วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก 2551

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

วันจันทร์ ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ 

๑.       กรรมวาจาวิบัติเพราะสวดผิดฐานกรณ์นั้นอย่างไร ?

๑.       คือ  การสวดธนิตเป็นสิถิล ๑  สวดสิถิลเป็นธนิต ๑  สวดวิมุตเป็นนิคคหิต ๑  สวดนิคคหิตเป็นวิมุต ๑ ฯ

๒.       ติจีวราวิปปวาสสีมา และ อุทกุกเขปสีมา  ได้แก่สีมาเช่นไร ?

๒.       ติจีวราวิปปวาสสีมา ได้แก่ สีมาที่สงฆ์สมมติให้เป็นแดน

ไม่อยู่ปราศจากไตรจีวรได้ในเขตสีมานั้น

          อุทกุกเขปสีมา ได้แก่ สีมาที่กำหนดเขตแห่งสามัคคีด้วยชั่ววักน้ำสาดแห่งคนมีอายุและกำลังปานกลาง ฯ

๓.       ภิกษุผู้ได้รับสมมติจากสงฆ์ให้เป็นเจ้าหน้าที่ทำการสงฆ์นั้นๆ เรียกว่าอะไร ?   พึงสวดสมมติด้วยกรรมวาจาประเภทใด ?

๓.       เรียกว่า เจ้าอธิการ ฯ

          พึงสวดสมมติด้วยญัตติทุติยกรรม ฯ 

๔.       ผ้าที่ไม่ทรงอนุญาตให้ใช้เป็นผ้ากฐิน  ได้แก่ผ้าเช่นไรบ้าง ?

๔.       เช่นนี้ คือ

๑.  ผ้าที่ไม่ได้เป็นสิทธิ  เช่น ผ้าที่ขอยืมเขามา

๒.  ผ้าที่ได้มาโดยอาการอันมิชอบ  คือ ทำนิมิตได้มา พูดเลียบเคียง

     ได้มา และผ้าเป็นนิสสัคคีย์

๓.  ผ้าที่ได้มาโดยบริสุทธิ์ แต่เก็บค้างคืนไว้ ฯ

๕.       ในอุปสมบทกรรม  อภัพพบุคคล หมายถึงใคร ?  จำแนกโดยประเภทมีเท่าไร ?   อะไรบ้าง ?

๕.       หมายถึงบุคคลที่ทรงห้ามไม่ให้อุปสมบท ฯ

มี  ๓ ประเภท  คือ

๑.  เพศบกพร่อง

          ๒.  ประพฤติผิดพระธรรมวินัย

          ๓.  ประพฤติผิดต่อกำเนิดของเขาเอง ฯ

๖.       วิวาทาธิกรณ์ คืออะไร ?   ระงับได้ด้วยอธิกรณสมถะข้อใดบ้าง ?

๖.       คือ การเถียงกันปรารภพระธรรมวินัย ฯ 

ด้วยสัมมุขาวินัยและเยภุยยสิกา ฯ

๗.       พระอรรถกถาจารย์แสดงลักษณะปกปิดอาบัติสังฆาทิเสสไว้เป็น ๕ คู่อย่างไรบ้าง ?

๗.       แสดงไว้ ๕ คู่ ดังนี้

๑.     เป็นอาบัติ และรู้ว่าเป็นอาบัติ

๒.    เป็นปกตัตตะ และรู้ว่าเป็นปกตัตตะ

๓.    ไม่มีอันตราย และรู้ว่าไม่มีอันตราย

๔.     อาจอยู่ และรู้ว่าอาจอยู่

๕.     ใคร่จะปิด และปิดไว้ ฯ

๘.       รัตติเฉท หมายถึงอะไร ?   มีอะไรบ้าง ?

๘.       หมายถึง การขาดราตรีแห่ง (การประพฤติ) มานัต ฯ

          มี  ๑. อยู่ร่วม  ๒. อยู่ปราศ  ๓. ไม่บอก 

๔. ประพฤติในคณะอันพร่อง ฯ

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์

๙.       กรรมการมหาเถรสมาคมดำรงอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี ?

๙.       กรรมการที่เป็นสมเด็จพระราชาคณะ  ไม่มีกำหนดเวลา

          กรรมการที่สมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้ง ดำรงอยู่ในตำแหน่งคราวละ ๒ ปี ฯ

๑๐.     ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ให้จัดแบ่งเขตปกครอง     คณะสงฆ์ส่วนภูมิภาคไว้อย่างไร ?

