วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัยบัญญํติ นักธรรมชั้นโท 2560


 



ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง
วันพุธ ที่๘พฤศจิกายนพุทธศักราช๒๕๖๐ 

๑.               สิกขาบทนอกพระปาฏิโมกข์เรียกว่าอะไร?ทรงบัญญัติไว้ เพื่อประโยชน์อะไร?
ตอบ  เรียกว่า อภิสมาจาร ฯ
ทรงบัญญัติไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของภิกษุ และเพื
ของพระศาสนา เช่นเดียวกับตระกูลใหญ่ จ าต้องมีขนบธรรมเนียม
และระเบียบไว้รักษาเกียรติ และความเป็นผู้ดีของตระกูล ฯ 
๒.              ภิกษุเช่นไรควรได้นิสัยมุตตกะ?
ตอบ  ภิกษุผู้ควรได้นิสัยมุตตกะ คือ
๑. เป็นผู้มีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ สติ

๒.   เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล อาจาระ ความเห็นชอบ เคยได้ยิน ได้ฟังมามาก มีปัญญา

๓.  รู้จักอาบัติ มิใช่อาบัติ อาบัติเบา อาบัติหนัก จ าพระป แม่นย า ทั้งมีพรรษาพ้น๕ฯ

๓.             ภิกษุเช่นไร ชื่อว่า นวกะ มัชฌิมะ? เถระ ตอบ ภิกษุมีพรรษาไม่ถึง๕ชื่อว่า นวกะ

ภิกษุมีพรรษาตั้งแต่๕ขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง๑๐ต้องประกอบด้วยคุณธรรม ตามพระวินัยชื่อว่า มัชฌิมะ ภิกษุมีพรรษาตั้งแต่๑๐ขึ้นไป ต้องประกอบด้วยคุณธรรมตามพระวินัย ชื่อว่า เถระ ฯ 
  
๔.             ภิกษุผู้จะไปสู่อาวาสอื่น พึงปฏิบัติตนอย่างไรบ้าง?ให้ตอบมา๓ข้อ ตอบ พึงปฏิบัติตนอย่างนี้
๑.   ท าความเคารพในเจ้าของถิ่น
๒. แสดงความเกรงใจเจ้าของถิ่น

๓.  แสดงอาการสุภาพต่อเจ้าของถิ่น ๔. แสดงอาการสนิทสนมกับเจ้าของถิ่น

๕. ถ้าจะอยู่ที่นั่น ควรประพฤติให้ถูกธรรมเนียมของเจ้าของถ

๖.   ถือเสนาสนะแล้วอย่าดูดาย เอาใจใส่ปัดกวาดให้สะอาดหมดจด ตั้งเครื่องเสนาสนะให้เป็นระเบียบ ฯ

๕.              เมื่ออยู่ในกุฎีเดียวกันกับพระเถระผู้มีพรรษามากกว่า ต
ท่านให้ปฏิบัติอย่างไร?

ตอบ   ให้ปฏิบัติอย่างนี้ คือ จะท าสิ่งใด ๆ ควรขออนุญาตท่านก่อ จะสอนธรรม จะอธิบายความ จะสาธยาย จะแสดงธรรม จะเปิดจะปิดไฟ จะเปิดจะปิดประตูหน้าต่าง ห้ามมิให้ท าตามอ าเภอใจ ฯ

๖.               ธุระเป็นเหตุให้ไปค้างแรมที่อื่นด้วยสัตตาหกรณียะไว้ในบาลีที่กล่าว มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
ตอบ  มี๔ อย่าง ฯ คือ

๑.   สหธรรมิกหรือมารดาบิดาเจ็บไข้ รู้เข้าแล้วไปเพื่อพยาบาล ๒. สหธรรมิกกระสันจะสึก รู้เข้าแล้วไปเพื่อระงับ ๓. มีกิจสงฆ์เกิดขึ้น เช่น วิหารช ารุด ไปเพื่อหาเครื่องทัพ

มาซ่อมแซม ๔. ทายกต้องการจะท าบุญ ส่งคนมานิมนต์ ไปเพื่อบ ารุงศรัทธ
แม้กิจอื่นที่อนุโลมตามนี้ ท่านก็อนุญาต ฯ

๗.             ก าลังสวดพระปาฏิโมกข์อยู่ มีภิกษุอื่นเข้ามา จะพึงปฏิบั?

ตอบ    ปฏิบัติอย่างนี้ คือ ถ้าภิกษุผู้เข้ามาใหม่มีจ านวนมากกว่า ต ตั้งแต่ต้น ถ้ามีจ านวนเท่ากันหรือน้อยกว่า ส่วนที่สวดไปแล สวดแล้วให้เธอผู้มาใหม่ฟังส่วนที่ยังเหลือต่อไป ฯ 
๘.              อเนสนาได้แก่อะไร?มีอะไรบ้าง?

ตอบ    อเนสนา ได้แก่ กิริยาแสวงหาเลี้ยงชีพในทางไม่สมควร ฯ มี๒ อย่าง คือ
๑. การแสวงหาเป็นโลกวัชชะ มีโทษทางโลก
๒.  การแสวงหาเป็นปัณณัตติวัชชะมีโทษทางพระบัญญัติ ฯ 
๙.              ภัตตุทเทสกะ จีวรภาชกะ และอัปปมัตตกวิสัชชกะ หมายถึงภิกษ ผู้มีหน้าที่อะไร?
ตอบ  ภัตตุทเทสกะ หมายถึง ภิกษุผู้มีหน้าที่แจกภัตตาหาร ตลอดถึง
ของทายกแล้วจัดส่งพระไปให้

จีวรภาชกะ หมายถึง ภิกษุผู้มีหน้าที่แจกจีวร อัปปมัตตกวิสัชชกะ หมายถึง ภิกษุผู้มีหน้าที่แจกเภสัชและบ เล็กน้อย ฯ 
๑๐.     ภิกษุผู้ได้ชื่อว่า โคจรสัมปันโน ผู้ถึงพร้อมด้วยโคจร เพราะปฏิ อย่างไร? 

ตอบ    เพราะเว้นอโคจร๖ จะไปหาใครหรือจะไปที่ไหน เลือกบุคคล เลือกสถานอันสมควรไปเป็นกิจลักษณะในเวลาอันควร ไม่ไปพร่ าเพรื กลับในเวลา ประพฤติตนไม่ให้เป็นที่รังเกียจของเพื่อนสหธรรมิก





ให้เวลา๓ ชั่วโมง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น