วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2546

 วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2546

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

พ.ศ. ๒๕๔๖

๑.

๑.๑

ข้อความว่า  “ พระศาสดาทรงตั้งอยู่ในที่เป็นพระธรรมราชาผู้ปกครอง ” หมายความว่าอย่างไร ?

๑.๒

พระบัญญัติที่ทรงตั้งไว้เดิมเรียกว่าอะไร ?

๑.

๑.๑

หมายความว่า ทรงตั้งพระพุทธบัญญัติเพื่อป้องกันความประพฤติเสียหาย  และวางโทษแก่ผู้ล่วงละเมิด ด้วยปรับอาบัติหนักบ้าง เบาบ้าง  อย่างเดียวกับพระเจ้าแผ่นดินทรงตราพระราชบัญญัติ ฯ

๑.๒

เรียกว่า มูลบัญญัติ ฯ

๒.

๒.๑

การปลงชีวิตอย่างไร ต้องอาบัติถุลลัจจัย  ?

๒.๒

“ภิกษุว่ายากสอนยาก ภิกษุอื่นห้ามไม่ฟัง สงฆ์สวดกรรมเพื่อจะให้ละข้อ

ที่ประพฤตินั้น ถ้าไม่ละต้องสังฆาทิเสส” คือสิกขาบทที่เท่าไร ทรงบัญญัติเพื่อประสงค์ใด ?

๒.

๒.๑

การปลงชีวิตมนุษย์แต่ไม่สำเร็จ คือไม่ตาย เป็นแค่บาดเจ็บ ๑

ปลงชีวิตอมนุษย์ มียักษ์ เปรต เป็นต้น ๑ ฯ

๒.๒

สิกขาบทที่  ๑๒  แห่งสังฆาทิเสส  เพื่อป้องกันไม่ไห้ภิกษุดื้อด้าน ฯ

๓.

๓.๑

คำว่า  “ภิกษุประทุษร้ายตระกูล”  ในสิกขาบทที่ ๑๓  แห่งสังฆาทิเสส  หมายถึงการทำอย่างไร ?


๓.๒

สังฆาทิเสส  ๑๓  สิกขาบท ที่ชื่อว่า ยาวตติยกะ หมายความว่าอย่างไร ?

๓.

๓.๑

หมายถึงการที่ภิกษุประจบคฤหัสถ์ ยอมตนให้เขาใช้สอย  เช่นเดินส่งข่าว

ให้เขาเป็นต้น หรือ ด้วยการเอาเปรียบโดยเชิงให้สิ่งเล็กน้อยด้วยหวัง

ได้มาก ฯ

๓.๒

ที่ชื่อว่า ยาวตติยกะ เพราะให้ต้องอาบัติต่อเมื่อสงฆ์ประกาศห้ามครบ

๓ ครั้ง ฯ

๔.

๔.๑

คำว่า  “ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ”  หมายความว่าอย่างไร ?

๔.๒

ภิกษุต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แล้ว  ทำอย่างไรจึงจะพ้น ?

๔.

๔.๑

หมายความว่า  อาบัติปาจิตตีย์  ที่จำต้องสละสิ่งของ ฯ

๔.๒

ภิกษุต้องสละสิ่งของอันเป็นเหตุให้ต้องอาบัตินั้นก่อน แล้วแสดงอาบัติ 

จึงพ้นจากอาบัตินั้นได้ ฯ

๕.

๕.๑

อติเรกจีวร  ได้แก่จีวรเช่นไร ?

๕.๒

การที่ทรงห้ามไม่ให้ภิกษุเก็บอติเรกจีวร  ด้วยมีพระพุทธประสงค์อย่างไร ?

๕.

๕.๑

ได้แก่  จีวรนอกจากจีวรอธิษฐาน ฯ

๕.๒

ด้วยมีพระพุทธประสงค์เพื่อป้องกันความสุรุ่ยสุร่าย และความมักมาก

ของภิกษุ ฯ

๖.

๖.๑

ภิกษุรู้อยู่  น้อมลาภที่เขาจะถวายสงฆ์มาเพื่อตน  ต้องอาบัติอะไร ?

