วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก 2553


 





ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง

วันอังคาร       ที่ ๒๓ พฤศจิกายน   พ.ศ.๒๕๕๓ 



                        สัทธรรมปฏิรูป  คืออะไร ?  เกิดขึ้นจากอะไร ?

                        คือ สัทธรรมชนิดที่ปลอมหรือเทียม ไม่ใช่สัทธรรมแท้ ฯ เกิดขึ้นจากความเห็นผิดหรือเข้าใจผิดของผู้เรียบเรียง เมื่อเรียบ ก็หารู้ไม่ ด้วยเข้าใจว่าของตนถูก แล้วได้น ำมาปนไว้ในสัทธรรม

                        บทอุทเทสว่า เอถ ปสฺสถิมํ โลกํ ซึ่งแปลว่า สูทั้งหลายจงมาดูโลก พระศาสดาตรัสชวนให้มาดูโลกโดยมีพระประสงค์อย่างไร ?

                        ทรงมีพระประสงค์จะทรงปลุกใจพวกเราให้หยั่งเห็นซึ้งลงไปถึงคุณโทษปร มิใช่ประโยชน์แห่งสิ่งนั้น ๆ อันคุมเข้าเป็นโลก จะได้ไม่ตื่ สิ่งนั้น ๆ รู้จักละสิ่งที่เป็นโทษ ไม่ข้องติดอยู่ในสิ่งที่

                        ทุกข์ประจ ำสังขารกับทุกข์จร  ต่างกันอย่างไร ?

                        ทุกข์ประจ ำสังขาร เป็นทุกข์ที่ต้องมีแก่คนทุกคน ไม่สามารถจ หลีกเลี่ยงพ้น ได้แก่ ความเกิด ความแก่ ความตาย ส่วนทุกข์จรเป็นทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ได้แก่ โสกะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ประจวบด้วยคนหรือสิ่งอันไม่เป็นที่รั พรากจากคนหรือสิ่งอันเป็นที่รัก ปรารถนาไม่ได้สมหวัง ฯ


                        ในวิมุตติ ๕ วิมุตติใดจัดเข้าใน  อริยมรรค  อริยผล  นิพพาน ?

                        สมุจเฉทวิมุตติ จัดเข้าใน อริยมรรค ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ จัดเข้าใน อริยผล นิสสรณวิมุตติ จัดเข้าใน นิพพาน ฯ

                        จงจัดมรรค ๘ เข้าในวิสุทธิ ๗ มาดู

                        สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ จัดเข้าในสีลวิสุทธิ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ จัดเข้าในจิตตวิสุทธิ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ จัดเข้าใน ทิฏฐิวิสุทธิ กังขาวิตร มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิญาณทัสสนวิสุทธิ ฯ

๖.     พระศาสดาทรงสอนภิกษุโดยยกเอาเรือมาเป็นอุปมาว่า                 สิญฺจ ํภิกฺขุ
นาวํ สิตฺตา เต ลหุเมสฺสติ แปลว่า ภิกษุ เธอจงวิดเ เรืออันเธอวิดแล้วจักพลันถึง มีอธิบายโดยย่อว่าอย่างไร ?

                        มีอธิบายโดยย่อว่า เรือ หมายถึงอัตภาพ วิดเรือ คือวิดน ้ำที่ ซึ่งหมายถึงการบรรเทากิเลสและบาปธรรม ที่ไหลเข้ามาท่วมทับจิตใจ ให้บางเบา จนขจัดได้ขาด เมื่ออัตภาพนี้เบาก็จักปฏิบัติเพื่อไปส ได้เร็ว ฯ


                        กัมมัฏฐานต่อไปนี้ คือ กสิณ จตุธาตุววัตถานะ พุทธานุสสต สบายแก่คนผู้มักถูกนิวรณ์ข้อใดครอบง ำ ?

