วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัย นักธรรมชั้นเอก 2548

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัย  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

วันจันทร์ ที่  ๒๑  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘


   ๑.  ในสังฆกรรมทั้ง ๔ นั้น การสวดอนุสาวนามีอยู่ในกรรมไหนบ้าง ?  ในแต่ละกรรม

        นั้นให้สวดกี่ครั้ง ?

   ๑.  มีอยู่ใน ญัตติทุติยกรรม และ ญัตติจตุตถกรรม ฯ  ในญัตติทุติยกรรมให้สวด

        ๑ ครั้ง  ในญัตติจตุตถกรรมให้สวด ๓ ครั้ง ฯ

   ๒.  สีมาเป็นหลักสำคัญแห่งสังฆกรรมอย่างไร ? พัทธสีมามีกำหนดขนาดพื้นที่ไว้อย่างไร ?

   ๒.  สีมาเป็นเขตประชุมของสงฆ์ผู้ทำกรรม พระศาสดาทรงพระอนุญาตให้สงฆ์

        พร้อมเพรียงกันทำภายในสีมา เพื่อจะรักษาสามัคคีในสงฆ์ ฯ

        อย่างนี้ คือ กำหนดไม่ให้สมมติสีมาเล็กเกินไปจนจุภิกษุ ๒๑ รูป นั่งไม่ได้และ

        ไม่ให้สมมติสีมาใหญ่เกินไปกว่า ๓ โยชน์ ฯ

   ๓.  ภิกษุได้รับอานิสงส์กฐิน เข้าบ้านในเวลาวิกาลโดยไม่บอกลา ต้องอาบัติอะไร

        หรือไม่ ?  เพราะเหตุไร ?

   ๓.  ในกรณีที่รับนิมนต์แล้ว ไปในที่นิมนต์ ภายหลังภัตรเข้าบ้านโดยไม่บอกลา

        ไม่ต้องอาบัติ ซึ่งได้รับยกเว้นด้วยอานิสงส์ที่ว่าเที่ยวไปไม่ต้องบอกลา ตาม

        สิกขาบทที่ ๖ แห่งอเจลกวรรค ในปาจิตติยกัณฑ์ ฯ  แต่ในกรณีที่ไม่ได้รับนิมนต์

        เข้าบ้านในเวลาวิกาล ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ตามสิกขาบทที่ ๓ แห่งรัตนวรรค

        ในปาจิตติยกัณฑ์ ยกเว้นในกรณีรีบด่วน เช่นภิกษุถูกงูกัดรีบเข้าไปเพื่อหายา

        หรือตามหมอ ฯ

   ๔.  วัตถุสมบัติในการอุปสมบทคืออะไร ?  ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติอะไรบ้าง ?

   ๔.  คือผู้จะเข้ารับการอุปสมบท ฯ  ประกอบด้วยคุณสมบัติ ๕ ประการ  คือ

             ๑. เป็นชาย

             ๒. มีอายุครบ ๒๐ ปี

             ๓. ไม่เป็นมนุษย์วิบัติ  เช่นถูกตอน  หรือเป็นกะเทย

             ๔. ไม่เคยทำอนันตริยกรรม 

             ๕. ไม่เคยต้องปาราชิก  หรือไม่เคยเข้ารีตเดียรถีย์ทั้งที่เป็นภิกษุ ฯ

   ๕.  อภัพพบุคคลที่ถูกห้ามอุปสมบทเพราะกระทำผิดต่อพระศาสนา มีกี่ประเภท ?

        ใครบ้าง ?