๖.๒

คำว่า  “ ลาภ ”  ในข้อ  ๖.๑  นั้น  ได้แก่อะไรบ้าง ?

๖.

๖.๑

ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ฯ

๖.๒

ได้แก่  จีวร  บิณฑบาต  เสนาสนะ  และเภสัช  ซึ่งเรียกว่า  ปัจจัย  ๔  และของที่เป็นกัปปิยะอย่างอื่น ๆ อีก ฯ

๗.

จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้

๗.๑

โอมสวาท  ?

๗.๒

อักโกสวัตถุ  ?

๗.

๗.๑

คือ  คำพูดเสียดแทงให้เจ็บใจ ฯ

๗.๒

คือ  เรื่องสำหรับด่า  ๑๐  อย่าง ฯ

๘.

๘.๑

ภิกษุต้องอาบัติเพราะความซุกซน  มีอย่างไรบ้าง ?

๘.๒

ภิกษุซ่อนบาตร ซ่อนปากกาของภิกษุอื่นเพื่อล้อเล่น ต้องอาบัติอะไร ?

๘.

๘.๑

มีอย่างนี้  คือ  เล่นจี้  เล่นน้ำ  หลอนภิกษุ  ซ่อนของเพื่อล้อเล่น  พูดเย้าให้เกิดรำคาญ ฯ

๘.๒

ซ่อนบาตร  ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ซ่อนปากกา ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ

๙.

๙.๑

เสขิยวัตร  คืออะไร ?  หมวดที่  ๒  ว่าด้วยเรื่องอะไร ?

๙.๒

ภิกษุไม่เอื้อเฟื้อในเสขิยวัตร  ปฏิบัติผิดธรรมเนียม  ต้องอาบัติอะไร ?

๙.

๙.๑

คือ  วัตรหรือธรรมเนียมที่ควรศึกษา ฯ

หมวดที่  ๒  ว่าด้วยธรรมเนียมรับบิณฑบาตและฉันอาหาร ฯ

๙.๒

ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ

๑๐.

๑๐.๑

อธิกรณ์  คืออะไร ?  อธิกรณ์ย่อมระงับได้ด้วยอะไร ?

๑๐.๒

การแสดงอาบัติจัดเข้าในอธิกรณสมถะข้อไหน ?  สำหรับระงับอธิกรณ์อะไร ?

๑๐.

๑๐.๑

คือ  เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำ ฯ

ระงับได้ด้วยอธิกรณสมถะ คือธรรมสำหรับระงับอธิกรณ์ ฯ

๑๐.๒

จัดเข้าในปฏิญญาตกรณะ ฯ  สำหรับระงับอาปัตตาธิกรณ์  ฯ

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2547

 วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2547

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

พ.ศ. ๒๕๔๗


   ๑.  อุปสัมปทา (การอุปสมบท) มี ๓ วิธี  ในปัจจุบันใช้วิธีไหน ?  กำหนดสงฆ์อย่างต่ำ

        ไว้เท่าไร ?

   ๑.  ใช้ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา  การอุปสมบทด้วยกรรมมีญัตติเป็นที่ ๔ ฯ

        กำหนดสงฆ์อย่างต่ำไว้คือ  ในมัธยมประเทศ ๑๐ รูป  ในปัจจันตชนบท ๕ รูป ฯ

   ๒.  พระวินัย คืออะไร ?  พระภิกษุรักษาพระวินัยดีแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์อย่างไร ?

   ๒.  คือ พระพุทธบัญญัติและอภิสมาจาร ฯ

        พระภิกษุรักษาพระวินัยดีแล้วย่อมได้รับอานิสงส์คือ ความไม่ต้องเดือดร้อนใจ ได้รับ                ความแช่มชื่นว่า ได้ประพฤติดีงาม เข้าหมู่สงฆ์ก็อาจหาญ ฯ

   ๓.  นิสสัยและอกรณียกิจคืออะไร ?   ทั้ง ๒ อย่างรวมเรียกว่าอะไร ?