                        กสิณ เป็นที่สบายแก่คนผู้มักถูกอุทธัจจกุกกุจจะครอบง ำ จตุธาตุววัตถานะ เป็นที่สบายแก่คนผู้มักถูกวิจิกิจฉาครอบง ำ พุทธานุสสติ เป็นที่สบายแก่คนผู้มักถูกถีนมิทธะครอบง ำ ฯ

                        ในอรกสูตร กล่าวไว้ว่า ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายเปรียบเหมือนหย ดังนี้ มีอธิบายอย่างไร ? และที่กล่าวไว้เช่นนั้นมีประโยชน์อ

                        มีอธิบายว่า ธรรมดาหยาดนำค้างที่จับอยู่ตามยอดหญ้า  เมื่อถูกแสงอ ในเวลาเช้า ก็พลันจะเหือดแห้งหายไป ฉันใด ชีวิตของมนุษย์ทั ก็ฉันนั้น มีความเกิดแล้วก็มีความแก่ ความเจ็บ ความตาย คอยเบี ท ำให้ด ำรงอยู่ได้ไม่นาน ไม่ถึงร้อยปีก็จะหมดไป ฯ

เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้รู้สึกด้วยปัญญา ท ำให้ไม่ประมาทในช ความดี ฯ



                        ในอนัตตลักขณสูตรพระศาสดาทรงยกธรรมอะไรขึ้นแสดงว่าเป็นอนัตตา ? และในตอนท้ายของพระสูตร ทรงแสดงอานิสงส์แห่งวิปัสสนาว่าอย่างไ

                        ทรงยก  ขันธ์๕  คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ขึ้นแสดงฯ

ทรงแสดงไว้ว่า เอวํ ปสฺสํ ภิกฺขเว สุตวา อริยสาวโก เป็นต้น ความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เมื่ ย่อมเบื่อหน่าย ย่อมฟอกจิตให้หมดจด เพราะการฟอกจิตให้หมดจด จิตนั้นก็พ้นจากอาสวะทั้งปวง เมื่อจิตพ้นพิเศษแล้ว ก็มี พ้นแล้ว และเธอรู้ประจักษ์ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์คือกิ ได้ท ำเสร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องท ำเช่นนี้ ไม่มีอีก ฯ



๑๐.  ในคิริมานนทสูตร              ข้อว่าปหานสัญญาพระศาสดาทรงสอนให้ละอะไร ?

๑๐.  ทรงสอนให้ละ กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก และอกุศลบาปธรรม ที่เกิดขึ้นแล้ว ฯ

*********

วิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก 2555

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  นักธรรมชั้นเอก

สอบในสนามหลวง

วันเสาร์ ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

๑.      พระพุทธดำรัสตอนหนึ่งว่า "สูทั้งหลายจงมาดูโลกนี้อันตระการดุจราชรถ" ดังนี้ โดยมีพระพุทธประสงค์อย่างไร?

ตอบ มีพระพุทธประสงค์เพื่อทรงชักชวนแนะนำให้ดูถึงโทษประโยชน์มิใช่ประโยชน์ของโลก เช่นเดียวกับดูละคร มิให้หลงชมความสวยงามต่างๆ แต่ให้เพ่งดูคติที่ดีและชั่ว มีให้เมามัวไปตามสิ่งนั้น ดังตรัสต่อไปอีกว่า เป็นที่คนเขลาหมกอยู่ แต่ผู้รู้หาข้อติดไม่ ฯ

๒.     ความอยากที่เข้าลักษณะเป็นตัณหา และไม่เป็นตัณหานั้น ได้แก่ความอยากเช่นไร เพราะเหตุไร?

ตอบ ความอยากที่เข้าลักษณะทำให้เกิดในภพอีก ประกอบด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความยินดี เพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ อย่างนี้จัดเป็นตัณหา เพราะเป็นทุกขสมุทัย เหตุให้ทุกข์เกิด ส่วนความอยากที่มีอยู่โดยปกติธรรมดาของคนทุกคน แม้กระทั่งพระอริยเจ้า เช่นความอยากข้าว อยากน้ำเป็นต้น ไม่จัดว่าเป็นตัณหา เพราะเป็นความอยากที่เป็นไปตามธรรมดาของสังขาร ฯ

๓.     การกำหนดรู้ความเป็นอนัตตาแห่งสังขารด้วยความเป็นสภาพสูญนั้นคือ รู้อย่างไร?

ตอบ รู้จักพิจารณากำหนดเห็นสังขารกระจายเป็นส่วนย่อยๆ จากฆนคือก้อนจนเห็นเป็นความว่าง ถอนฆนสัญญาความสำคัญหมายว่าเป็นก้อน อันได้แก่ ความถือเอาโดยนิมิต  ว่าเรา ว่าเขา ว่าผู้นั้น ว่าผู้นี้ เสียได้ ฯ

๔.     วิราคะในพระบาลีว่า “วิราโค เสฏฺโฐ ธมฺมานํ วิราคะประเสริฐกว่าธรรมทั้งหลาย” และในพระบาลีว่า “วิราคา วิมุจฺจติ เพราะสิ้นกำหนัดย่อมหลุดพ้น” ต่างกันอย่างไร?