   ๕.  มี ๗ ประเภท คือ

             ๑. คนฆ่าพระอรหันต์

             ๒. คนทำร้ายภิกษุณี ได้แก่ผู้ข่มขืนภิกษุณีในอัธยาจาร

             ๓. คนลักเพศ คือคนถือเพศเป็นภิกษุเอง

             ๔. ภิกษุไปเข้ารีตเดียรถีย์

             ๕. ภิกษุต้องปาราชิก

             ๖. ภิกษุทำสังฆเภท

             ๗. คนทำร้ายพระศาสดาจนถึงห้อพระโลหิต ฯ

   ๖.  อธิกรณ์อันสงฆ์วินิจฉัยแล้ว ฝ่ายไม่ชอบใจจักอุทธรณ์ได้หรือไม่ ?  จงตอบให้มีหลัก

   ๖.  อุทธรณ์ได้ก็มี อุทธรณ์ไม่ได้ก็มี โดยอธิบายว่า ตามสิกขาบทที่ ๓ แห่งสัปปาณวรรค

        ปาจิตติยกัณฑ์ โจทก์ก็ดี จำเลยก็ดี สงฆ์ก็ดี รู้อยู่ว่าอธิกรณ์นั้น สงฆ์หมู่นั้น

        วินิจฉัยเป็นธรรมแล้ว ฟื้นขึ้นเพื่อวินิจฉัยใหม่ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ อย่างนี้อุทธรณ์

        ไม่ได้  แต่ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรม ฟื้นขึ้นไม่เป็นอาบัติ อย่างนี้ อุทธรณ์ได้ ฯ

   ๗.  ปริวาส คืออะไร ?  มานัต คืออะไร ?

   ๗.  ปริวาส คือ การประพฤติวัตรพิเศษอย่างหนึ่งเท่าจำนวนวันที่ปกปิดอาบัติไว้

        ก่อนจะประพฤติมานัตต่อไป ฯ 

        มานัต คือ การประพฤติวัตรพิเศษอย่างหนึ่ง เป็นเวลา ๖ ราตรี เพื่อออก

        จากอาบัติสังฆาทิเสส ฯ

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์

   ๘.  มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่อะไรบ้าง ?

   ๘.  มีอำนาจหน้าที่ดังนี้

              ๑. ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม

              ๒. ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร

             ๓. ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่

                 การสาธารณูปการ  และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์

             ๔. รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา

             ๕. ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่น ฯ

   ๙.  ตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕  กำหนด

        ให้พระภิกษุสละสมณเพศในกรณีใดบ้าง ?

   ๙.  ในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้

             ๑. ต้องคำวินิจฉัยตามมาตรา ๒๕ ให้รับนิคหกรรมไม่ถึงให้สึก แต่ไม่ยอมรับ

                 นิคหกรรมนั้น

             ๒. ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ

             ๓. ไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง

             ๔. ไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ฯ

๑๐.  ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ได้แก่ที่เช่นไร ? นาย ก ได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสให้เข้าปลูกบ้าน

        อยู่อาศัยในที่เช่นนั้นนานเกินสิบปี ภายหลังจะยึดที่ดินผืนนั้นเป็นสมบัติส่วนตัว จึงยก

        อายุความขึ้นต่อสู้กับวัด  โดยอ้างสิทธิครอบครองได้หรือไม่ ?  เพราะเหตุไร ?

๑๐.  ที่วัด คือที่ที่ตั้งวัดตลอดจนเขตของวัดนั้น ที่ธรณีสงฆ์ คือที่ซึ่งเป็นสมบัติของวัด ฯ

        ไม่ได้  เพราะมาตรา ๓๔ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒)

        พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติว่า ห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดหรือสำนักงาน

        พระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้วแต่กรณี ในเรื่องทรัพย์สินอันเป็นที่วัด ที่ธรณีสงฆ์

        หรือที่ศาสนสมบัติกลาง ฯ

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก 2549

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

วันอาทิตย์ ที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙

   ๑.  อย่างไรเรียกว่า สงฆ์ผู้พร้อมเพรียง และสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงนั้นสามารถ

        ทำสังฆกรรมใดได้บ้าง ?

   ๑. ภิกษุผู้อยู่ในสมานสังวาสสีมา แปลว่าแดนมีสังวาสเสมอกัน เป็นแดนที่

        กำหนดความพร้อมเพรียง มีสิทธิในอันจะเข้าอุโบสถ ปวารณา และ

        สังฆกรรมร่วมกัน ทั้งหมดเข้าประชุมกันเป็นสงฆ์ หรือนำฉันทะของภิกษุ

        ผู้ไม่มาเข้าประชุม เรียกว่า สงฆ์ผู้พร้อมเพรียง ฯ

        สามารถทำสังฆกรรมทั้ง ๔ ประเภท มีอปโลกนกรรมเป็นต้นได้ ฯ

  ๒.  ภิกษุที่เรียกในบาลีว่า ผู้เข้ากรรม คือใคร ?  และต้องประกอบด้วย

        คุณสมบัติอย่างไร ?

  ๒.  คือภิกษุผู้เข้าในจำนวนสงฆ์ผู้ทำกรรมนั้นๆ ฯ

        ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือเป็นภิกษุปกติ ไม่ถูกสงฆ์ยกเสีย

        จากหมู่ด้วยอุกเขปนียกรรม มีสังวาสเสมอด้วยสงฆ์ และเป็น

        สมานสังวาสของกันและกัน ฯ

  ๓.  สังฆกรรมย่อมวิบัติเพราะเหตุไรบ้าง ?  ภิกษุ ๓ รูป ประชุมกันในสีมา

        สวดปาฏิโมกข์ ชื่อว่าวิบัติเพราะเหตุไหน ? 

  ๓. สังฆกรรมย่อมวิบัติ (คือใช้ไม่ได้ แม้ทำแล้วก็ไม่เป็นอันทำ) เพราะ

        เหตุ ๔ อย่าง คือ เพราะวัตถุบ้าง เพราะสีมาบ้าง เพราะปริสะบ้าง

        เพราะกรรมวาจาบ้าง ฯ

        ชื่อว่าวิบัติเพราะปริสะ ฯ

   ๔.  กรานกฐิน  คืออะไร ?  อธิบายพอเข้าใจ

   ๔.  คือเมื่อมีผ้าเกิดขึ้นแก่สงฆ์ในเดือนท้ายฤดูฝน พอจะทำเป็นไตรจีวร

        ผืนใดผืนหนึ่งได้ สงฆ์พร้อมใจกันยกให้แก่ภิกษุรูปหนึ่ง ภิกษุผู้ได้รับ

        ผ้านั้นเอาไปทำเป็นจีวรแล้วเสร็จในวันนั้นแล้วมาบอกแก่ภิกษุ ผู้ยกผ้านั้น

        ให้เพื่ออนุโมทนา ภิกษุเหล่านั้นอนุโมทนา ทั้งหมดนี้คือกรานกฐิน ฯ

   ๕.  ภิกษุ ๒ ฝ่ายก่อวิวาทเพราะปรารถนาดีก็มี เพราะปรารถนาเลวก็มี

        อยากทราบว่าอย่างไรชื่อว่าก่อวิวาทเพราะปรารถนาดี อย่างไรชื่อว่าก่อวิวาท

        เพราะปรารถนาเลว ? 

   ๕.  ผู้ใดตั้งวิวาทเพราะเห็นแก่พระธรรมวินัย ผู้นั้นชื่อว่าทำด้วยปรารถนาดี

        ผู้ใดตั้งวิวาทด้วยทิฐิมานะ แม้รู้ว่าผิดก็ขืนทำ ผู้นั้นชื่อว่าทำด้วยปรารถนาเลว ฯ

   ๖.  ทิฏฐิสามัญญตา ความเป็นผู้มีความเห็นร่วมกันกับส่วนใหญ่ ไม่ถือแต่

        มติของตน เป็นธรรมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ ภิกษุปฏิบัติอย่างไร

        จึงจะรักษาธรรมนั้นได้ ?

   ๖.  ปฏิบัติอย่างนี้คือ เคารพในพระศาสดา ในพระธรรมวินัย และเคารพ

        ในสงฆ์ผู้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาพระธรรมวินัย สำคัญมติของสงฆ์นั้นว่า

        เป็นเนตติอันตนควรเชื่อถือและทำตาม ผู้ปฏิบัติเช่นนี้ ย่อมรักษา

        ทิฏฐิสามัญญตานั้นไว้ได้ ฯ

  ๗.  การทำกรรมมีตัชชนียกรรมเป็นต้นแก่ภิกษุหรือคฤหัสถ์ ควรปฏิบัติ

        อย่างไรจึงจะไม่เป็นทางนำมาซึ่งความแตกสามัคคี ?

  ๗. พึงตั้งอยู่ในมัตตัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักประมาณ กาลัญญุตา ความเป็น

        ผู้รู้จักกาล ปุคคลัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักบุคคล ดำริโดยรอบคอบแล้ว

        จึงทำ ไม่พึงใช้อำนาจที่ประทานไว้ เป็นทางนำมาซึ่งความแตกสามัคคี

        เช่น พวกภิกษุชาวโกสัมพีได้ทำมาแล้ว ฯ

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕

แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๓๕

  ๘.  ตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กำหนดองค์ประกอบ

        มหาเถรสมาคมไว้อย่างไร ?

  ๘. กำหนดไว้ดังนี้

               สมเด็จพระสังฆราช ทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการโดย

               ตำแหน่ง

               สมเด็จพระราชาคณะทุกรูป เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง

                และพระราชาคณะซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้ง มีจำนวน

               ไม่เกิน ๑๒ รูป เป็นกรรมการ ฯ

  ๙.  พระภิกษุจะต้องรับนิคหกรรมเมื่อทำผิดเช่นไร ? และผู้ได้รับนิคหกรรม

        ให้สึก ต้องสึกภายในเวลาเท่าไร ?

  ๙. เมื่อกระทำการล่วงละเมิดพระธรรมวินัย และนิคหกรรมที่จะลงโทษแก่                ภิกษุนั้น จะต้องเป็นนิคหกรรมตามพระธรรมวินัย ฯ

        ต้องสึกภายใน ๒๔ ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ได้ทราบคำวินิจฉัยนั้น ฯ

๑๐.  พระภิกษุจะไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่งเลยได้หรือไม่ ?

        อ้างมาตราประกอบด้วย

๑๐.  ไม่ได้ ฯ

        ตามมาตรา ๒๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ๒๕๐๕ แก้ไข

        เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๓๕ ฯ


*********


วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก 2550

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐

๑.     สังฆกรรมจำแนกออกเป็นประเภท  เรียกโดยชื่อมีอะไรบ้าง ?   กรรมอะไรบ้างที่สงฆ์จตุวรรคทำได้ ?

๑.     มี  อปโลกนกรรม ๑   ญัตติกรรม ๑   ญัตติทุติยกรรม ๑   ญัตติจตุตถกรรม ๑ ฯ

เว้นปวารณา  ให้ผ้ากฐิน  อุปสมบท  และอัพภาน  นอกนั้นทำได้    ทุกอย่าง ฯ

๒.     สีมาสังกระ  คืออะไร ?   สงฆ์จะทำสังฆกรรมในสีมาเช่นนั้นได้หรือไม่อย่างไร ?

๒.     คือ  สีมาที่สมมติคาบเกี่ยวกันระหว่างสีมาที่สมมติไว้เดิมและสีมาที่สมมติขึ้นใหม่ ฯ

สงฆ์ทำสังฆกรรมในสีมาที่สมมติไว้เดิมได้  แต่ทำในสีมาที่สมมติขึ้นใหม่ไม่ได้ ฯ

๓.     การอปโลกน์ และ การสวดเพื่อให้ผ้ากฐิน  จัดเป็นสังฆกรรมประเภท ใด ?   การกรานกฐินด้วยผ้าสังฆาฏิ  พึงกล่าวว่าอย่างไร ?

๓.     การอปโลกน์เพื่อให้ผ้ากฐิน จัดเป็นอปโลกนกรรม การสวดเพื่อให้     ผ้ากฐิน จัดเป็นญัตติทุติยกรรม ฯ

ว่า  อิมาย  สงฺฆาฏิยา  กฐินํ  อตฺถรามิ ฯ

๔.     การบรรพชาและการอุปสมบท  สำเร็จด้วยวิธีอะไร ?

        นอกจากอภัพบุคคลและผู้มีบรรพชาโทษแล้ว  บุคคลประเภทใดบ้างที่ถูกห้ามไม่ให้อุปสมบท ?

๔.     การบรรพชาสำเร็จด้วยวิธีไตรสรณคมน์  และการอุปสมบทสำเร็จด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรมวาจา ฯ

        คือ    ๑. คนไม่มีอุปัชฌาย์

               ๒. คนไม่มีบาตร คนไม่มีจีวร  หรือไม่มีทั้งบาตรทั้งจีวร

               ๓. คนยืมบาตร จีวร  หรือยืมทั้งบาตรทั้งจีวรเขามา ฯ

๕.     อนุวาทาธิกรณ์เช่นไร  อันภิกษุจะพึงยกขึ้นว่าได้ ?

๕.     ต้องเป็นเรื่องมีมูล  คือ  เรื่องที่ได้เห็นเอง ๑   เรื่องที่ได้ยินเอง  หรือมีผู้บอกและเชื่อว่าเป็นจริง ๑   เรื่องที่เว้นจาก ๒ สถานนั้น  แต่รังเกียจโดยอาการ ๑  เช่นได้ยินว่า  พัสดุชื่อนี้ของผู้มีชื่อนี้หายไป  ได้พบพัสดุชนิดนั้นในที่อยู่ของภิกษุชื่อนั้น ฯ

๖.     การคว่ำบาตรในทางพระวินัยหมายถึงอะไร ?  และจะหงายบาตรได้ เมื่อไร ?

๖.     หมายถึง  การไม่ให้คบค้าสมาคมด้วยลักษณะ ๓ ประการ  คือ

        ๑.  ไม่รับบิณฑบาตของเขา

        ๒.  ไม่รับนิมนต์ของเขา

        ๓.  ไม่รับไทยธรรมของเขา ฯ

        เมื่อผู้ถูกคว่ำบาตรนั้นละโทษนั้นแล้ว   กลับประพฤติดี ฯ 

๗.     สังฆราชี  คืออะไร ?

๗.     คือ  การที่ภิกษุแตกกันเป็น ๒ ฝ่าย  เพราะมีความเห็นปรารภ       พระธรรมวินัยผิดแผกกันจนเกิดเป็นวิวาทาธิกรณ์ขึ้น หรือมีความปฏิบัติไม่สม่ำเสมอกัน  ยิ่งหย่อนกว่ากัน  เกิดรังเกียจกันขึ้น  แต่ยังไม่แยกทำอุโบสถปวารณาหรือสังฆกรรมอื่น ฯ

๘.     ภิกษุเมื่อลาสิกขา  ต้องทำเป็นกิจลักษณะด้วยการกล่าวคำปฏิญญาตนเป็นผู้อื่นจากภิกษุต่อหน้าใครได้บ้าง ? และทำอย่างไรจึงเป็น         กิจลักษณะ ?  

๘.     ต่อหน้าภิกษุด้วยกันหรือคนอื่นจากภิกษุก็ได้ ฯ

ปฏิญญาอย่างนี้ คือ

       พร้อมด้วยจิต  คือทำด้วยตั้งใจเพื่อลาสิกขาจริง ๆ

       พร้อมด้วยกาล  คือด้วยคำเด็ดขาด  ไม่ใช่รำพึง ไม่ใช่ปริกัป

       พร้อมด้วยประโยค  คือปฏิญญาด้วยตนเอง

       พร้อมด้วยบุคคล  คือผู้ปฏิญญาและผู้รับปฏิญญาเป็นคนปกติ

       พร้อมด้วยความเข้าใจ  คือผู้รับปฏิญญาเข้าใจคำนั้นในทันที ฯ


 พระราชบัญญัติคณะสงฆ์

๙.     พระราชบัญญัติคณะสงฆ์  คืออะไร ?

๙.     คือ กฏหมายฉบับหนึ่งว่าด้วยคณะสงฆ์ มีศักดิ์รองลงมาจากรัฐธรรมนูญ ฯ

๑๐.   ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแตกแยก  มีโทษอย่างไร ?

๑๐.   ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี  หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ ฯ

***********