บทที่ ๙
บำเพ็ญพุทธกิจในมคธและเสด็จสักกะ
• พระมหากัสสปะมีชื่อเดิมว่า
ปิปผลิมาณพ
เป็นบุตรกบิลพราหมณ์กัสสปโคตร
ในบ้านมหาติฏฐะ จังหวัดมคธรัฐ แต่งงานกับนางภัททกาปิลานี บุตรีพราหมณ์โกสิยโครต แห่งสาคลนคร
จังหวัดมคธรัฐ
• ปิปผลิมาณพได้เดินทางไปพบพระพุทธเจ้าที่ใต้ต้นไทร
มีชื่อว่าพหุปุตตกนิโครธ กึ่งทางระหว่างกรุงราชคฤห์กับเมืองนาลันทา
• พระพุทธเจ้าทรงบวชให้พระกัสสปะด้วยการประทานโอวาท ๓ ข้อ
๑. กัสสปะ ท่านพึงศึกษาว่า
เราจักเข้าไปตั้งความละอายและความยำเกรงไว้ในภิกษุทั้งที่เป็นผู้เฒ่า-ผู้ใหม่-ปานกลาง
๒. ธรรมอันใดที่ประกอบด้วยกุศล
เราจะตั้งใจฟังและพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมนั้น
๓. เราจักไม่ละสติออกจากกาย คือพิจารณากายเป็นอารมณ์
• เมื่อพระกัสสปะบวชแล้ว
ภิกษุสหธรรมิกนิยมเรียกท่านว่า “พระมหากัสสปะ”
• การอุปสมบทด้วยการรับโอวาท ๓
ข้อ เรียกว่า โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา
• พระมหากัสสปะได้ฟังพระพุทธโอวาท ๓ ข้อแล้วบำเพ็ญเพียรบรรลุธรรมในวันที่
๘ แห่งการอุปสมบท
• พระมหากัสสปะ ถือธุดงค์คุณ
๓ อย่างคือ
๑. ถือการนุ่งห่มผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
๒. ถือการเที่ยวบิณฑบาตรเป็นวัตร
๓. ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร
• ได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ทรงธุดงค์
• จาตุรงคสันนิบาต แปลว่าการประชุมพร้อมด้วยองค์ ๔ คือ
๑.
พระอรหันต์ขีณาสพ
อยู่จบพรหมจรรย์ ๑๒๕๐ องค์
มาประชุมกัน
๒. พระสาวกเหล่านั้น ล้วนเป็นเอหิภิกขุ ผู้ได้อภิญญา ๖
๓.
พระสาวกเหล่านั้น
ต่างมากันเองโดยมิได้นัดหมายกันมาก่อน
๔. เป็นวันเพ็ญ
พระจันทร์เต็มดวง เสวยมาฆฤกษ์
พระบรมศาสดาทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ในท่ามกลางสาวกเหล่านั้น
•
พระศาสดาทรงอนุญาตเสนาสนะ(
ที่นอนและที่นั่ง) ๕ ชนิด คือ
๑.วิหาร คือกุฏิมีหลังคา
๒. อัฑฒโยค
คือกระท่อม
๓.ปราสาท คือเรือนชั้น(กุฏิหลาย ๆ ชั้น)
๔. หัมมิยะ
ได้แก่
เรือนหรือกุฏิหลังคาตัด
๕.
คูหา ได้แก่ ถ้ำ
• ราชคหกเศรษฐี
เป็นผู้ถวายเสนาสนะ ๖๐ หลังเป็นคนแรก
•
ทรงแสดงวิธีทำปุพพเปตพลี
• พระเจ้าพิมพิสารทรงกระปุพพเปตพลีทำเป็นครั้งแรก
• ทักษิณาอุทิศคนตายทั่วไป เรียกว่า
ทักษิณานุปทาน
•
มตกทาน แปลว่า
การอุทิศให้ผู้ตาย
• ทักษิณาอุทิศเฉพาะบุรพบิดา เรียกว่าปุพพเปตพลี
• การอุปสมบทแบบญัตติจตุตถกรรมอุปสัมปทา พระราธะบวชเป็นองค์แรก มีพระสารีบุตรเป็นอุปัชฌาย์ ที่เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์
• พระราธได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่า
เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางปฏิภาณ”
• การบวชหรืออุปสมบทกรรมมี ๓ วิธี
คือ
๑. เอหิภิกขุอุปสัมปทา ๒.
ติสรณคมนูปสัมปทา
๓.
ญัตติจตุตถกรรม
•
พระพุทธองค์
ทรงแสดงทิศ ๖ แก่สิงคาละมาณพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น