   ๓.  นิสสัยคือ ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิต  อกรณียกิจคือ กิจที่บรรพชิตไม่ควรทำ ฯ

        ทั้ง ๒ อย่าง รวมเรียกว่า อนุศาสน์ ฯ

   ๔.  สิกขา กับ สิกขาบท ต่างกันอย่างไร ?

   ๔.  ต่างกันอย่างนี้ สิกขา ได้แก่ข้อที่ควรศึกษา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา  สิกขาบท

        ได้แก่ พระบัญญัติมาตราหนึ่งๆ ฯ

   ๕.  อาการที่ภิกษุจะต้องอาบัติข้อที่ว่า ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำลง มีอธิบายอย่างไร ?

   ๕.  มีอธิบายว่า ภิกษุสงสัยอยู่ว่า ทำอย่างนั้นๆ ผิดพระบัญญัติหรือไม่ แต่ขืนทำ

        ด้วยความสะเพร่าเช่นนี้ ถ้าการที่ทำนั้นผิดพระบัญญัติก็ต้องอาบัติตามวัตถุ ถ้าไม่ผิด

        ก็ต้องอาบัติทุกกฏเพราะสงสัยแล้วขืนทำ ฯ

   ๖.  คำว่า มาตุคาม ในสังฆาทิเสส สิกขาบทที่ ๒, ๓, ๔ และ ๕  ต่างกันอย่างไร ?

   ๖.  มาตุคามในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒ หมายรวมทั้งหญิงที่รู้เดียงสาและไม่รู้เดียงสา

        โดยที่สุดแม้เกิดในวันนั้น  ส่วนมาตุคามในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๓, ๔ และ ๕

        หมายเฉพาะหญิงผู้รู้เดียงสาแล้วเท่านั้น ฯ

   ๗.  ในอนิยต ที่ลับตา และที่ลับหู ได้แก่ที่เช่นไร ?  ภิกษุอยู่กับมาตุคามสองต่อสองในที่

        เช่นนั้น เป็นทางปรับอาบัติอะไรได้บ้าง ?

   ๗.  ที่ลับตา ได้แก่ ที่มีวัตถุกำบัง แลเห็นไม่ได้  ที่ลับหู ได้แก่ ที่แจ้ง แลเห็นได้ แต่ห่าง

        ไม่ได้ยินเสียงพูด ฯ

        ในที่ลับตา เป็นทางปรับอาบัติปาราชิก สังฆาทิเสส และ ปาจิตตีย์

        ในที่ลับหู เป็นทางปรับอาบัติสังฆาทิเสส และ ปาจิตตีย์ ฯ

   ๘.  จีวรที่เป็นนิสสัคคีย์แล้ว ควรสละให้แก่ใคร ?  ถ้าจีวรนั้นสูญหาย พึงปฏิบัติเช่นไร ?

   ๘.  ควรสละให้แก่สงฆ์ก็ได้ แก่คณะก็ได้ แก่บุคคลก็ได้ ฯ

        ถ้าจีวรนั้นสูญหาย พึงแสดงอาบัติเท่านั้น ฯ

   ๙.  ภิกษุรู้อยู่ น้อมลาภสงฆ์ไปเพื่อตนก็ดี เพื่อบุคคลก็ดี เพื่อสงฆ์อื่นก็ดี ต้องอาบัติอะไร ?

   ๙.  น้อมลาภที่เขาจะถวายสงฆ์มาเพื่อตน ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์ เพื่อบุคคล ต้องปาจิตตีย์

        เพื่อสงฆ์อื่น ต้องทุกกฏ ฯ

๑๐.  ข้อว่า ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักฉันบิณฑบาตโดยเคารพ นั้น มีอธิบายอย่างไร ?

๑๐.  มีอธิบายว่า ภิกษุฉันบิณฑบาต แม้เป็นของเลว ก็ไม่แสดงอาการวิการ คือฉันโดยปกติ

        และเมื่อฉัน ก็ไม่ฉันพลางทำกิจอื่นพลาง ฯ

วิชาวินัย นักธรรมชั้นตรี 2548

 วิชาวินัย นักธรรมชั้นตรี 2548

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัย  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันจันทร์ ที่  ๒๑  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘


   ๑.  กิจที่บรรพชิตไม่ควรทำเรียกว่าอะไร ?  มีอะไรบ้าง ?

