วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ฉักกะ คือ หมวด ๖

ทิศ   ๖
          ๑. ปุรัตถิมทิส   คือทิศเบื้องหน้า  มารดาบิดา 
          ๒.   ทักขิณทิส      คือทิศเบื้องขวา   อาจารย์
          ๓.  ปัจฉิมทิส   คือทิศเบื้องหลัง   บุตรภรรยา 
          ๔.  อุตตรทิส     คือทิศเบื้องซ้าย   มิตร
          ๕.  เหฏฐิมทิส คือทิศเบื้องต่ำ   บ่าว 
          ๖.   อุปริมทิส       คือทิศเบื้องบน   สมณพราหมณ์
๑.   ปุรัตถิมทิส     คือทิศเบื้องหน้า  มารดาบิดา  บุตรพึงบำรุงด้วยสถาน  ๕
          ๑.   ท่านได้เลี้ยงมาแล้ว  เลี้ยงท่านตอบ  ๒.   ทำกิจของท่าน ๓.   ดำรงวงศ์สกุล
          ๔.  ประพฤติตนให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก 
         ๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว  ทำบุญอุทิศให้ท่าน
 มารดาบิดาได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว  ย่อมอนุเคราะห์บุตรด้วยสถาน  ๕
          ๑.   ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว  ๒.   ให้ตั้งอยู่ในความดี  ๓.   ให้ศึกษาศิลปวิทยา
          ๔.   หาภรรยา/สามีที่สมควร  ๕.   มอบทรัพย์ให้ในสมัย
 ๒.   ทักขิณทิส      คือทิศเบื้องขวา   อาจารย์  ศิษย์พึงบำรุงด้วยสถาน   ๕
         ๑.   ด้วยลุกขึ้นยืนรับ  ๒.   ด้วยเข้าไปยืนคอยรับใช้  ๓.   ด้วยเชื่อฟัง
         ๔.   ด้วยอุปัฏฐาก   ๕.   ด้วยเรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ
อาจารย์ได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว  ย่อมอนุเคราะห์ศิษย์ด้วยสถาน   ๕
          ๑.   แนะนำดี   ๒.   ให้เรียนดี   ๓.   บอกศิลปให้สิ้นเชิง  ไม่ปิดบังอำพราง
          ๔.   ยกย่องให้ปรากฏในเพื่อนฝูง  ๕.   ทำความป้องกันในทิศทั้งหลาย   
๓.    ปัจฉิมทิส       คือทิศเบื้องหลัง   ภรรยา   สามีพึงบำรุงด้วยสถาน  ๕
         ๑.   ด้วยยกย่องนับถือว่าเป็นภรรยา  ๒.   ด้วยไม่ดูหมิ่น  ๓.   ด้วยไม่ประพฤติล่วงใจ
         ๔.   ด้วยมอบความเป็นใหญ่ให้   ๕.   ด้วยให้เครื่องแต่งตัว
ภรรยาได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว  ย่อมอนุเคราะห์สามีด้วยสถาน  ๕
          ๑.   จัดการงานดี   ๒.   สงเคราะห์คนข้างเคียงของผัวดี  ๓.   ไม่ประพฤติล่วงใจผัว
          ๔.   รักษาทรัพย์ที่ผัวหามาได้ไว้ ๕.   ขยันไม่เกียจคร้านในกิจการทั้งปวง
๔.   อุตตรทิส        คือทิศเบื้องซ้าย   มิตร  กุลบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน  ๕
         ๑.    ด้วยให้ปัน     ๒.   ด้วยเจรจาถ้อยคำไพเราะ    ๓.   ด้วยประพฤติประโยชน์
         ๔.   ด้วยความเป็นผู้มีตนเสมอ ๕.   ด้วยไม่แกล้งกล่าวให้คลาดจากความเป็นจริง
มิตรได้บำรุงฉะนี้แล้ว  ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน  ๕
         ๑.   รักษามิตรผู้ประมาทแล้ว   ๒.   รักษาทรัพย์ของมิตรผู้ประมาทแล้ว
         ๓.  เมื่อมีภัย เอาเป็นที่พึ่งพำนักได้  ๔.  ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ  ๕.  นับถือตลอดถึงวงศ์ของมิตร
๕.   เหฏฐิมทิส      คือทิศเบื้องต่ำ   บ่าว  นายพึงบำรุงด้วยสถาน   ๕
         ๑.   ด้วยจัดการงานให้ทำตามสมควรแก่กำลัง  ๒.   ด้วยให้อาหารและรางวัล
         ๓.   ด้วยรักษาพยาบาลในเวลาเจ็บไข้  ๔.   ด้วยแจกของมีรสประหลาดให้กิน
         ๕.   ด้วยปล่อยในสมัย