ตอบ วิราคะในพระบาลีแรกเป็นไวพจน์คือคำแทนชื่อพระนิพพาน

วิราคะในพระบาลีหลังเป็นชื่อของพระอริยมรรค ฯ

๕.     บาลีแสดงปฏิปทาแห่งสันติว่า “โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข” แปลว่า ผู้เพ่งความสงบพึงละอามิสในโลกเสีย ดังนี้ คำว่า อามิสในโลกหมายถึงอะไร? ที่เรียกอย่างนั้นเพราะเหตุไร?

ตอบ หมายถึงเบญจพิธกามคุณ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ฯ ที่เรียกอย่างนั้น เพราะเป็นเครื่องล่อใจให้ติดในโลก ดุจเหยื่ออันเบ็ดเกี่ยวอยู่ฉะนั้น ฯ

๖.      กัมมัฏฐานที่พระอุปัชฌาย์สอนแก่ผู้บรรพชาอุปสมบทว่า เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา นั้น จัดเข้าในสติปัฏฐานข้อใด? ให้พิจารณาอย่างไร?

ตอบ จัดเข้าในกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ฯ

ให้พิจารณาน้อมใจให้เห็นเป็นของน่าเกลียดปฏิกูล ทั้งในกายตน ทั้งในกายผู้อื่น ฯ

๗.     กายคตาสติกัมมัฏฐานกับอสุภกัมมัฏฐาน มีอารมณ์ต่างกันอย่างไร? แก้นิวรณ์ข้อใดได้?

ตอบ    กายคตาสติกัมมัฏฐาน มีอาการ ๓๒ ในร่างกายเป็นอารมณ์

อสุภกัมมัฏฐาน มีซากศพเป็นอารมณ์ ฯ

แก้กามฉันทนิวรณ์ ฯ

๘.     จงแสดงพระพุทธคุณ ๙ โดยอัตตสมบัติและปรหิตปฏิบัติ พอได้ใจความ

ตอบ พระพุทธคุณ คือ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู เป็นพระพุทธคุณส่วนอัตตสมบัติ

พระพุทธคุณ คือ อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นพระพุทธคุณส่วนปรหิตปฏิบัติ

พระพุทธคุณ คือ พุทฺโธ ภควา เป็นพระพุทธคุณทั้งอัตตสมบัติและปรหิตปฏิบัติ ฯ

๙.     ปัญญารู้เห็นอย่างไร ชื่อว่าวิปัสสนาปัญญา?

ตอบ ปัญญาอันเห็นตามเป็นจริง คือกำหนดรู้สังขารโดยความเป็นของไม่เที่ยง ๑ โดยความเป็นทุกข์ ๑ โดยความเป็นอนัตตา ๑ ถอนความถือมั่นด้วยอำนาจตัณหา มานะ ทิฏฐิเสียได้ ชื่อว่าวิปัสสนาปัญญา ฯ

๑๐. ในสัญญา ๑๐ ข้อที่ ๕ ว่าปหานสัญญา ความสำคัญหรือความใส่ใจในการละ ขอทราบว่า ทรงสอนให้ละอะไรบ้าง?

ตอบ ทรงสอนให้ละ

๑. กามวิตก

๒. พยาบาทวิตก

๓. วิหิงสาวิตก

๔. ธรรมอันเป็นบาปเป็นอกุศล

ทั้ง ๔ นี้ ที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เกิดขึ้นอีก ฯ

วิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก 2556


 




ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง
วันพุธ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖


๑. นิพัทธทุกข์ กับ สหคตทุกข์ ต่างกันอย่างไร ?

เฉลย นิพัทธทุกข์คือทุกข์เนืองนิตย์หรือทุกข์เป็นเจ้าเรือนได้แก่หนาว ร้อน
หิว ระหาย ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ
ส่วนสหคตทุกข์คือทุกข์ไปด้วยกันหรือทุกข์ก ำกับกันได้แก่ทุกข์มี
เนื่องมาจากวิบุลผลฯ

๒. ความเป็นอนัตตาของสังขารพึงก ำหนดรู้ด้วยอาการอย่างไรบ้าง ?