   ๑.  เรียกว่าอกรณียกิจ ฯ  มีดังนี้คือ

             ๑. เสพเมถุน 

             ๒. ลักทรัพย์ 

             ๓. ฆ่าสัตว์ 

             ๔. พูดอวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตน ฯ

   ๒.  ภิกษุฆ่าสัตว์ให้ตายและพยายามฆ่าตนเอง ต้องอาบัติอะไร ?

   ๒. ฆ่ามนุษย์ให้ตาย  ต้องอาบัติปาราชิก

        ฆ่าอมนุษย์ให้ตาย  ต้องอาบัติถุลลัจจัย

        ฆ่าสัตว์เดรัจฉานทั่วไปให้ตาย ต้องอาบัติปาจิตตีย์

        พยายามฆ่าตนเอง ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ

   ๓.  คำต่อไปนี้มีความหมายอย่างไร ?

           ก. สจิตตกะ

             ข. อจิตตกะ

   ๓.        ก. อาบัติที่ต้องเพราะมีเจตนาล่วงละเมิด

             ข. อาบัติที่ต้องแม้ไม่มีเจตนาล่วงละเมิด ฯ


   ๔.  ผ้าไตรจีวรคือผ้าอะไร ?  ได้แก่อะไรบ้าง ?

   ๔.  คือ ผ้า ๓ ผืนที่ทรงอนุญาตให้ภิกษุอธิษฐานไว้ใช้สำหรับตนเอง ฯ ได้แก่ สังฆาฏิ

        (ผ้าคลุม)  อุตตราสงค์ (ผ้าห่ม)  อันตรวาสก (ผ้านุ่ง) ฯ

   ๕.  อติเรกบาตร คืออะไร ?  ภิกษุเก็บไว้เกินกี่วัน ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ?

   ๕.  คือ บาตรนอกจากบาตรอธิษฐาน ฯ  เกิน ๑๐ วัน ฯ

   ๖.  เภสัช ๕ ที่ภิกษุรับประเคนแล้วเก็บไว้ฉันได้ไม่เกิน ๗ วัน ได้แก่อะไรบ้าง ?

   ๖.  ได้แก่ เนยใส ๑  เนยข้น ๑  น้ำมัน ๑  น้ำผึ้ง ๑  น้ำอ้อย ๑ ฯ

   ๗.  บุคคลที่เรียกว่า ปริพาชก และ ปริพาชิกา คือใคร ?  ภิกษุให้ของเคี้ยวก็ดี ของกิน

        ก็ดี แก่บุคคลเหล่านั้นอย่างไรเป็นอาบัติและอย่างไรไม่เป็นอาบัติ ?

   ๗.  ปริพาชก คือนักบวชผู้ชายนอกพระพุทธศาสนา  ปริพาชิกา คือนักบวชผู้หญิง

        นอกพระพุทธศาสนา ฯ   ให้ด้วยมือของตนต้องอาบัติปาจิตตีย์  สั่งให้ให้ก็ดี

        วางให้ก็ดี ไม่เป็นอาบัติ ฯ

   ๘.  เมื่อภิกษุได้จีวรใหม่มา ก่อนที่จะนุ่งห่ม ต้องทำพินทุด้วยสี ๓ สี อย่างใด

        อย่างหนึ่ง คือสีอะไรบ้าง ?

   ๘.  คือ

             ๑. สีเขียวคราม 

             ๒. สีโคลน 

             ๓. สีดำคล้ำ ฯ

   ๙.  เสขิยวัตรคืออะไร ?  ถ้าไม่เอื้อเฟื้อต้องอาบัติอะไร ?

   ๙.  คือวัตรหรือธรรมเนียมที่ภิกษุจะต้องศึกษา ฯ  ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ

๑๐.  ในพระวินัย กำหนด ๑ ปีมีกี่ฤดู ?  อะไรบ้าง ?  ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘

        ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็นฤดูอะไร ?

๑๐.   ๓ ฤดู คือ ฤดูหนาว ๑  ฤดูร้อน ๑  ฤดูฝน ๑ ฯ  ฤดูฝน ฯ