วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

พิธีบาเพ็ญกุศล ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน

พิธีบาเพ็ญกุศล ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน
การทาบุญอุทิศให้ผู้ตายมีตลอดการตั้งศพบาเพ็ญกุศล พิธีทาบุญให้ผู้ตายหลังจาก
ตายได้ ๗ วัน เรียกว่า สัตตมวาร พิธีทาบุญให้ผู้ตายหลังจากตายได้ ๕๐ วัน เรียกว่า ปัญญา
สมวาร พิธีทาบุญให้คนตายหลังจากตายได้ ๑๐๐ วัน เรียกว่า สตมวาร การบาเพ็ญกุศลตาม
วันดังกล่าว มีระเบียบวิธีปฏิบัติเหมือนงานทาบุญทั่วไป มีความต่างกันอยู่บ้าง คือ ไม่ต้องวง
สายสิญจน์และไม่ต้องตั้งขันน้ามนต์ในการสวดมนต์ เมื่อพิธีกรอาราธนาพระปริตรแล้ว
พระสงฆ์ไม่ต้องชุมนุมเทวดาหรือขัดสัคเค สวดพระพุทธมนต์ต่อเลย จบแล้วถวายภัตตาหาร
พระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุล
และอนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธี
บทสวดมนต์ในพิธีบาเพ็ญกุศลให้ผู้วายชนม์ ๗ วัน สมัยโบราณนิยมสวดอนัตต-
ลักขณสูตร ๕๐ วัน สวดอาทิตตปริยายสูตร ๑๐๐ วัน สวดธัมมนิยามสูตร แต่ในยุคปัจจุบัน
พระสงฆ์ส่วนใหญ่จะสวดธรรมนิยามสูตรทุกงาน ยกเว้นงานเจ้าภาพนิมนต์ระบุพระสูตรให้สวด แต่มีธรรมเนียมว่า ไม่สวดเจ็ดตานาน สิบสองตานาน ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และ
มหาสมัยสูตร ในงานทาบุญเกี่ยวข้องด้วยคนตายไปสู่สัมปรายภพแล้ว
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศลในวันดังกล่าว ถือเป็นวันสาคัญในการทาบุญอุทิศให้แก่ผู้ตาย
ดังนั้น จึงนิยมทากันโดยทั่วไป การกาหนดวันจัดงานให้นับวันตายเป็นหลัก คือ ตายลงวันไหน
ให้ถือวันนั้นเป็นวันสาคัญในการอุทิศผลบุญเป็นกรณีพิเศษ เช่น ตายวันอาทิตย์ ถ้าจัดงาน
๒ วัน นิยมนิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ในวันเสาร์ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ใน
วันอาทิตย์ กรณีทาบุญวันเดียว พิธีสวดพระพุทธมนต์และการถวายภัตตาหารพระสงฆ์ นิยม
ทาในวันอาทิตย์ ซึ่งตรงกับวันตายของผู้วายชนม์
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศล ๒ วัน ในวันแรก นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ แสดง
พระธรรมเทศนาพระสงฆ์ ๔ รูป สวดรับเทศน์ พิจารณาผ้าบังสุกุล ตกกลางคืนพระสงฆ์สวด
พระอภิธรรม ในวันรุ่งขึ้นพระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ในวันแรก สวดถวายพรพระ ฉันภัตตาหาร
เรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา
เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศกุศลให้แก่ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศลวันเดียว นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ แสดงพระธรรม
เทศนา ถวายภัตตาหารเพล หลังจากพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพถวาย
เครื่องไทยธรรม ทอดผ้าบังสุกุล (ถ้ามี) พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าภาพ
กรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี

พิธีสวดพระอภิธรรมศพ

พิธีสวดพระอภิธรรมศพ
       การบาเพ็ญกุศลศพ นิยมจัด ๓ คืน ๕ คืน ๗ คืน หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความ
พร้อมของเจ้าภาพ แต่ละคืนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม ญาติเป็นเจ้าภาพบ้าง คนอื่นรับเป็น
เจ้าภาพบ้าง เมื่อถึงเวลาตามกาหนด ประธานหรือเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
จุดเครื่องสักการบูชาหน้าตู้พระอภิธรรม จุดเครื่องทองน้อยหน้าศพ หันพุ่มดอกไม้เข้าหาศพ
จุดเครื่องทองน้อยอีกชุดหนึ่ง หันพุ่มดอกไม้ออกด้านนอก สาหรับให้ผู้วายชนม์บูชาพระธรรม
ถ้าเป็นศพคฤหัสถ์หรือฆราวาสจะจุดในคราวเดียวกัน ถ้าเป็นศพพระสงฆ์ จะเชิญประธาน
หรือเจ้าภาพจุดเครื่องทองน้อยหน้าศพ ประธานหรือเจ้าภาพนั่งประจาที่แล้ว อาราธนาศีล
ประธานสงฆ์ให้ศีลจบ พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมประจาคืน การสวดพระอภิธรรมพิธีกร
ไม่ต้องอาราธนาธรรมเพราะการอาราธนาธรรม ถือเป็นการอาราธนาพระสงฆ์แสดงพระธรรม
เทศนา หรือเทศน์ มิใช่เป็นการอาราธนาพระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ส่วนภูมิภาคนิยม
อาราธนาธรรมด้วย เมื่อพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมจบ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ทอดผ้า
บังสุกุล พระสงฆ์พิจารณา ผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา ประธานหรือเจ้าภาพกรวดน้าอุทิศกุศล
ให้ผู้ตาย กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธีสวดพระอภิธรรมประจาคืน

พิธีสวดพระพุทธมนต์

พิธีสวดพระพุทธมนต์ เป็นวิธีการบาเพ็ญกุศลปรารภผู้ตาย เช่น บุพการี คนเคารพ
นับถือ คนมีพระคุณ ญาติสนิทมิตรสหาย ผู้บังคับบัญชา หรือผู้ใต้บังคับบัญชา แม้กระทั่ง
ศพคนไร้ญาติ เพื่ออุทิศกุศลให้คนเหล่านั้นได้รับความสุขในสัมปรายภพได้แก่ พิธีเกี่ยวกับ
การบาเพ็ญกุศลศพ เช่น การสวดพระอภิธรรม การทาบุญ ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน
การฌาปนกิจศพ การเก็บอัฐิ และการทาบุญครบรอบวันตาย มีการเตรียมงานและขั้นตอน
ประกอบพิธีเหมือนงานทาบุญทั่วไป ต่างกันเพียงรายละเอียดบางประการ
พิธีสวดพระพุทธมนต์ เริ่มต้นด้วยเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียน
เครื่องทองน้อยเคารพศพหรืออัฐิ ใช้ธูปเทียนธรรมดาแทนก็ได้ อาราธนาศีล รับศีล อาราธนา
พระปริตร ฟังพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหาร ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ลาดภูษา
โยงหรือสายโยง ทอดผ้าบังสุกุล เป็นผ้าไตรหรือผ้าอื่นสาหรับพระสงฆ์ใช้สอยก็ได้ พระสงฆ์
พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี
การจัดพิธีกรรมดังกล่าว อาจแตกต่างกันบางโอกาสบางสถานที่ สามารถปรับได้
ตามความเหมาะสม เช่น ถวายพัดรองที่ระลึก แสดงพระธรรมเทศนาก่อนหรือหลังการสวด
พระพุทธมนต์ มีสวดรับเทศน์ สวดมาติกา และสวดพระอภิธรรม เป็นหน้าที่ของพิธีกรของ
งานจะต้องพิจารณาดาเนินการให้เหมาะสมกับคนตายและความศรัทธาของเจ้าภาพ
การจัดงานศพ
การจัดงานศพมีอุปกรณ์ประกอบพิธีเหมือนงานทาบุญตามปกติทั่วไป เจ้าภาพ
จัดงานที่วัด ทางวัดจะจัดเตรียมให้ความต้องการของเจ้าภาพ ถ้าจัดพิธีที่บ้าน มีอุปกรณ์ต้อง
จัดเตรียม ได้แก่ ภูษาโยงหรือสายโยง สาหรับใช้ในงานศพเครื่องทองน้อย ตู้พระอภิธรรม
เครื่องบูชากะบะมุก สามารถใช้กระถางธูป เชิงเทียน และแจกันดอกไม้แทนก็ได้
การจัดงานศพมีหลายขั้นตอน ขั้นตอนแรก คือ พิธีรดน้าศพ การรดน้าศพมีหลังแต่ง
ศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการจัดเตรียมเตียงประดิษฐานศพ สาหรับให้ผู้มาร่วมพิธีได้รดน้าศพ
ถือเป็นการขอขมาโทษให้พ้นจากเวรกรรมที่มีต่อกัน ถ้าเป็นบุตรหลาน ก็แสดงถึงการสนอง
คุณและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ตายอีกด้วย เตียงตั้งศพนิยมวางทางด้านซ้ายของโต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัยหรือตาแหน่งอันเหมาะสม นามือขวาของศพออกมาอยู่ด้านนอก เพื่อรด
น้าศพได้สะดวก ห้ามมิให้ผู้ใดเดินผ่านด้านศีรษะของศพ เพราะถือเป็นกิริยาอาการไม่เคารพ
ต่อศพ จัดร่างศพให้นอนหงายเหยียดยาว จัดมือขวาให้เหยียดออกห่างจากตัวเล็กน้อย
โดยให้หงายแบออกมาคอยรับการรดน้า ซึ่งการจัดลักษณะเช่นนี้ เป็นปริศนาธรรมให้ผู้มา
รดน้าพิจารณาว่า มนุษย์เรานั้น เมื่อตายไปแล้ว ไม่สามารถจะนาสิ่งใดติดตัวไปได้ นอกจาก
คุณความดีเท่านั้น ใช้ผ้าห่มแพรคลุมตลอดร่างศพ เปิดหน้าและมือขวาเท่านั้น จัดเตรียมขัน
น้ารองรับน้าจากมือศพ น้าอบน้าหอมผสมน้าอีกขันหนึ่ง พร้อมภาชนะเล็ก ๆ ให้บุตรหลาน
ตักน้ามอบให้ผู้มาร่วมพิธีได้รดน้าศพ จุดเครื่องบูชา เช่น ธูปหอม ด้านศีรษะศพ เป็นการ
