การบรรพชาในแต่ละยุคสมัย มีวัตถุประสงค์ในการบวชแตกต่างกันไป ตามวัฒนธรรม
ประเพณีของสังคมในยุคนั้น ๆ พอสรุปได้ ดังนี้
สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงให้พระราชโอรส
และพระโอรสของพระองค์ เจริญวัยพอสมควร บรรพชาเป็นสามเณร หรืออุปสมบทเป็น
พระภิกษุ เพื่อศึกษาพระพุทธศาสนา ให้มีพระทัยแนบแน่นมั่นคงต่อพระศาสนา จนมีผู้นิยม
นามาปฏิบัติตาม พระราชโอรสและพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ มีพระราชศรัทธา
ทรงดารงตนในสมณเพศจนตลอดพระชนม์ชีพก็มี เช่น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระ-
วชิรญาณวโรรส
สมัยนั้น วัดเป็นศูนย์กลางการศึกษา เพราะยังไม่มีโรงเรียน วิชาการทุกแขนงมีสอน
ในวัด โดยพระภิกษุเป็นผู้สอน ดังนั้น จึงมีผู้นิยมส่งบุตรชายหลานชายตน มาขอบรรพชาเป็น
สามเณร หรือเป็นศิษย์วัด เพื่อศึกษาศิลปวิทยาต่าง ๆ ยุคต่อมา เมื่อเปิดการเรียนการสอน
พระปริยัติธรรม ทั้งแผนกธรรมและบาลีรวมถึงแผนกสามัญศึกษาขึ้นในวัด เป็นเหตุให้ประชาชนในชนบทนิยมให้บุตรหลานของตนบรรพชาเป็นสามเณร และเข้ารับการศึกษาจานวนมาก
เพราะค่าใช้จ่ายน้อย ผู้เข้ามาศึกษาตามระบบนี้ เมื่อลาสิกขาแล้ว ได้เข้ารับราชการดารง
ตาแหน่งใหญ่โตมากมาย
ปัจจุบันโลกเจริญขึ้น คนมีทางเลือกในการดาเนินชีวิตมากขึ้น สามารถแสวงหา
ความรู้ได้หลายทาง การบวชสามเณรเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างสมัยก่อน จึงลดจานวน
ลงตามลาดับ เป็นเพียงการบวชระยะสั้นและรักษาประเพณีเท่านั้น
การบวชเป็นสามเณรระยะสั้น ช่วงปิดภาคเรียนในฤดูร้อน เรียกว่า บวชเณร
ภาคฤดูร้อน โดยกาหนดเวลา ๑๕ วัน หรือ ๑ เดือน ตามแต่ทางวัดจะกาหนด เพื่อให้เด็ก
นักเรียนได้เข้ามาศึกษาพระพุทธศาสนาทั้งปริยัติและปฏิบัติมีพระภิกษุเป็นผู้สอน เป็นการนา
เด็กเข้าพระศาสนาตั้งแต่เยาว์วัยเพื่อปลูกฝังให้เด็กเป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่เป็นปัญหาของ
สังคม การบวชเป็นสามเณรด้วยวิธีนี้ ได้รับความนิยมและจัดบวชกันทั่วประเทศ
การบวชเป็นสามเณรในพิธีฌาปนกิจศพหรือพระราชทานเพลิงศพของบุพการี
เรียกว่า บวชหน้าไฟ เป็นการบวชรักษาประเพณี เป็นการแสดงถึงความมีกตัญญูกตเวที
และอุทิศกุศลแก่ ผู้ล่วงลับไปแล้ว เชื่อกันว่าผู้ตายจะได้อนุโมทนาบุญและไปสู่สุคติ นิยมบวช
ตอนเช้าในวันปลงศพ และลาสิกขาตอนเย็นหลังเสร็จพิธีฌาปนกิจศพ หรือในวันรุ่งขึ้นถือเป็น
การตอบแทนคุณบุพการี ทาให้วิญญาณท่านได้เห็นชายผ้าเหลืองเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์
หนังสือนักธรรมชั้นตรี,นักธรรมตรีpdf,นักธรรมตรี,สรุปนักธรรมตรี,ข้อสอบนักธรรมตรี,เก็งข้อสอบนักธรรมตรี
- หน้าแรก
- พุทธประวัติ
- ธรรมวิภาค
- เบญจศีล-เบญจธรรม
- แบบกระทู้ธรรมชั้นตรี
- แบบกระทู้ธรรมชั้นโท
- แบบกระทู้ธรรมชั้นเอก
- หมวด พุทธศาสนสุภาษิต
- อนุพุทธประวัติชั้นโท
- ดาวโหลดหนังสือธรรมศึกษาชั้นตรี โท เอก
- Download ข้อสอบนักธรรมและธรรมศึกษา ปี 2559-2563
- ประวัตินักธรรม-ธรรมศึกษา โดยสังเขป
- ขอบข่ายการเรียนการสอนธรรมศึกษา 2561
- ขอบข่ายธรรมศึกษา ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
- ข้อสอบนักธรรมตรี-โท-เอก[ย้อนหลัง]
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
พิธีบรรพชาสามเณร
พิธีบรรพชาสามเณร
บรรพชา แปลว่า การงดเว้นในสิ่งไม่ดีไม่งามต่าง ๆ ในที่นี้ หมายถึง การบวชเป็น
สามเณร เรียกสั้น ๆ ว่า บวชเณร การบรรพชาเป็นสามเณร มีมาแต่สมัยพุทธกาล สามเณร
รูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ ราหุลกุมาร มีพระสารีบุตรเป็นพระอุปัชฌาย์ ผู้จะบรรพชา