บ่าวได้บำรุงฉะนี้แล้ว  ย่อมอนุเคราะห์นายด้วยสถาน   ๕
        ๑.   ลุกขึ้นทำการงานก่อนนาย   ๒.   เลิกการงานทีหลังนาย  ๓. ถือเอาแต่ของที่นายให้
        ๔.   ทำการงานให้ดีขึ้น   ๕.   นำคุณของนายไปสรรเสริญในที่นั้น ๆ
๖.   อุปริมทิส   คือทิศเบื้องบน สมณพราหมณ์  กุลบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน  ๕
          ๑.   ด้วยกายกรรม  คือทำอะไร ๆ  ประกอบด้วยเมตตา   ๒.   ด้วยวจีกรรม   คือพูดอะไร ๆ  ประกอบด้วยเมตตา    ๓.   ด้วยมโนกรรม  คือคิดอะไร ๆ  ประกอบด้วยเมตตา      ๔.   ด้วยความเป็นผู้ไม่ปิดประตู  คือมิได้ห้ามเข้าบ้านเรือน  ๕.   ด้วยให้อามิสทาน
สมณพราหมณ์ได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว  ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน  ๖
          ๑.   ห้ามไม่ให้กระทำความชั่ว    ๒.   ให้ตั้งอยู่ในความดี
          ๓.  อนุเคราะห์ด้วยน้ำใจอันงาม  ๔. ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
         ๕. ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้ชัดเจน     ๖.   บอกทางสวรรค์ให้
อบายมุข  คือเหตุเครื่องฉิบหาย  ๖
         ๑.   ดื่มน้ำเมา  ๒    เที่ยวกลางคืน  ๓.   เที่ยวดูการเล่น   ๔.   เล่นการพนัน 
         ๕.   คบคนชั่วเป็นมิตร  ๖.   เกียจคร้านการทำงาน
๑.   ดื่มน้ำเมา  มีโทษ  ๖
         ๑.   เสียทรัพย์    ๒.   ก่อการทะเลาะวิวาท     ๓.   เกิดโรค   ๔.   ต้องติเตียน
         ๕.   ไม้รู้จักอาย    ๖.ทอนกำลังปัญญา
๒    เที่ยวกลางคืน  มีโทษ  ๖
         ๑.   ชื่อว่าไม่รักษาตัว  ๒.   ชื่อว่าไม่รักษาลูกเมีย  ๓.   ชื่อว่าไม่รักษาทรัพย์สมบัติ
         ๔.   เป็นที่ระแวงของคนทั้งหลาย   ๕.   มักถูกใส่ความ   ๖.  ได้ความลำบากมาก
๓.   เที่ยวดูการเล่น  มีโทษตามวัตถุที่ไปดู    ๖
         ๑.   รำที่ไหนไปที่นั่น     ๒.   ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น  ๓.   ดีดสีตีเป่าที่ไหนไปที่นั่น
         ๔.   เสภาที่ไหนไปที่นั่น  ๕.   เพลงที่ไหนไปที่นั่น  ๖.   เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น
๔.   เล่นการพนัน  มีโทษ   ๖
         ๑.   เมื่อชนะย่อมก่อเวร  ๒.   เมื่อแพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป 
         ๓.   ทรัพย์ย่อมฉิบหาย      ๔.ไม่มีใครเชื่อถือถ้อยคำ
        ๕. เป็นที่หมิ่นประมาทของเพื่อน   ๖.ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย
๕.   คบคนชั่วเป็นมิตร  มีโทษตามบุคคลที่คบ   ๖
         ๑.   นำให้เป็นนักเลงการพนัน      ๒. นำให้เป็นนักเลงเจ้าชู้ 
        ๓.   นำให้เป็นนักเลงเหล้า        ๔.นำให้เป็นคนลวงเขาด้วยของปลอม
        ๕. นำให้เป็นคนลวงเขาซึ่งหน้า     ๖.นำให้เป็นคนหัวไม้
๖.   เกียจคร้านการทำงาน  มีโทษ   ๖
         ๑.  มักให้อ้างว่า หนาวนัก  แล้วไม่ทำการงาน    ๒.  มักให้อ้างว่า  ร้อนนัก    แล้วไม่ทำการงาน
         ๓. มักให้อ้างว่าเวลาเย็นแล้ว แล้วไม่ทำการงาน  ๔. มักให้อ้างว่า ยังเช้าอยู่  แล้วไม่ทำการงาน
         ๕.  มักให้อ้างว่า  หิวนัก   แล้วไม่ทำการงาน   ๖. มักให้อ้างว่า กระหายนัก  แล้วไม่ทำการงาน

                     ผู้หวังความเจริญด้วยโภคทรัพย์  พึงเว้นเหตุเครื่องฉิบหาย  ๖  ประการนี้เสีย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น