เฉลย ๑. ด้วยไม่อยู่ในอ หรือด้วยฝืนความปรารถนาำนาจ
๒. ด้วยแย้งต่ออัตตา
๓. ด้วยความเป็นสภาพหาเจ้าของมิได้
 ด้วยความเป็นสภาพสูญคือว่างหรือหายไปฯ

  ค ำว่า วฏฺฏ ในค ำว่า “วฏฺฏูปจฺเฉโท” หมายถึงอะไร ? วฏฺฏ นั ขาดสายด้วยอาการอย่างไร ?

เฉลย หมายถึง ความเวียนเกิด้วยอ ำนาจกิเลสกรรม วิบาก ฯ วฏฺฏ นั้นชื่อว่าขาดสายด้วยอาการที่ละกิเลสอันเป็นเบื้องต้นเสฯ


  ความเชื่อว่ามีพระเจ้าผู้สร้าง ท ำการอ้อนวอนและบวงสรวงเป็นอาทิ จ อาสวะข้อไหน ?

เฉลย  จัดเข้าในอวิชชาสวะ ฯ

  พระบาลีว่า “นิกฺขิปิตฺวา ครุํ ภารํ อญฺญํ ภารํ อนาทิย อันหนักเสียแล้ว ไม่ถือเอาภาระอันอื่น” ถามว่า “ภาระ” “การไม่ถือเอ “การปลงภาระ” ได้แก่อะไร ?


เฉลย ภาระ ได้แก่เบญจขันธ์ฯ การไม่ถือเอาภาระได้แก่การไม่ถือเอาเบญจขันธ์ด้วยอุปาทานฯ การปลงภาระ ได้แก่การถอนอุปาทานในเบญจขันธ์ฯ

  คุณของพระธรรมส่วนปริยัติ  ปฏิบัติ  และปฏิเวธาอย่างไรโดยย่อว่?
จงอธิบาย

เฉลย  คุณของปริยัติธรรมคือให้รู้วิธีบ สมาธิำเพ็ญศีลปัญญา

คุณของปฏิปัตติธรรมคือทกาย ำ วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์จนบรรลุมรรค
ผล นิพพาน

คุณของปฏิเวธธรรมคือละกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานบรรลุถึงความสุข
อย่างยิ่งฯ



  ในอรกสูตรกล่าวไว้ว่า ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายเปรียบเหมือนชิ้น มีอธิบายอย่างไร ? และที่กล่าวไว้เช่นนั้นเพื่อประโยชน์อะไร ?

เฉลย มีอธิบายว่าธรรมดาว่าชิ้นเนื้อที่บุคคลเอาลงในกะทะเหล็กอันร้อนตล

ยังค ย่อมจะพลันไหม้ำ ไม่ตั้งอยู่นานฉันใดชีวิตก็ถูกเพลิงกิเลสและเพลิ ทุกข์เผาผลาญให้เหี้ยมเกรียมไม่ทนอยู่นานฉันนั้นฯ มีประโยชน์คือเป็นเครื่องเตือนใจให้รู้สึกด้วยปัญญาท ำให้ไม่ประมาท ในชีวิตเร่งสั่งสมความดีฯ

๘. วิปลาส คืออะไร ? จ ำแนกโดยวัตถุเป็นที่ตั้งมีกี่อย่าง ? อะไรบ เฉลย คือ กิริยาที่ถือเอาโดยอาการวิปริตผิดจากความจริงฯมี๔อย่าง ฯ คือ

ความส ำคัญคิดเห็นในสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง

ความส ำคัญคิดเห็นในสิ่งที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข

ความส ำคัญคิดเห็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตนว่าเป็นตนและ

ความส ำคัญคิดเห็นในสิ่งที่ไม่งามว่างามฯ

  ในนวสีวถิกาปัพพะ เมื่อเห็นซากศพชนิดใดชนิดหนึ่งใน ๙ ชน พึงภาวนาอย่างไร ?


เฉลย พึงภาวนาโดยการน้อมเข้ามาสู่กายนี้นี่แลว่าอยมฺปิโขกาโย ถึงร่างกาย อันนี้เล่าเอวํธมฺโมก็มีอย่างนี้เป็นธรรมดาเอวํภาวีจักเป็นอย่างนี้เอวํ อนตีโต ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้ฯ


๑๐.ข้อว่า อนัตตสัญญาในคิริมานนทสูตร ทรงให้พิจารณาอะไรว่าเป็นอนัตตา?

เฉลย ทรงให้พิจารณาอายตนะภายในคือตา หูจมูกลิ้นกาย ใจ และอายตนะ ภายนอก คือ รูป เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ว่าเป็น อนัตตา ฯ



*********