เป็นสามเณรต้อง มีอายุอย่างต่า ๗ ปี ปัจจุบันการบรรพชาเป็นสามเณร ต้องขอบรรพชาต่อ
พระอุปัชฌาย์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ บวชด้วยวิธีรับไตรสรณคมน์
เรียกว่า ติสรณคมนูปสัมปทา และรักษาศีล ๑๐ มิให้ขาดมิให้ด่างพร้อย ทางภาคเหนือของ
ประเทศไทยนิยมให้บุตรหลานตนบรรพชาเป็นสามเณรมากกว่าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
ในบางจังหวัดจัดให้มีประเพณีบวชลูกแก้วเป็นพิธีสาคัญประจาจังหวัดทุกปี
บรรพชา แปลว่า การงดเว้นในสิ่งไม่ดีไม่งามต่าง ๆ ในที่นี้ หมายถึง การบวชเป็น
สามเณร เรียกสั้น ๆ ว่า บวชเณร การบรรพชาเป็นสามเณร มีมาแต่สมัยพุทธกาล สามเณร
รูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ ราหุลกุมาร มีพระสารีบุตรเป็นพระอุปัชฌาย์ ผู้จะบรรพชา
เป็นสามเณรต้อง มีอายุอย่างต่า ๗ ปี ปัจจุบันการบรรพชาเป็นสามเณร ต้องขอบรรพชาต่อ
พระอุปัชฌาย์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ บวชด้วยวิธีรับไตรสรณคมน์
เรียกว่า ติสรณคมนูปสัมปทา และรักษาศีล ๑๐ มิให้ขาดมิให้ด่างพร้อย ทางภาคเหนือของ
ประเทศไทยนิยมให้บุตรหลานตนบรรพชาเป็นสามเณรมากกว่าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
ในบางจังหวัดจัดให้มีประเพณีบวชลูกแก้วเป็นพิธีสาคัญประจาจังหวัดทุกปี
คาถวายผ้ากฐิน
คาถวายผ้ากฐิน (แบบที่ ๑)
อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ
ทุติยัมปิ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ
ตะติยัมปิ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ.
คาแปล ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าเพื่อกฐิน พร้อมทั้งบริวารนี้ แด่พระสงฆ์.
คาถวายผ้ากฐิน (แบบที่ ๒)
อิมัง ภันเต สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต
สังโฆ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง ปะฏิคคัณหาตุ ปะฏิคคะเหตตะวา จะ อิมินา
ทุสเสนะ กะฐินัง อัตถะระตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ.
คาแปล
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าเพื่อกฐิน พร้อมทั้งบริวารนี้
แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์โปรดรับผ้าเพื่อกฐิน พร้อมทั้งบริวารนี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย ครั้นรับแล้ว
โปรดกรานกฐินด้วยผ้านี้เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดกาลนาน เทอญ.
อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ
ทุติยัมปิ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ
ตะติยัมปิ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ.
คาแปล ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าเพื่อกฐิน พร้อมทั้งบริวารนี้ แด่พระสงฆ์.
คาถวายผ้ากฐิน (แบบที่ ๒)
อิมัง ภันเต สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต
สังโฆ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง ปะฏิคคัณหาตุ ปะฏิคคะเหตตะวา จะ อิมินา
ทุสเสนะ กะฐินัง อัตถะระตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ.
คาแปล
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าเพื่อกฐิน พร้อมทั้งบริวารนี้
แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์โปรดรับผ้าเพื่อกฐิน พร้อมทั้งบริวารนี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย ครั้นรับแล้ว
โปรดกรานกฐินด้วยผ้านี้เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดกาลนาน เทอญ.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)