สักการบูชาพระรัตนตรัยก่อนเริ่มทาพิธีรดน้าศพ เมื่อถึงเวลาตามกาหนด บุตรหลานวงศา-
คณาญาติจะรดน้าศพก่อน จากนั้นเชิญแขกผู้มาร่วมพิธีรดน้าตามลาดับ ถ้าได้รับพระราชทาน
น้าหลวงอาบศพ ให้เชิญผู้อาวุโสหรือผู้เคารพนับถือของบุตรหลาน เป็นประธานพิธีอาบน้า
หลวงพระราชทานเป็นท่านสุดท้ายซึ่งจะไม่มีการรดน้าศพอีกต่อไป นาศพบรรจุในหีบศพ
นาขึ้นตั้ง ณ สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมตั้งเครื่องสักการะศพ เป็นอันเสร็จพิธี
สถานที่ตั้งศพบาเพ็ญกุศล
สถานที่ตั้งศพ ควรคานึงถึงการจัดตั้งและส่วนประกอบของพิธีศพ คือ
๑. สถานที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัย
๒. สถานที่ตั้งอาสน์สงฆ์ สาหรับพระสงฆ์นั่งสวดพระอภิธรรมและพิธีอื่น ๆ
๓. สถานที่ตั้งเครื่องประกอบศพ เช่น เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (ถ้ามี) รูปถ่ายผู้ตาย
๔. สถานที่ตั้งพวงหรีดของผู้นามาแสดงความอาลัยต่อผู้ตาย
๕. สถานที่ตั้งเครื่องไทยธรรมถวายพระสงฆ์และอุปกรณ์เครื่องใช้ในพิธีศพ
การจัดสถานที่สวดพระอภิธรรมศพ
การจัดสถานที่สวดพระอภิธรรมศพ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานที่ นิยมตั้ง
โต๊ะหมู่ด้านศีรษะของศพ หันพระพักตร์พระพุทธรูปไปทางทิศตะวันออก ทิศเหนือ หรือทิศใต้
ไม่นิยมหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก เว้นแต่ข้อจากัดของสถานที่ตั้งอาสนะสาหรับ
พระสงฆ์นั่งสวดพระอภิธรรม ตั้งตู้คัมภีร์พระอภิธรรมด้านหน้าพระสงฆ์ ให้สูงกว่าอาสนะ
เล็กน้อย
อุปกรณ์เครื่องใช้ต้องจัดเตรียมในพิธีศพ
๑. ผ้าภูษาโยงหรือด้ายสายโยง
๒. เครื่องทองน้อย
๓. ชุดกรวดน้า
๔. กระถางธูป พร้อมตะเกียงเล็ก
๕. โต๊ะรองกราบหรือหมอนรองกราบ
ผ้าภูษาโยง ใช้ต่อเชื่อมกับด้ายสายโยงจากมือของศพ ทอดลงมาจากปากหีบศพ
วางอยู่หัวอาสน์สงฆ์ ถัดจากโต๊ะหมู่บูชา สาหรับลาดด้านหน้าพระสงฆ์ในเวลาทอดผ้าบังสุกุล
เช่น สบง จีวร ผ้าไตร หรือผ้าอื่น ๆ ให้พระสงฆ์ใช้สอยได้
เครื่องทองน้อย นิยมใช้ ๒ ชุด ตั้งหน้าหีบศพชุดหนึ่ง สาหรับให้ผู้วายชนม์บูชา
พระธรรม โดยหันธูปเทียนเข้าหาหีบศพ พุ่มดอกไม้อยู่ด้านนอกหีบศพ อีกชุดหนึ่งสาหรับ
ประธานพิธีหรือเจ้าภาพจุดเคารพศพ หันธูปเทียนเข้าหาคนจุด หันพุ่มดอกไม้เข้าหาหีบศพ
มีข้อควรสังเกต คือ การตั้งเครื่องทองน้อย จะให้ใครจุดสักการะสิ่งใด ให้หันธูปเทียนเข้า
หาคนจุดและเทียนต้องอยู่ขวามือคนจุดเสมอไป
กระถางธูป พร้อมธูปและตะเกียงขนาดเล็ก วางเบื้องหน้าเครื่องตั้งประดับศพ
ให้คนมาในงานจุดเคารพศพตามประเพณีนิยม
พิธีบังสุกุลปากหีบ
เมื่อจัดพิธีการตั้งแต่ต้น กระทั้งนาศพบรรจุลงหีบ และนาหีบศพขึ้นตั้งบนโต๊ะเครื่องตั้ง
พร้อมประดับตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ถ้าเจ้าภาพมีความประสงค์ทอดผ้าบังสุกุลปากหีบ พึงนิมนต์
พระสงฆ์ ๕ รูป หรือ ๑๐ รูป นั่งบนอาสนสงฆ์ ประธานหรือเจ้าภาพจุดเครื่องบูชาพระรัตนตรัย
จุดเครื่องทองน้อยหรือธูปเทียนหน้าหีบศพ อาราธนาศีล รับศีล ลาดผ้าภูษาโยงหรือสายโยง
ประธานหรือเจ้าภาพทอดผ้าบังสุกุล โดยวางขวางทับผ้าภูษาโยงหรือสายโยง พระสงฆ์

พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี