วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

พิธีสวดพระพุทธมนต์

พิธีสวดพระพุทธมนต์ เป็นวิธีการบาเพ็ญกุศลปรารภผู้ตาย เช่น บุพการี คนเคารพ
นับถือ คนมีพระคุณ ญาติสนิทมิตรสหาย ผู้บังคับบัญชา หรือผู้ใต้บังคับบัญชา แม้กระทั่ง
ศพคนไร้ญาติ เพื่ออุทิศกุศลให้คนเหล่านั้นได้รับความสุขในสัมปรายภพได้แก่ พิธีเกี่ยวกับ
การบาเพ็ญกุศลศพ เช่น การสวดพระอภิธรรม การทาบุญ ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน
การฌาปนกิจศพ การเก็บอัฐิ และการทาบุญครบรอบวันตาย มีการเตรียมงานและขั้นตอน
ประกอบพิธีเหมือนงานทาบุญทั่วไป ต่างกันเพียงรายละเอียดบางประการ
พิธีสวดพระพุทธมนต์ เริ่มต้นด้วยเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียน
เครื่องทองน้อยเคารพศพหรืออัฐิ ใช้ธูปเทียนธรรมดาแทนก็ได้ อาราธนาศีล รับศีล อาราธนา
พระปริตร ฟังพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหาร ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ลาดภูษา
โยงหรือสายโยง ทอดผ้าบังสุกุล เป็นผ้าไตรหรือผ้าอื่นสาหรับพระสงฆ์ใช้สอยก็ได้ พระสงฆ์
พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี
การจัดพิธีกรรมดังกล่าว อาจแตกต่างกันบางโอกาสบางสถานที่ สามารถปรับได้
ตามความเหมาะสม เช่น ถวายพัดรองที่ระลึก แสดงพระธรรมเทศนาก่อนหรือหลังการสวด
พระพุทธมนต์ มีสวดรับเทศน์ สวดมาติกา และสวดพระอภิธรรม เป็นหน้าที่ของพิธีกรของ
งานจะต้องพิจารณาดาเนินการให้เหมาะสมกับคนตายและความศรัทธาของเจ้าภาพ
การจัดงานศพ
การจัดงานศพมีอุปกรณ์ประกอบพิธีเหมือนงานทาบุญตามปกติทั่วไป เจ้าภาพ
จัดงานที่วัด ทางวัดจะจัดเตรียมให้ความต้องการของเจ้าภาพ ถ้าจัดพิธีที่บ้าน มีอุปกรณ์ต้อง
จัดเตรียม ได้แก่ ภูษาโยงหรือสายโยง สาหรับใช้ในงานศพเครื่องทองน้อย ตู้พระอภิธรรม
เครื่องบูชากะบะมุก สามารถใช้กระถางธูป เชิงเทียน และแจกันดอกไม้แทนก็ได้
การจัดงานศพมีหลายขั้นตอน ขั้นตอนแรก คือ พิธีรดน้าศพ การรดน้าศพมีหลังแต่ง
ศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการจัดเตรียมเตียงประดิษฐานศพ สาหรับให้ผู้มาร่วมพิธีได้รดน้าศพ
ถือเป็นการขอขมาโทษให้พ้นจากเวรกรรมที่มีต่อกัน ถ้าเป็นบุตรหลาน ก็แสดงถึงการสนอง
คุณและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ตายอีกด้วย เตียงตั้งศพนิยมวางทางด้านซ้ายของโต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัยหรือตาแหน่งอันเหมาะสม นามือขวาของศพออกมาอยู่ด้านนอก เพื่อรด
น้าศพได้สะดวก ห้ามมิให้ผู้ใดเดินผ่านด้านศีรษะของศพ เพราะถือเป็นกิริยาอาการไม่เคารพ
ต่อศพ จัดร่างศพให้นอนหงายเหยียดยาว จัดมือขวาให้เหยียดออกห่างจากตัวเล็กน้อย
โดยให้หงายแบออกมาคอยรับการรดน้า ซึ่งการจัดลักษณะเช่นนี้ เป็นปริศนาธรรมให้ผู้มา
รดน้าพิจารณาว่า มนุษย์เรานั้น เมื่อตายไปแล้ว ไม่สามารถจะนาสิ่งใดติดตัวไปได้ นอกจาก
คุณความดีเท่านั้น ใช้ผ้าห่มแพรคลุมตลอดร่างศพ เปิดหน้าและมือขวาเท่านั้น จัดเตรียมขัน
น้ารองรับน้าจากมือศพ น้าอบน้าหอมผสมน้าอีกขันหนึ่ง พร้อมภาชนะเล็ก ๆ ให้บุตรหลาน
ตักน้ามอบให้ผู้มาร่วมพิธีได้รดน้าศพ จุดเครื่องบูชา เช่น ธูปหอม ด้านศีรษะศพ เป็นการ
สักการบูชาพระรัตนตรัยก่อนเริ่มทาพิธีรดน้าศพ เมื่อถึงเวลาตามกาหนด บุตรหลานวงศา-
คณาญาติจะรดน้าศพก่อน จากนั้นเชิญแขกผู้มาร่วมพิธีรดน้าตามลาดับ ถ้าได้รับพระราชทาน
น้าหลวงอาบศพ ให้เชิญผู้อาวุโสหรือผู้เคารพนับถือของบุตรหลาน เป็นประธานพิธีอาบน้า
หลวงพระราชทานเป็นท่านสุดท้ายซึ่งจะไม่มีการรดน้าศพอีกต่อไป นาศพบรรจุในหีบศพ
นาขึ้นตั้ง ณ สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมตั้งเครื่องสักการะศพ เป็นอันเสร็จพิธี
สถานที่ตั้งศพบาเพ็ญกุศล
สถานที่ตั้งศพ ควรคานึงถึงการจัดตั้งและส่วนประกอบของพิธีศพ คือ
๑. สถานที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัย
๒. สถานที่ตั้งอาสน์สงฆ์ สาหรับพระสงฆ์นั่งสวดพระอภิธรรมและพิธีอื่น ๆ
๓. สถานที่ตั้งเครื่องประกอบศพ เช่น เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (ถ้ามี) รูปถ่ายผู้ตาย
๔. สถานที่ตั้งพวงหรีดของผู้นามาแสดงความอาลัยต่อผู้ตาย
๕. สถานที่ตั้งเครื่องไทยธรรมถวายพระสงฆ์และอุปกรณ์เครื่องใช้ในพิธีศพ
การจัดสถานที่สวดพระอภิธรรมศพ
การจัดสถานที่สวดพระอภิธรรมศพ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานที่ นิยมตั้ง
โต๊ะหมู่ด้านศีรษะของศพ หันพระพักตร์พระพุทธรูปไปทางทิศตะวันออก ทิศเหนือ หรือทิศใต้
ไม่นิยมหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก เว้นแต่ข้อจากัดของสถานที่ตั้งอาสนะสาหรับ
พระสงฆ์นั่งสวดพระอภิธรรม ตั้งตู้คัมภีร์พระอภิธรรมด้านหน้าพระสงฆ์ ให้สูงกว่าอาสนะ
เล็กน้อย
อุปกรณ์เครื่องใช้ต้องจัดเตรียมในพิธีศพ
๑. ผ้าภูษาโยงหรือด้ายสายโยง
๒. เครื่องทองน้อย
๓. ชุดกรวดน้า
๔. กระถางธูป พร้อมตะเกียงเล็ก
๕. โต๊ะรองกราบหรือหมอนรองกราบ
ผ้าภูษาโยง ใช้ต่อเชื่อมกับด้ายสายโยงจากมือของศพ ทอดลงมาจากปากหีบศพ
วางอยู่หัวอาสน์สงฆ์ ถัดจากโต๊ะหมู่บูชา สาหรับลาดด้านหน้าพระสงฆ์ในเวลาทอดผ้าบังสุกุล
เช่น สบง จีวร ผ้าไตร หรือผ้าอื่น ๆ ให้พระสงฆ์ใช้สอยได้
เครื่องทองน้อย นิยมใช้ ๒ ชุด ตั้งหน้าหีบศพชุดหนึ่ง สาหรับให้ผู้วายชนม์บูชา
พระธรรม โดยหันธูปเทียนเข้าหาหีบศพ พุ่มดอกไม้อยู่ด้านนอกหีบศพ อีกชุดหนึ่งสาหรับ
ประธานพิธีหรือเจ้าภาพจุดเคารพศพ หันธูปเทียนเข้าหาคนจุด หันพุ่มดอกไม้เข้าหาหีบศพ
มีข้อควรสังเกต คือ การตั้งเครื่องทองน้อย จะให้ใครจุดสักการะสิ่งใด ให้หันธูปเทียนเข้า
หาคนจุดและเทียนต้องอยู่ขวามือคนจุดเสมอไป
กระถางธูป พร้อมธูปและตะเกียงขนาดเล็ก วางเบื้องหน้าเครื่องตั้งประดับศพ
ให้คนมาในงานจุดเคารพศพตามประเพณีนิยม
พิธีบังสุกุลปากหีบ
เมื่อจัดพิธีการตั้งแต่ต้น กระทั้งนาศพบรรจุลงหีบ และนาหีบศพขึ้นตั้งบนโต๊ะเครื่องตั้ง
พร้อมประดับตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ถ้าเจ้าภาพมีความประสงค์ทอดผ้าบังสุกุลปากหีบ พึงนิมนต์
พระสงฆ์ ๕ รูป หรือ ๑๐ รูป นั่งบนอาสนสงฆ์ ประธานหรือเจ้าภาพจุดเครื่องบูชาพระรัตนตรัย
จุดเครื่องทองน้อยหรือธูปเทียนหน้าหีบศพ อาราธนาศีล รับศีล ลาดผ้าภูษาโยงหรือสายโยง
ประธานหรือเจ้าภาพทอดผ้าบังสุกุล โดยวางขวางทับผ้าภูษาโยงหรือสายโยง พระสงฆ์

พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี

พิธีทำบุญต่อนาม

พิธีทำบุญต่อนาม
       พิธีทาบุญต่อนาม เป็นการทาบุญของญาติผู้ป่วย ต้องการให้ผู้ป่วยได้ทาบุญกุศล
ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เพื่อเป็นพลวปัจจัยนาไปสู่สุคติในสัมปรายภพ เสมือนเป็นการเตรียม
เสบียงเดินทางให้ผู้ป่วยหนักนาไปใช้สอย เมื่อจะต้องละโลกนี้ หรือเพื่อให้บุญกุศลช่วยให้หาย
หรือบรรเทาจากอาการเจ็บป่วยนั้น มีชีวิตอยู่ต่อไป จึงเรียกทาบุญต่อนาม หมายถึง สืบต่อ
ขันธ์ ๕ ส่วนนาม ได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ให้กลับมาดาเนินต่อไป โดยปราศจาก
อันตรายถึงเสียชีวิต หรือเมื่อไม่สามารถหายจากอันตรายนั้นได้ ก็ให้สืบต่อไปสู่ภพใหม่เป็น
สุคติ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าทาบุญต่ออายุ เป็นพิธีไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนักในปัจจุบัน
พิธีทาบุญต่อนาม เป็นพิธีจัดขึ้นแบบกะทันหันเร่งด่วน ระเบียบพิธีไม่มีอะไรมากมายนัก
มักจัดในห้องผู้ป่วยตามมีตามได้ ตั้งพระพุทธรูปบูชาด้านหัวนอนของผู้ป่วยตามความเหมาะสม
นิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ต่อนาม จานวน ๕ รูป ไม่เกิน ๗ รูป เนื่องจากเป็น
กิจนิมนต์กะทันหันและรับพระสงฆ์มาสวดเดี๋ยวนั้นก็มี พระสงฆ์อาจนั่งหรือยืนสวดก็ได้
ขึ้นอยู่กับสถานที่ ถ้าผู้ป่วยอาการไม่หนักไม่ใกล้สิ้นชีวิต แต่ญาติต้องการจัดเป็นขวัญกาลังใจ
แก่ผู้ป่วยก็ทาได้เช่นกัน การทาบุญต่อนาม มีลาดับพิธีโดยย่อ ดังนี้
เมื่อมีความพรั่งพร้อมแล้ว ผู้ป่วยหรือผู้แทนก็ได้ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
อาราธนาศีล รับศีล อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ตามบทนิยม... พุทธัง
สะระณัง คัจฉามิ และสวดโพชฌงคสูตรทั้ง ๓ คือ มหากัสสปโพชฌงค์ มหาโมคคัลลาน-
โพชฌงค์ มหาจุนทโพชฌงค์ หรือจะสวดคิริมานนทสูตรแทนโพชฌงคสูตรทั้ง ๓ ก็ได้พิธีทาบุญต่อนามนี้ จัดติดต่อกัน ๓ วัน ๓ คืนก็มี เพื่อเพิ่มบุญกุศลแก่ผู้ป่วย
ฝ่ายพระสงฆ์ก็สวดพระสูตรไม่ซ้ากันทั้ง ๓ วัน โดยวันแรกสวดโพชฌงคสูตร วันที่ ๒ คิริมา
นนทสูตร วันสุดท้ายมหาสติปัฏฐานสูตร จบแล้วพระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลให้ผู้ป่วยด้วย
เรียกว่า พิจารณาผ้าบังสุกุลเป็น
พิธีวางศิลาฤกษ์
พิธีวางศิลาฤกษ์ เป็นพิธีจัดขึ้นตามธรรมเนียมประเพณีไทย เกิดขึ้นจากความเชื่อ
ทางโหราศาสตร์ ซึ่งต้องเลือกหาฤกษ์ยามอันเป็นมงคล เพื่อความมั่งมีศรีสุข มีโชคลาภ
เจริญรุ่งเรืองในการดารงชีวิต และสุขกายสบายใจแก่ผู้อยู่อาศัยหรือกิจการ สิ่งก่อสร้างควร
วางศิลาฤกษ์ ได้แก่ พระบรมราชานุสาวรีย์ อนุสรณ์สถาน อุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ
สถานที่ราชการรัฐวิสาหกิจ สานักงานใหญ่ของบริษัท ถ้าเป็นอาคารบ้านเรือน ไม่นิยม
ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ แต่จะทาพิธี ยกเสาเอก เสาโทของบ้านแทน
พิธีวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างสถานที่ดังกล่าวข้างต้น นิยมจัดให้มีพิธีสงฆ์และ
พิธีพราหมณ์รวมอยู่ในพิธีเดียวกัน จะนามากล่าวพอเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
อุปกรณ์ประกอบพิธีต้องจัดเตรียม
การประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ มีอุปกรณ์เครื่องประกอบพิธีมาก นับตั้งแต่โต๊ะหมู่
เครื่องบูชา สาหรับประดิษฐานพระพุทธรูป โต๊ะวางแผ่นศิลาฤกษ์ อิฐทอง นาค เงิน ไม้มงคล
โถกระแจะเจิม พานข้าวตอกดอกไม้ ขุดหลุมศิลาฤกษ์ ขนาดกว้าง x ยาว ๕๐ x ๕๐ เซนติเมตร
ลึก ๗๐ เซนติเมตร หรือให้ใหญ่กว่าแผ่นศิลาฤกษ์ประมาณ ๑๐ นิ้ว วัดโดยรอบ ให้ขอบปาก
หลุมสูงจากพื้น ๗๐ เซนติเมตร เตรียมไม้มงคล คือ ไม้กันเกรา ไม้ชัยพฤกษ์ ไม้ทรงบาดาล
(บุนนาค) ไม้ทองหลาง ไม้พยุง ไม้ราชพฤกษ์ ไม้ไผ่สีสุก ไม้ขนุนและไม้สัก จะอยู่ตรงกลาง
หลุมเนื่องจากถือว่าเป็นพญาไม้ ค้อนสาหรับตอกไม้มงคลทั้ง ๙ ปูนซีเมนต์ผสมทรายเรียบร้อย
เกรียงสาหรับปาดปูนให้เรียบร้อย นพรัตน์หรือพลอย ๙ สี ดอกไม้ฉีกกลีบ นิยมดอกดาวเรือง
หรือดอกกุหลาบ
ก่อนถึงเวลาประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ จะประกอบพิธีบวงสรวงสังเวยก่อน เครื่อง
สังเวย ได้แก่ บายศรีปากชามซ้ายขวา เครื่องประกอบฤกษ์ ขนมสดทั้ง ๕ คือ ขนมต้มแดง
ขนมต้มขาว ขนมมีชื่อเป็นมงคลอีก ๓ ชนิด เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ขนมชั้น ขนมถ้วยฟู
น้าชาจีน กล้วยน้าว้า มะพร้าวอ่อน มัจฉามังสาหารทั้ง ๕ คือ หัวหมู เป็ด ไก่ ปลา ปูหรือกุ้ง
ทุกอย่างต้องสะอาด ต้มสุก ผลไม้ต่าง ๆ ให้มากอย่าง มีทั้งผลใหญ่ ผลกลาง ผลเล็ก ข้าวตอก
ดอกไม้ ๑ พาน สาหรับโปรยหลุม พวงมาลัย ๑ พวง สาหรับวางบนแผ่นศิลาฤกษ์ โต๊ะปูด้วย
ผ้าขาว สาหรับตั้งเครื่องสังเวย ธูป เทียน แจกันดอกไม้จัดให้สวยงาม
เมื่อได้ฤกษ์ทาพิธีบวงสรวง โหรหรือพราหมณ์ จะเชิญประธานพิธีจุดธูปเทียนที่โต๊ะ
สังเวย จากนั้นโหรหรือพราหมณ์ จะทาพิธีบวงสรวงตามเวลาเหมาะสม หลังจากเสร็จพิธี
บวงสรวงแล้ว จะเป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์ การประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ในพิธีวาง
ศิลาฤกษ์ พึงกระทาเช่นเดียวกับพิธีมงคลอื่น ๆ โดยนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นนั่งบนอาสนะ ประธาน
จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พิธีกรอาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล อาราธนาพระปริตร
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ถ้ามีการรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการก่อสร้าง ก็กล่าว
รายงานในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่เชิญเครื่องประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ไปยังจุดวางศิลาฤกษ์ เมื่อถึง
เวลาฤกษ์และกล่าวรายงานเสร็จแล้ว พิธีกรเรียนเชิญประธานพิธีไปยังบริเวณวางศิลาฤกษ์
และประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา วงดุริยางค์บรรเลงเพลง
มหาฤกษ์ ประธานหยิบไม้มงคล ปักลงตรงจุดทั้ง ๙ ตอกลงในทราย หยิบแผ่นอิฐเงิน นาก
ทอง อย่างละ ๓ แผ่น วางบนหลักไม้มงคล ใช้ปูนซีเมนต์ผสมทรายและน้าแล้วก่ออิฐเงิน นาก
ทอง เป็นชั้น ๆ ให้ครบทั้ง ๙ แผ่น วางแผ่นศิลาฤกษ์บนแผ่นอิฐทอง นาก เงิน วางพวงมาลัย
ลงบนแผ่นศิลาฤกษ์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ลงในหลุมศิลาฤกษ์ หลังจากนั้นเชิญผู้มีเกียรติท่าน
อื่น ๆ โปรยดอกไม้ด้วย นิมนต์ประธานสงฆ์พรมน้าพระพุทธมนต์ ประธานกลับเข้ามาใน
มณฑลพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา กรวดน้า รับพร

เป็นอันเสร็จพิธี

พิธีทำบุญอายุ

พิธีทำบุญอายุ
พิธีทาบุญอายุ เริ่มมีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
โดยถือเป็นธรรมเนียมว่า เมื่อมีอายุเจริญวัยพอสมควร นิยมทาบุญอายุของตน อาจทาทุกปี
ในวันคล้ายวันเกิด เรียกว่า ทาบุญคล้ายวันเกิด มักเริ่มทาเมื่อมีอายุ ๒๕ ปีเป็นต้นไป หรืออาจเป็นบางครั้งบางปีก็ได้ แต่ถ้าทาบุญในวันครบรอบใหญ่ คือ ๕ รอบเป็นต้นไป ได้แก่ อายุ
ครบ ๖๐ ปี ๗๒ ปี ๘๐ ปี ๘๔ ปี เรียกว่า ทาบุญอายุใหญ่ นิยมเรียกในปัจจุบันว่า ทาบุญ
อายุวัฒนมงคล
พิธีทาบุญวันเกิดประจาปี จัดเหมือนการทาบุญโดยทั่วไป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
บทเจ็ดตานาน ถ้าเจ้าภาพมีศรัทธาให้สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ก็สามารถทาได้ หรือจะ
สวดบทย่อของธัมมจักกัปปวัตนสูตร เฉพาะตั้งแต่ ภุมมานัง เทวานัง เป็นต้น ก็ได้เช่นเดียวกัน
ธรรมเนียมโบราณ ถ้าอายุไม่ถึง ๕ รอบ ไม่นิยมสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แต่ไม่ใช่ข้อห้าม
ตายตัวแต่อย่างใด ส่วนการนิมนต์พระสงฆ์ ถ้าเป็นงานใหญ่จะนิมนต์พระสงฆ์เท่าอายุ
บวกอีก ๑ หรือนิมนต์ ๙ รูปตามปกติก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความศรัทธาความพร้อมของเจ้าภาพพิธีทาบุญอายุครบรอบใหญ่
การทาบุญอายุครบรอบใหญ่ มี ๒ อย่าง คือ งานทาบุญอายุตามปกติทั่วไป และ
งานทาบุญอายุประกอบพิธีโหรหรือพิธีนพเคราะห์
งานทาบุญอายุตามปกติ
การทาบุญอายุตามปกติทั่วไป แต่เดิมจัดงาน ๒ วัน คือ เจริญพระพุทธมนต์เย็น
ก่อนวันเกิดวันหนึ่ง รุ่งขึ้นทาบุญเลี้ยงพระวันเกิดอีกวันหนึ่ง ปัจจุบันนิยมจัดงานภายในวันเดียว
เรียกทั่วไปว่า สวดมนต์ฉันเช้า หรือ สวดมนต์ฉันเพล มีระเบียบพิธีเหมือนการทาบุญทั่วไป
งานทาบุญอายุจัดพิธีนพเคราะห์
พิธีสวดนพเคราะห์ เป็นการทาบุญอายุ นาเอาคติทางพระพุทธศาสนา คือ การทาบุญ
อายุมาผนวกกับคติพราหมณ์ หรือคติโหรเข้าด้วยกัน ประกอบพิธีรวมเป็นพิธีเดียวกัน โดยปฏิบัติ
ตามคติพุทธเป็นแกนหลัก มีคติพราหมณ์หรือคติโหรเป็นส่วนประกอบ ปัจจุบันพิธีสวด
นพเคราะห์จัดเป็นส่วนบุคคลมีน้อย เพราะต้องใช้งบประมาณและเตรียมการมาก ทั้งคน
เข้าใจในวิธีปฏิบัติก็มีอยู่น้อย จึงนิยมทาพิธีรวมเป็นหมู่คณะตามสถานที่ต่าง ๆ ส่วนมากจะ
จัดในวัดดาวนพเคราะห์ทั้ง ๙
คติโหรเชื่อว่า โลกจักรวาลอันมนุษย์และสัตว์เวียนว่ายตายเกิดอยู่นี้ นอกจากเป็นไป
ตามคติกรรมทางพระพุทธศาสนาแล้ว ยังหมุนเวียนไปตามอิทธิพลของดวงดาว ๙ ดวง
รวมกันเป็นกลุ่มจักรวาลนี้ เรียกว่า นพเคราะห์ แปลว่า กลุ่มดาวทั้ง ๙ เรียงลาดับตามวิถี
โคจรรอบโลกของเรา จัดลาดับจากเห็นก่อนและหลังตามหลักคัมภีร์ทักษาของโหร คือ อาทิตย์
จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ พฤหัสบดี ราหู ศุกร์ เกตุ มีชื่อเรียกและลาดับปรากฏในวงโคจร
ดังกล่าวข้างต้น ฉะนั้น บทสวดมนต์กาหนดเป็นบทประจาพระเคราะห์นั้น ๆ จึงนามาสวด
ตามลาดับการปรากฏของพระเคราะห์ทั้ง ๙ และคัมภีร์ทักษาได้กาหนดกาลังนพเคราะห์แต่
ละดวงไว้ ตามกาลังรอบที่หมุนเวียนรอบจักรวาล คือ พระอาทิตย์ มีกาลัง ๖ พระจันทร์ ๑๕
พระอังคาร ๘ พระพุทธ ๑๗ พระเสาร์ ๑๐ พระพฤหัสบดี ๑๙ พระราหู ๑๒ พระศุกร์ ๒๑
พระเกตุ ๙
วัตถุประสงค์ของพิธีนพเคราะห์
พิธีนพเคราะห์เป็นพิธีโบราณ กระทาสืบทอดกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน จัดขึ้น
ตามความเชื่อทางหลักโหราศาสตร์ว่า ชีวิตของคนเรามีเทวดานพเคราะห์ผลัดเปลี่ยนเข้ามา
เสวยอายุตั้งแต่แรกเกิด เมื่อเทวดานพเคราะห์คู่เป็นมิตรกัน เข้ามาเสวยอายุ ก็จะทาให้บุคคลนั้น
มีความสุขความเจริญมีโชคลาภ แต่เมื่อเทวดาเข้ามาเสวยอายุเป็นคู่ศัตรูกัน ก็จะทาให้บุคคล
นั้น ประสบอุปสรรคหรือบางครั้งอาจถึงเสียชีวิต ตามคาพูดว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก
โบราณาจารย์และโหราศาสตร์ได้หาวิธีแก้ไข เพื่อสร้างขวัญกาลังใจแก่บุคคลเจ้าของชะตา
โดยรวบรวมหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาให้บุคคลเจ้าของชะตานาไปประพฤติปฏิบัติใน
การดาเนินชีวิต จึงจัดทาพิธีบูชานพเคราะห์ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องบูชาเทวดาที่ผลัดเปลี่ยนกันมา
เสวยอายุ ให้เมตตาปรานีและอดโทษ เพื่อทุเลาความเลวร้ายลงและดลบันดาลประทาน
ความสุขความเจริญให้
การจัดพิธีสวดนพเคราะห์
เนื่องจากพิธีสวดนพเคราะห์นี้เป็นพิธีใหญ่ มีระเบียบพิธีและลาดับขั้นตอนมาก
ยากที่บุคคลทั่วไปจะนาไปปฏิบัติ การทาพิธีต้องอาศัยบุคคลมีความรู้ความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะเท่านั้น จึงสามารถปฏิบัติให้ถูกต้องสมบูรณ์ สาหรับบุคคลทั่วไป เพียงศึกษา
อย่างกว้าง ๆ เพื่อเป็นความรู้ ก็เพียงพอแล้ว ฉะนั้น ในที่นี้จะกล่าวพอเป็นแนวปฏิบัติ ไม่ลง
ลึกรายละเอียดมากนัก
อุปกรณ์เครื่องประกอบพิธี
พิธีสวดนพเคราะห์เป็นพิธีพิเศษ พระสงฆ์และโหราจารย์ประกอบพิธีร่วมกัน
การจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ในพิธี เจ้าภาพต้องจัดให้ครบ ตามคาแนะนาของโหราจารย์
ที่เชิญมาประกอบพิธีทุกประการ ในปัจจุบันเพื่ออานวยความสะดวกแก่เจ้าภาพ บางสานัก
รับจัดอุปกรณ์พิธีนพเคราะห์ให้ครบถ้วน ส่วนค่าใช้จ่ายตกลงกันทั้ง ๒ ฝ่าย อุปกรณ์เครื่องใช้
สาคัญพอสรุปได้ ดังนี้
๑. เทียนชัย เป็นเทียนเล่มใหญ่ ใช้ฟั่นด้วยขี้ผึ้งอย่างดี มีความสูงเท่ากับตัวเจ้าภาพ
ไส้เทียนใช้ด้ายดิบเท่ากับอายุเจ้าภาพ บวก ๑ ตั้งไว้ในตู้เทียนชัย ต้องดูแลรักษาไม่ให้ดับ
จนกว่าเสร็จพิธี
๒. เทียนมงคล ใช้ขี้ผึ้งหนัก ๙ บาท ความยาวเท่ากับความยาวรอบศีรษะเจ้าภาพ
ไส้เทียนเท่ากับอายุของเจ้าภาพบวก ๑
๓. เทียนประจาบัตร ๑๑ เล่ม หนักเล่มละ ๒ บาท ไส้เทียน ๑๖ เส้น ความยาว ๑ คืบ
๔. เทียนขี้ผึ้งหนัก ๑ สลึง ไส้เทียน ๙ เส้น จานวน ๑๑๗ เล่ม ใช้จุดบูชาเทวดา
พระเคราะห์
๕. เทียนหนัก ๑ บาท ประมาณ ๕ เล่ม
๖. ขันน้ามนต์ชนิดขันเชิงใหญ่ ๑ ใบ ถ้าไม่มีใช้กระถางแทนได้ ใส่น้าสาหรับ
ทาน้ามนต์ ใส่ใบไม้มงคล ๙ ชนิด และมีดอกบัวลอยไว้ ๕ ดอก
๗. พระพุทธรูปปางประจาวันเกิด สาหรับตั้งเป็นประธานบนโต๊ะหมู่บูชา
๘. ของใช้อื่น ๆ เช่น สายสิญจน์ ธูปหอมประมาณ ๑๕๐ ดอก บัตรพลี เครื่อง
กระยาบวช สาหรับบูชาเทวดา จะจัดหาวงปี่พาทย์มาบรรแลงประกอบพิธี เพื่อรับส่งเทวดา
นพเคราะห์ทั้ง ๙ ตามกาลังวันพระเคราะห์เสวยอายุนั้น ๆ ด้วยก็ได้ลาดับขั้นตอนพิธี
เมื่อได้เวลาประกอบพิธี เจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเทียนชัย ในขณะ
จุดเทียนชัยพระสงฆ์จะสวดคาถาจุดเทียนชัย เทียนชัยนี้ ต้องระวังรักษาไม่ให้ดับจนกว่าจะ
เสร็จพิธี ต่อจากนั้น จุดเทียนบูชานพเคราะห์ตามโหราจารย์กาหนด โหราจารย์อาราธนาศีล
ทุกคนรับศีลโหราจารย์อัญเชิญเทวดาตามลัทธิ จบแล้วอาราธนาพระปริตร
พระสงฆ์ดาเนินพิธีสวดนพเคราะห์ เริ่มต้นด้วยพระสงฆ์รูปที่ ๓ ชุมนุมเทวดา
(ขัดสัคเค) ประธานสงฆ์นาสวดบทต้นตานาน ต่อด้วยมงคลสูตร จบแล้วโหราจารย์ประกาศ
คาอานวยพร และประกาศคาบูชาพระอาทิตย์ พระสงฆ์สวดโมรปริตรประจาวันอาทิตย์
โหราจารย์ประกาศคาบูชาพระจันทร์ พระอังคาร พระพุทธ พระเสาร์ พระพฤหัสบดี
พระราหู พระศุกร์ และพระเกตุ สลับกับการสวดของพระสงฆ์ทุกพระเคราะห์ตามลาดับ
ดังกล่าวแล้ว ซึ่งแต่ละพระเคราะห์มีบทสวดกาหนดเป็นการเฉพาะ จากนั้นสวดบทท้าย
ตานาน จนจบภะวะตุ สัพพะมังคะลัง ต่อด้วยบท นักขัตตะยักขะภูตานัง จึงเสร็จพิธีการสวด
นพเคราะห์ สุดท้ายเป็นพิธีดับเทียนชัย โดยพระสงฆ์หรือโหราจารย์เป็นผู้ดับ ในขณะดับ
เทียนชัยพระสงฆ์สวดคาถาดับเทียนชัย ปะพรมน้ามนต์ให้เจ้าภาพและผู้เข้าร่วมพิธีทุกคน
ถวายไทยธรรมพระสงฆ์ กรวดน้ารับพร เป็นอันเสร็จพิธี
พิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์
พิธีนวัคคหายุสมธัมม์ (อ่านว่า นะ-วัค-คะ-หา-ยุ-สะ-มะ-ทา) แปลว่า ธรรมเสมอด้วย
อายุพระเคราะห์ทั้ง ๙ มีระเบียบพิธีและขั้นตอนการปฏิบัติเช่นเดียวกับพิธีนพเคราะห์
เป็นพิธีจัดขึ้นสาหรับพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ เริ่มจัดเป็นครั้งแรก ในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
(สา ปุสสเทวมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงคัดเลือก
หัวข้อธรรมจากพระสูตรต่าง ๆ กาหนดเป็นบทสวดบูชาพระเคราะห์ทั้ง ๙ ดังปรากฏใน
หนังสือสวดมนต์ฉบับหลวง จึงถือเป็นธรรมเนียมว่าในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจัดพิธีนวัคคหายุสมธัมม์ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตน-
ศาสดาราม จะต้องนิมนต์พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จากวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีรามเท่านั้น

จานวน ๕ รูป มาประกอบพิธีในวันที่ ๕ ธันวาคม และรับพระราชทานฉันเพล ในวันที่ ๖ธันวาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในส่วนพิธีพราหมณ์ พระครูพราหมณ์สานักพระราชวัง
จัดเตรียมเครื่องใช้ในพิธี และประกอบพิธีร่วมกับพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ การอาราธนา
พระปริตรในพิธีนี้ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิธีกองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา
กระทรวงวัฒนธรรม
พิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ นอกจากจะจัดในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังเคยจัดในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จ
พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ วันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ
สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ อีกด้วย