นธรรม

     ๓) อุปติสสปริพาชกได้ชักชวนเพื่อนไปบวช ฟังธรรมแล้วได้บรรลุ

          ธรรม

     ๔) พระพุทธองค์ได้อัครสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขวา


๖.๒

มีพระพุทธดำรัสตรัสยกย่องพระสารีบุตรว่า เป็นยอดแห่งพระสาวกผู้มีปัญญาและตรัสสรรเสริญว่า พระสารีบุตรสามารถแสดงธรรมจักร    และจตุราริยสัจ ได้กว้างขวางพิสดารแม้นกับพระองค์ ประกอบกับพระธรรมเทศนาที่ท่าน    ได้แสดงไว้ในโอกาสนั้น ๆ ส่องให้เห็นถึงอัจฉริยภาพอย่างแท้จริงของท่าน     ในด้านนี้

๗.

๗.๑

ธรรมุทเทศคืออะไรบ้าง ?    ๗.๒  ใครแสดงแก่ใคร ?

๗.

๗.๑

ธรรมุทเทศ คือ


     ๑) โลกคือหมู่สัตว์อันชรานำเข้าไปใกล้ ไม่ยั่งยืน

     ๒) โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่จำเพาะตน

     ๓) โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีอะไรเป็นของ ๆ ตน จำต้องละสิ่งทั้งปวงไป

     ๔) โลกคือหมู่สัตว์พร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา


๗.๒

พระรัฐบาลแสดงถวายพระเจ้าโกรัพยะ



                                   ศาสนพิธี

๘.

๘.๑

คำว่า สวดมาติกาหรือสดับปกรณ์ หมายถึงอะไร ?


๘.๒

คำทั้งสองนั้นใช้ต่างกันอย่างไร ?

๘.

๘.๑

หมายถึงการสวดบทมาติกาของพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ หรือที่เรียกว่า  สัตตัปปกรณาภิธรรม ซึ่งมีการบังสุกุลเป็นที่สุด เป็นประเพณีนิยมจัดให้พระสงฆ์สวดในงานทำบุญหน้าศพอย่างหนึ่ง


๘.๒

คำว่าสวดมาติกา ใช้ในงานศพราษฎรสามัญทั่วไป ส่วนคำว่า สดับปกรณ์ ใช้เรียกโดยโวหารทางราชการในงานหลวง (ศพหรืออัฐิของเจ้านายตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป)

๙.

๙.๑

ผ้าวัสสิกสาฎกคือผ้าเช่นไร ?


๙.๒

ผ้าจำนำพรรษาคือผ้าเช่นไร ?

๙.

๙.๑

คือ ผ้าสำหรับภิกษุใช้นุ่งในเวลาอาบน้ำฝนหรืออาบน้ำทั่วไป เรียกกันว่า ผ้าอาบน้ำฝนบ้าง ผ้าอาบบ้าง ผ้านี้เกิดขึ้นเฉพาะฤดูกาลที่ทรงอนุญาตเป็นบริขารพิเศษชั่วคราว อธิษฐานไว้ใช้ได้ตลอด ๔ เดือนฤดูฝน พ้นจากเขตนั้นเป็นธรรมเนียมให้วิกัป


๙.๒

คือ ผ้าที่ทายกถวายแก่ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ ๓ เดือน   เว้นผ้ากฐิน

๑๐.

๑๐.๑

ศาสนพิธีเล่ม ๒ แสดงอุโบสถกรรมไว้กี่ประเภท ?  อะไรบ้าง ?


๑๐.๒

แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร ?

๑๐.