๑๐.     แบ่งดังนี้  คือ ๑. ภาค  ๒. จังหวัด  ๓. อำเภอ  ๔. ตำบล

          ส่วนจำนวนและเขตปกครองดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กำหนด

ในกฎมหาเถรสมาคม ฯ

***********

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก 2552

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

พ.ศ. ๒๕๕๒

๑.     สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงประมวล เรื่องอันเนื่องด้วยวินัยที่ภิกษุผู้เป็นเถระพึงเรียนรู้เป็นหลักไว้ในวินัยมุขเล่ม ๓ คืออะไรบ้าง ? เมื่อเรียนรู้แล้วจะอำนวยประโยชน์อะไรบ้าง?

ตอบ คือ ธรรมเนียม วิธี และกรณียะต่าง ๆ อันเนื่องด้วยวินัย ฯ ย่อมอาจจะอำนวยในหน้าที่ให้เป็นไปโดยเรียบร้อย และอาจเป็นที่พึ่งของผู้น้อยในกิจการ ฯ

๒.    สังฆกรรม เมื่อกล่าวโดยประเภท มีเท่าไร? อะไรบ้าง? จงยกตัวอย่างของสังฆกรรมนั้น ๆ มาอย่างละ ๑ ตัวอย่าง

ตอบ กล่าวโดยประเภท มี ๔ ฯ คือ

๑. อปโลกนกรรม ตัวอย่างเช่น การรับสามเณรผู้ถูกลงโทษเพราะกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าและได้รับการยกเลิกโทษเพราะกลับประพฤติดี

๒. ญัตติกรรม ตัวอย่างเช่น การเรียกอุปสัมปทาเปกขะผู้ได้รับการไล่เลียงอันตรายิกธรรมแล้วกลับเข้ามาในหมู่สงฆ์

๓. ญัตติทุติยกรรม ตัวอย่างเช่น สวดหงายบาตรแก่ผู้ถูกคว่ำบาตรเพราะกลับประพฤติดีในภายหลัง

๔. ญัตติจตุตถกรรม ตัวอย่างเช่น การสวดกรรมที่สงฆ์ผู้ทำกรรม 7 สถาน มีตัชชนียกรรมเป็นต้นลงโทษภิกษุผู้ประพฤติมิชอบ

๓.     การผูกพัทธสีมาในบัดนี้ มีขั้นตอนในการปฏิบัติอย่างไร?

ตอบ มีขั้นตอนดังนี้

๑. พื้นที่อันจะสมมติเป็นสีมาต้องได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาก่อน

๒. ประชุมภิกษุผู้อยู่ในเขตวิสุงคามสีมาหรือนำฉันทะของเธอมาแล้วสวดถอนเป็นแห่ง ๆ ไปกว่าจะเห็นว่าพอดี พึงสวดถอนติจีวราวิปปวาสก่อนแล้วจึงสวดถอนสมานสังวาสสีมา

๓. เตรียมนิมิตไว้ตามทิศ

๔. เมื่อสมมติสีมา ต้องประชุมภิกษุผู้อยู่ภายในนิมิตหรือนำฉันทะของเธอมา แล้วออกไปทักนิมิต

๕. กลับมาสวดสมมติสมานสังวาสสีมาก่อนแล้ว สวดสมมติติจีวราวราวิปปวาสสีมา ฯ

๔.     โดยทั่วไป มีความเข้าใจเรื่องสังฆกรรมว่า ในสีมาเดียวกัน ภิกษุจะประชุมทำสังฆกรรมวันหนึ่ง ๒ ครั้งไม่ได้ข้อนี้มีความจริงเป็นอย่างไร? จงอธิบาย

ตอบ มีความเป็นจริงเป็นอย่างนี้ คือ สังฆกรรมบางอย่าง เช่น อุโบสถ ปวารณา ภิกษุอยู่ในสีมาเดียวกันจะต้องพร้อมเพรียงกันทำจะแยกกันทำ ๒ พวก  ๒ ครั้งไม่ได้ แต่สังฆกรรมบางอย่าง เช่น อุปสมบทกรรมอัพภานกรรม จะทำวันเดียวหลายครั้งก็ได้

๕.     อันตรายิกธรรมที่ยกขึ้นถามอุปสมปทาเปกขะในการอุปสมบทนั้น ข้อที่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงกับทำให้เป็นภิกษุไม่ได้ คือข้อใดบ้าง?

ตอบ คือ ข้อว่า ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่บุรุษ อายุไม่ครบ 20 ปี ฯ

๖.     อาปัตตาธิกรณ์ระงับในสำนักบุคคลด้วยอธิกรณสมถะอะไร? และระงับในสำนักสงฆ์ด้วยอธิกรณสมถะอะไร?

ตอบ ระงับในสำนักบุคคลด้วยปฏิญญาตกรณะ ฯ ระงับในสำนักสงฆ์   ถ้าเป็นครุกาบัติ ด้วยสัมมุขาวินัย และปฏิญญาตกรณะ  ถ้าเป็นลหุกาบัติ ด้วยสัมมุขาวินัยและติณวัตถารกะ ฯ

๗.    อันตราบัติ คืออาบัติอะไร? ภิกษุจะต้องอาบัตินี้ได้ในเวลาไหนบ้าง?

ตอบ คือ อาบัติสังฆาทิเสสที่ต้องในระหว่างประพฤติวุฏฐานวิธี ฯ ภิกษุจะต้องอาบัตินี้ได้ในระหว่างที่กำลังอยู่ปริวาส หรืออยู่ปริวาสแล้วเป็นมานัตตารหะ กำลังประพฤติมานัตอยุ่ หรือประพฤติมานัตแล้ว เป็นอัพภานารหะ ฯ

๘.     ภิกษุเสียสีลสามัญญตาเพราะประพฤติอย่างไร? พระบรมศาสดาทรงวางโทษไว้ให้สงฆ์ทำกรรมอะไรแก่เธอ?

ตอบ เพราะต้องอาบัติแล้วไม่ยอมรับว่าเป็นอาบัติ หรือไม่ยอมทำคืน ฯ ทรงวางโทษไว้ให้สงฆ์ทำอุกเขปนียกรรมแก่เธอ ฯ

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์

๙.     กรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งเมื่อใด?

ตอบ พ้นเมื่อ

๑. มรณภาพ

๒. พ้นจากความเป็นพระภิกษุ

๓. ลาออก

๔. สมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาให้ออก

๕. อยู่ครบวาระ ๒ ปี

๑๐. เจ้าอาวาส หมายถึงใคร? ภิกษุผู้จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดที่ไม่ใช่พระอารามหลวงต้องมีคุณสมบัติโดยเฉพาะอะไรบ้าง 

ตอบ หมายถึง พระภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งตามกฎมหาเถรสมาคมให้เป็นพระสังฆาธิการปกครองวัดใดวัดหนึ่ง ฯ คือ

๑. มีพรรษาพ้น ๕

๒. เป็นผู้ทรงเกียรติคุณเป็นที่เคารพนับถือของคฤหัสถ์และบรรพชิตในถิ่นนั้น ฯ

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก 2553


 



ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง 

วันพฤหัสบดี        ที่ ๒๕ พฤศจิกายน   พ.ศ.๒๕๕๓



            สังฆกรรม กับวินัยกรรม มีก ำหนดบุคคลและสถานที่ต่างก เหมือนกันอย่างไร ?



            ต่างกันดังนี้ สังฆกรรม ต้องประชุมสงฆ์ครบองค์ตามก ำหนดแห่งก ต้องท ำในสีมา เว้นไว้แต่อปโลกนกรรม ท ำนอกสีมาก็ได้ ส่วนวิ ไม่ต้องประชุมสงฆ์ และท ำนอกสีมาก็ได้ ฯ


            นิมิตที่อยู่รอบโรงอุโบสถ มีไว้เพื่อประโยชน์อะไร ? จงเขียนค ทิศตะวันตกเฉียงใต้มาดู ?


            มีไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายก ำหนดเขตการท ำสังฆกรรม ฯ


ทกฺขิณาย  อนุทิสายกึ นิมิตฺตํ ฯ


            จงอธิบายความหมายของวิสุงคามสีมา  และสัตตัพภันตรสีมา


            วิสุงคามสีมา หมายถึงเขตแห่งสามัคคีที่สงฆ์ได้รับพระราชทาน ราชานุญาตยกให้เป็นแผนกหนึ่งจากบ้าน ฯ สัตตัพภันตรสีมา หมาย แห่งสามัคคีในป่าหาคนตั้งบ้านเรือนไม่ได้ชั่ว ๗ อัพภันดร โดยรอบ นับแต่ที่สุดแห่งสงฆ์ออกไป ฯ



            กฐิน เป็นสังฆกรรมอะไร ? การรับกฐิน ตลอดจนถึงการกราน ต้องท  ในสีมาเท่านั้น หรือท ำนอกสีมาก็ได้ ?


            เป็นญัตติทุติยกรรม ฯ


การรับกฐิน การอปโลกน์เพื่อให้ผ้ากฐิน และการกรานกฐินทำในสีมาหรือ นอกสีมาก็ได้ การสวดญัตติทุติยกรรมวาจาให้ผ้ากฐิน ต้องท ำในสีมา


            บุรพกิจที่พึงทเป็นเบื้องต้นก่อนแต่อุปสมบท ำ คืออะไรบ้าง ? ใน เหล่านั้น กิจที่ต้องท ำเป็นการสงฆ์ มีอะไรบ้าง ?


            คือ ให้บรรพชา ขอนิสสัย ถืออุปัชฌายะ ขนานชื่อมคธแห่งอุปสัมปท และบอกนามอุปัชฌายะ บอกบาตรจีวร สั่งให้อุปสัมปทาเปกขะออกไปย ข้างนอก สมมติภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ซักซ้อมอุปสัมปทาเปกขะถึงอั เรียกอุปสัมปทาเปกขะเข้าในสงฆ์ ให้ขออุปสมบท สมมติภิกษุรู สอบถามอุปสัมปทาเปกขะถึงอันตรายิกธรรมในสงฆ์ ฯ


มี สมมติภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ซักซ้อมอุปสัมปทาเปกขะถึงอันตราย อุปสัมปทาเปกขะเข้าในสงฆ์ สมมติภิกษุรูปหนึ่งสอบถามอุปสัมปท ถึงอันตรายิกธรรมในสงฆ์ ฯ


            อุปสัมปทาเปกขะจะส ำเร็จเป็นพระภิกษุได้ เมื่อพระกรรมวาจาจารย์ส บาลีบทใด ?



            ถึงบทว่าโส  ภาเสยฺย ท้ายอนุสาวนาที่ ๓ ฯ


            ติณวัตถารกวินัยมีอธิบายอย่างไร ?  ใช้ระงับอธิกรณ์อะไร ?


            อธิบายว่า กิริยาที่ให้ประนีประนอมกันทั้ง ๒ ฝ่าย ไม่ต้อง หาความเดิม เป็นดังกลบไว้ด้วยหญ้า ฯ ใช้ระงับอาปัตตาธิกรณ์ที่ยุ ไม่รู้จบและเป็นเรื่องสคัญอันจะเป็นเครื่องกระเทือนทั่วไป ำ เว้นครุกาบ อาบัติที่เนื่องด้วยคฤหัสถ์ ฯ


            ลิงคนาสนา คืออะไร ? บุคคลที่ทรงพระอนุญาตให้ท ำลิงคนาส กี่ประเภท ? ใครบ้าง ?


            คือ การให้ฉิบหายเสียจากเพศ ฯ มี ๓ ประเภท ฯ


คือ ภิกษุต้องอันติมวัตถุแล้ว ยังปฏิญญาตนเป็นภิกษุ ๑ บุค ไม่ขึ้น ได้รับอุปสมบทแต่สงฆ์ ๑ สามเณรผู้ประกอบด้วยองค์ ๑ ผู้มักผลาญชีวิตเป็นต้น ๑ ฯ


            ศาสนสมบัติมีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ? การจะน ำผลประโยชน์จ ศาสนสมบัติไปใช้จ่าย มีหลักเกณฑ์อย่างไร ?


            มี ๒ ประเภท ฯ


คือ  ศาสนสมบัติกลาง  และ  ศาสนสมบัติวัด ฯ


มีหลักเกณฑ์อย่างนี้คือ ศาสนสมบัติกลาง ใช้จ่ายในกิจการของส ตามพระวินัยโดยอนุมัติของสงฆ์ ศาสนสมบัติวัด ใช้จ่ายในกิ วัดนั้น ๆ แต่จะน ำศาสนสมบัติของวัดหนึ่งไปใช้อีกวัดหนึ่งไม่



๑๐.   ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง จะสามารถโอนกรรม หรือไม่ ? มีหลักปฏิบัติอย่างไร ?


๑๐. สามารถโอนได้ ฯ


มีหลักปฏิบัติตามความในมาตรา  ๓๔  แห่งพระราชบัญญัติคณะส


พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที พ.ศ. ๒๕๓๕ (มาตรา ๓๔ การโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ ที่ศาสนสมบัติกลาง ให้กระท ำได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ เว้นแต ตามวรรคสอง




*********