๑๐.๑

มี ๓ ประเภท คือ สังฆอุโบสถ ๑  ปาริสุทธิอุโบสถ ๑  อธิษฐานอุโบสถ ๑


๑๐.๒

มีความแตกต่างกันดังนี้


๑)

สังฆอุโบสถ คือ อุโบสถกรรมที่พระภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ประชุมสวด   พระปาฏิโมกข์


๒)

ปาริสุทธิอุโบสถ คือ อุโบสถกรรมที่พระภิกษุน้อยกว่า ๔ รูป มีเพียง ๓ รูป หรือ ๒ รูป ร่วมกันทำเป็นการคณะ ให้แต่ละรูปบอกความบริสุทธิ์ของตน ๆ


๓)

อธิษฐานอุโบสถ คืออุโบสถกรรมที่พระภิกษุรูปเดียวทำเป็นการบุคคลด้วยการอธิษฐานความบริสุทธิ์ใจของตนเอง


ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท 2544

 ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท 2544


ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นโท

สอบในสนามหลวง

วันอาทิตย์ ที่  ๔  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๔๔

๑.

๑.๑

พระปัญจวัคคีย์ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เพราะฟังพระธรรมเทศนาชื่ออะไร ?


๑.๒

พระธรรมเทศนานั้นโดยย่อว่าด้วยเรื่องอะไร ?

๑.

๑.๑

ชื่อ  อนัตตลักขณสูตร


๑.๒

ว่าด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

๒.

๒.๑

พระสาวกรูปใดที่ได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่า เป็นยอดแห่งภิกษุผู้มีบริวารมาก ?


๒.๒

ความเป็นผู้มีบริวารมากนั้น  เป็นผลเกิดจากอะไร ?

๒.

๒.๑

พระอุรุเวลกัสสปะ


๒.๒

เกิดจากเหตุ คือความรู้จักเอาใจบริษัท รู้จักสงเคราะห์ด้วยอามิสบ้าง  ด้วยธรรมบ้าง

๓.

๓.๑

คำถามว่า " ผู้มีอายุ อินทรีย์ของท่านหมดจดผ่องใส ท่านบวชจำเพาะใคร  ใครเป็นศาสดาผู้สอนของท่าน ท่านชอบใจธรรมของใคร " เป็นคำถาม

ของใคร ?


๓.๒

ใครเป็นผู้ตอบ ?  ตอบว่าอย่างไร ?

๓.

๓.๑

อุปติสสปริพาชก


๓.๒

พระอัสสชิเป็นผู้ตอบ ตอบว่า " ผู้มีอายุ เราบวชจำเพาะพระมหาสมณะ  ผู้เป็นโอรสศากยราชออกจากศากยสกุล ท่านเป็นศาสดาของเรา เราชอบใจธรรมของท่าน "

๔.

๔.๑

ทิฏฐิแสดงความเห็นว่า  " สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า   ข้าพเจ้า 

ไม่ชอบใจทั้งหมด "  ใครพูดกับใคร ?


๔.๒

ตามทิฏฐิแสดงความเห็นนั้น  มีคำกล่าวตอบว่าอย่างไร ?

๔.

๔.๑

ปริพาชกทีฆนขะ  อัคคิเวสสนโคตร  ทูลกับพระศาสดา


๔.๒

มีพระดำรัสตอบว่า " อัคคิเวสสนะ ถ้าอย่างนั้น ความเห็นอย่างนั้น ก็ต้องไม่ควรแก่ท่าน ท่านก็ต้องไม่ชอบความเห็นอย่างนั้น "

๕.

๕.๑

พระศาสดาทรงยกย่องพระสาวกรูปใดว่า มีธรรมเครื่องอยู่เสมอด้วยพระองค์ ?


๕.๒

พระองค์ทรงปฏิบัติต่อพระสาวกรูปนั้นโดยพระอาการอย่างไร ?

๕.

๕.๑

พระมหากัสสปะ


๕.๒

ทรงรับผ้าสังฆาฏิของท่านไปทรง  และประทานผ้าสังฆาฏิของพระองค์ให้แก่ท่าน

๖.

๖.๑

พระศาสดาทรงทราบความขัดข้องจากพระสาวกรูปใด จึงได้ทรงพระอนุญาตให้สงฆ์ปัญจวรรคทำการอุปสมบทในปัจจันตชนบทได้ ?


๖.๒

ท่านได้รับยกย่องว่าเลิศทางไหน ?

๖.

๖.๑

พระโสณกุฏิกัณณะ


๖.๒

เป็นผู้มีวาจาไพเราะ

๗.

๗.๑

พระรัฐบาล  และพระนันทะ  ออกบวชเพราะเหตุใด ?


๗.๒

พระโมฆราช  และพระอุบาลี  ได้รับการยกย่องว่าเลิศในทางไหน ?

๗.

๗.๑

พระรัฐบาล  ออกบวชเพราะศรัทธา

พระนันทะ  ออกบวชเพราะจำใจ


๗.๒

พระโมฆราช  ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง

พระอุบาลี   ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ทรงพระวินัย

ศาสนพิธี

๘.

๘.๑

กุศลพิธี  และบุญพิธี  คือพิธีเช่นไร ?


๘.๒

วันเทโวโรหณะ  คือวันอะไร ?  มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวันอะไร ?

๘.

๘.๑

กุศลพิธี  คือพิธีกรรมต่าง ๆ อันเกี่ยวด้วยการอบรมความดีงามทาง

พระพุทธศาสนาเฉพาะตัวบุคคล  เช่น  พิธีรักษาอุโบสถศีล  เป็นต้น

บุญพิธี  คือพิธีทำบุญงานมงคล  และงานอวมงคล


๘.๒

คือวันที่พระองค์เสด็จลงจากเทวโลก เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวันพระเจ้าเปิดโลก

๙.

๙.๑

พิธีสวดพระอภิธรรมมีกี่อย่าง ?  อะไรบ้าง ?


๙.๒

การสวดมาติกาคือการสวดเรื่องอะไร ?

๙.

๙.๑

มี  ๒  อย่างคือ

           ๑) สวดประจำยามหน้าศพ

           ๒) สวดหน้าไฟในขณะฌาปนกิจ


๙.๒

คือการสวดบทมาติกาของพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์หรือที่เรียกว่า

" สัตตัปปกรณาภิธรรม " ซึ่งมีการบังสุกุลเป็นที่สุด เป็นประเพณีนิยมจัดให้พระสงฆ์สวดในงานทำบุญหน้าศพอย่างหนึ่ง เรียกโดยโวหาร

ทางราชการในงานหลวงว่า " สดับปกรณ์ " แต่ราษฎรสามัญทั่วไปเรียกว่า " สวดมาติกา "

๑๐.

๑๐.๑

ผ้าป่า  และผ้าอัจเจกจีวร  ได้แก่ผ้าเช่นไร ?


๑๐.๒

การทอดผ้าป่ากำหนดกาลเวลาทอดไว้หรือไม่ ?

๑๐.

๑๐.๑

ผ้าป่า หมายถึง ผ้าเปื้อนฝุ่นที่ไม่มีเจ้าของหวงเเหน ทิ้งอยู่ตามป่าดงบ้าง ตามป่าช้าบ้าง ตามถนนหนทางและห้อยย้อยอยู่ตามกิ่งไม้บ้าง

ผ้าอัจเจกจีวร หมายถึง ผ้าจำนำพรรษาที่ทายกรีบด่วนถวายก่อนกำหนดกาล  คือถวายก่อนออกพรรษา


๑๐.๒

ไม่มีกำหนดกาลเวลา  มีศรัทธาเมื่อไรก็ถวายได้  


วิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท 2545

 วิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท 2545


ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นโท

สอบในสนามหลวง

วันเสาร์ ที่  ๒๓  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕

 ๑.    ๑.๑ การศึกษาอนุพุทธประวัติมีประโยชน์อย่างไร ?

        ๑.๒ เมื่อครั้งที่พระอรหันต์ ๖๑ องค์ เกิดขึ้นในโลก  มีใครบ้าง ?

 ๑.    ๑.๑ นำให้เกิดความเลื่อมใสและความนับถือ กำหนดและจดจำวัตรปฏิบัติอันงดงาม

             ของท่านมาเป็นปฏิปทาเครื่องดำเนินชีวิตของตน และเมื่อความดีของพระสาวก

             ปรากฏแล้วจะเชิดชูเกียรติคุณของพระศาสดาให้ยิ่งขึ้น ฯ

        ๑.๒  มีพระพุทธองค์ ๑ พระปัญจวัคคีย์ ๕ พระยสะ ๑ สหายของพระยสะที่ปรากฏนาม

              ๔  และที่ไม่ปรากฏนามอีก ๕๐ ฯ

 ๒.    ๒.๑ พระพุทธองค์ทรงส่งสาวกออกไปประกาศพระศาสนา เพราะทรงเห็นประโยชน์

             อะไร ?

        ๒.๒ พระอัสสชิได้แสดงธรรมแก่อุปติสสปริพาชก มีใจความย่อว่าอย่างไร ?

 ๒.    ๒.๑ ทรงเห็นประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชน เพื่อให้เห็นธรรมและตั้งอยู่ในสัมมาปฏิบัติ

             อันเป็นปัจจัยแห่งความสุขความสงบ ฯ

        ๒.๒ มีใจความย่อว่า "พระศาสดาทรงแสดงความเกิดแห่งธรรมทั้งหลาย เพราะ

             เป็นไปแห่งเหตุ และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น เพราะดับแห่งเหตุ พระศาสดาตรัสอย่างนี้" ฯ

 ๓.    ๓.๑  ปัญหาว่า "พระขีณาสพตายแล้วเป็นอะไร" ใครเป็นผู้ถาม ? ใครเป็นผู้ตอบ ?  

             และตอบว่าอย่างไร ?

        ๓.๒ ข้อความว่า   "ท่านควรสำเหนียกใจอย่างนี้ว่า   เราจักไม่พูดคำอันเป็นเหตุ                     เถียงกัน ถือผิดต่อกัน"  ใครพูดกับใคร ?  ที่ไหน ?

 ๓.    ๓.๑ พระสารีบุตรเป็นผู้ถาม พระยมกะเป็นผู้ตอบ และตอบว่า รูป เวทนา สัญญา

             สังขาร วิญญาณ ที่ไม่เที่ยง ดับไปแล้ว ฯ

        ๓.๒ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแก่พระโมคคัลลานะ ที่บ้านกัลลวาลมุตตคาม แขวงมคธ ฯ

 ๔.    ๔.๑ พระมหากัสสปะได้รับการอุปสมบทด้วยวิธีใด ?

        ๔.๒ พระมหากัสสปะโดยปกติถือธุดงค์อะไรบ้าง ?

 ๔.    ๔.๑ ด้วยวิธีรับพุทธโอวาท ๓ ข้อ ฯ

        ๔.๒ ถือธุดงค์ ๓ อย่าง คือ

                   ๑) ทรงผ้าบังสุกุลจีวรเป็นวัตร

                   ๒) ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร

                   ๓) ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร ฯ

 ๕.    ๕.๑ พระสาวกผู้ได้รับการอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจาเป็นองค์แรกคือใคร ?

        ๕.๒ ท่านได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่าเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย อย่างไร ?

 ๕.    ๕.๑ พระราธะ ฯ

        ๕.๒ ได้รับยกย่องว่า เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีปฏิภาณ คือญาณแจ่มแจ้ง

             ในธรรมเทศนา ฯ

 ๖.    ๖.๑ ราหุลกุมาร ได้บรรพชาเป็นสามเณรเพราะเหตุใด ?

        ๖.๒ พระราหุล ได้รับยกย่องว่าเลิศในทางใด ?

 ๖.    ๖.๑ เพราะพระมารดาให้ไปขอราชสมบัติกับพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นพระราชบิดา ดังนั้น

             พระองค์จึงทรงประทานทรัพย์อันเป็นโลกุตตระ โดยมอบหมายให้พระสารีบุตร

             เป็นพระอุปัชฌาย์  บรรพชาให้ราหุลกุมาร ด้วยการรับสรณคมน์ ๓ ฯ

        ๖.๒ ได้รับยกย่องว่าเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ใคร่ศึกษาพระธรรมวินัย ฯ

 ๗.    ๗.๑ พระนางปชาบดี โคตมี  ยินดีรับครุธรรม ๘ ข้อมาปฏิบัติ อุปมาเหมือนอะไร ?

        ๗.๒ พระเถรีผู้มีชื่อต่อไปนี้ได้รับเอตทัคคะในทางไหน ?

                   ก) กิสาโคตมีเถรี                                                

                   ข) กุณฑลเกสีเถรี                                        

                   ค) ภัททกาปิลานีเถรี

                   ง)  ภัททากัจจานาเถรี                                    

                   จ) โสณาเถรี

 ๗.    ๗.๑ เปรียบเหมือนหญิงหรือชายที่ยังรุ่นสาวรุ่นหนุ่ม กำลังรักแต่งกาย อาบน้ำ

             สระเกล้าแล้วได้พวงดอกอุบล พวงมะลิ หรือพวงลำดวนแล้ว จะพึงรับด้วยมือ

             ทั้ง ๒ แล้วตั้งไว้บนศีรษะด้วยความยินดีฉันนั้น ฯ

        ๗.๒      ก) ในทางทรงไว้ซึ่งจีวรอันเศร้าหมอง

                   ข) ในทางขิปปาภิญญา หรือ ตรัสรู้เร็ว

                   ค) ในทางระลึกได้ซึ่งปุพเพนิวาส

                   ง)  ในทางถึงซึ่งอภิญญาอันใหญ่แล้ว

                   จ) ในทางมีความเพียรปรารภแล้ว ฯ

ศาสนพิธี

 ๘.    ๘.๑ การศึกษาให้เข้าใจในศาสนพิธี มีประโยชน์อย่างไร ?

        ๘.๒ ในพิธีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ พระพุทธรูปที่จะประดิษฐานบนรถทรงหรือ

             คานหาม นิยมพระพุทธรูปปางอะไร ?

 ๘.    ๘.๑       ก) ทำให้เข้าใจเรื่องของศาสนพิธีได้โดยถูกต้อง

                   ข) ให้เห็นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ไร้สาระ

                   ค) ทำให้ปฏิบัติได้ถูกต้อง ไม่ผิดเพี้ยนจากขนบธรรมเนียมประเพณี ฯ

        ๘.๒ นิยมพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร   ถ้าไม่มีจะเป็นพระพุทธรูปปางอะไรก็ได้ ฯ

 ๙.    ๙.๑ งานทำบุญต่อนามคืองานทำบุญเช่นไร ?

        ๙.๒ จงเขียนคำบังสุกุลเป็น มาดู

 ๙.    ๙.๑ คืองานทำบุญที่คณะญาติของผู้กำลังป่วยหนักจัดขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยหายป่วย

             และเพื่อให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสบำเพ็ญกุศลในบั้นปลายแห่งชีวิตของตน ฯ

        ๙.๒       อจิรํ วตยํ กาโย                 ปฐวึ อธิเสสฺสติ

                   ฉุฑฺโฑ อเปตวิญฺญาโณ         นิรตฺถํว กลิงฺครํ ฯ

๑๐. ๑๐.๑ ผ้าวัสสิกสาฎก ใครเป็นผู้ถวายคนแรก ?

      ๑๐.๒ การถวายผ้าวัสสิกสาฎกนั้น มีมูลเหตุมาจากอะไร ?

๑๐. ๑๐.๑ นางวิสาขา มหาอุบาสิกา ฯ

      ๑๐.๒ มีมูลเหตุมาจากเดิมยังไม่มีพุทธานุญาตให้ภิกษุมีผ้าอาบน้ำฝน ภิกษุทั้งหลาย

             จึงเปลือยกายอาบน้ำ   นางวิสาขา มหาอุบาสิกา  ทราบเรื่องนั้นแล้ว  เห็นว่า

             ไม่สมควรแก่เพศสมณะจึงทูลขอพระพุทธานุญาต เพื่อถวายผ้าอาบน้ำฝน

             แก่ภิกษุทั้งหลาย ฯ