วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาธรรม นักธรรมชั้นโท 2554






 

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง
วันอังคาร         ที่ ๑๓ ธันวาคม             พ.ศ. ๒๕๕๔ 



            ในอริยบุคคล ๒ พระเสขะผู้ยังต้องศึกษา คือศึกษาเรื่องอะไร ? ผู้ศึกษาก ำลังสอบธรรมอยู่นี้เรียกว่าพระเสขะได้หรือไม่ ?

            คือศึกษา ในอธิสีล ในอธิจิต และในอธิปัญญา อีกอย่างหนึ่งหม ต้องศึกษาและต้องปฏิบัติเพื่อมรรคผลเบื้องสูงขึ้นไป ฯ ยังเรียกว่าพระเสขะไม่ได้ ถ้าไม่ใช่พระอริยบุคคล ๗ จ ำพวกเบื้อง

            มหาภูตรูปและอุปาทายรูปคืออะไร ?

            มหาภูตรูป คือ รูปใหญ่ ได้แก่ธาตุ ๔ มี ปฐวี อาโป เตโช วาโ อุปาทายรูป คือรูปอาศัยมหาภูตรูปนั้น ฯ

            ไตรวัฏฏะ อันได้แก่ กิเลสวัฏฏะ กัมมวัฏฏะ วิปากวัฏฏะ มีสภ เกี่ยวเนื่องวนกันไปอย่างไร ? ตัดให้ขาดได้ด้วยอะไร ?

            อย่างนี้ คือ กิเลสเกิดขึ้นแล้วให้ทกรรมครั้นท กรรมแล้วำ ำ ย่อมได้รับ วิบากแห่งกรรม เมื่อได้รับวิบาก กิเลสก็เกิดขึ้นอีก วนกันไปอ ได้ด้วยอรหัตตมรรคญาณ ฯ


            เมตตากับปรานีมีความหมายต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร ? และอย่า ก ำจัดวิตกอะไร ?

            เมตตาหมายถึงความรักใคร่หรือความหวังดี ปรานีหมายถึงความปรารถนา ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์เข้าลักษณะแห่งกรุณา ฯ เมตตาก ำจัดพยา ปรานีก ำจัดวิหิงสาวิตก ฯ

            ทักขิณา คืออะไร ? ทักขิณานั้น จะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ และในฝ่ายปฏิคาหกนั้น มีอะไรเป็นเครื่องหมาย ?

            คือ  ของท ำบุญ ฯ

ทักขิณาจะบริสุทธิ์ มีศีลมีกัลยาณธรรมเป็นเครื่องหมาย ทักขิณ มีทุศีลมีบาปธรรมเป็นเครื่องหมาย ฯ

            บทนมัสการพระธรรมว่า สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม ธมฺมํ นมสฺส ข้าพเจ้านมัสการพระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว ที่ว่า ตรัสดีแล้ว นั้นมีอธิบายอย่างไร ?

            มีอธิบายอย่างนี้คือ ดีทั้งในส่วนปริยัติและดีทั้งในส่วนปฏิเ ได้ชื่อว่าดีเพราะตรัสไม่วิปริต เพราะแสดงข้อปฏิบัติโดยล ำดับ มีความไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด พร้อมทั้งอรรถทั้ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ในส่วนปฏิเวธนั้น ได้ชื่อว่าดี เพราะปฏิปทากับพระนิพพานย่อมสมควรแก่กันและกัน



            พระพุทธคุณว่า อรหํ ใช้เป็นคุณบทของพระสาวกได้ด้วยหรือไม่ ? ถ้าได้ จะมีค ำอะไรมาประกอบร่วมด้วย เป็นเครื่องหมายให้รู้ว่าเป ของพระศาสดาหรือของพระสาวก ?

            ได้ ฯ ส ำหรับพระศาสดา ใช้ว่า อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ แปลว่า พระอ ผู้ตรัสรู้ชอบเอง ส ำหรับพระสาวกใช้ว่า อรหํ ขีณาสโว แปลว่า พระอรหันต์ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว ฯ

  
            ค ำว่า พระสงฆ์ ในบทสังฆคุณนั้น ท่านประสงค์บุคคลเช่นไร ? จงจ ำแนกมาดู
  
            ท่านประสงค์พระอริยบุคคล ๔ คู่ ๘ บุคคล ซึ่งล้วนแต่ท่านผู มรรคผลทั้งสิ้น คือ พระโสดาปัตติมรรค พระโสดาปัตติผล คู่ ๑ พระสกทาคามิมรรค พระสกทาคามิผล คู่ ๑ พระอนาคามิมรรค พระอนาคามิผล คู่ ๑ พระอรหัตมรรค พระอรหัตผล คู่ ๑ ฯ


  
            พระบาลีว่า “อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา” เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงม ดังนี้ ค ำว่า สังขารหมายถึงอะไร ? ได้แก่อะไรบ้าง ?

            หมายถึงสภาพผู้ปรุงแต่ง ฯ
ได้แก่๑.  ปุญญาภิสังขาร  อภิสังขารคือบุญ

                อปุญญาภิสังขาร  อภิสังขารคือบาป

๓.    อเนญชาภิสังขาร       อภิสังขารคืออเนญชา ฯ


๑๐.   ครุกรรม คืออะไร ? อนันตริยกรรมกับสมาบัติ ๘ เป็นครุกรรมฝ่า หรืออกุศล ?
  
๑๐. คือ       กรรมหนัก ฯ

อนันตริยกรรม       เป็นครุกรรมฝ่ายอกุศล
สมาบัติ ๘ เป็นครุกรรมฝ่ายกุศล ฯ

*********

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาธรรม นักธรรมชั้นโท 2555

 วิชาธรรม นักธรรมชั้นโท 2555

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  นักธรรมชั้นโท

สอบในสนามหลวง

วันศุกร์ ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

๑.      กัมมัฏฐานที่พระอุปัชฌาย์สอนแก่ผู้ขอบรรพชาอุปสมบทว่า เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา นั้นเรียกชื่อว่าอะไร เป็นสมถกัมมัฏฐานหรือวิปัสสนากัมมัฏฐาน?

ตอบ ชื่อว่า ตจปัญจกกรรมฐาน หรือมูลกัมมัฏฐาน ฯ

เป็นได้ทั้งสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน ฯ

๒.     แสวงหาอะไรเป็นการแสวงหาอย่างประเสริฐ แสวงหาอะไรเป็นการแสวงหาไม่ประเสริฐ?

ตอบ ในพระสูตรแสดงว่า แสวงหาสภาพอันมิใช่ของมีชรา พยาธิ มรณะ คือคุณธรรมมีพระนิพพานเป็นอย่างสูง เป็นการแสวงหาอย่างประเสร็ฐ เรียกว่าอริยปริเยสนา ฯ

แสวงหาของมีชรา พยาธิ มรณะ เช่นหาของเล่น เป็นการแสวงหาไม่ประเสริฐ เรียกว่าอนริยปริเยสนา ฯ

๓.     ผู้มีอัตตาธิปเตยยะกับผู้มีธัมมาธิปเตยยะ มีความมุ่งหมายในการทำงานต่างกันอย่างไร?

ตอบ ผู้มีอัตตาธิปเตยยะปรารภภาวะของตนเป็นใหญ่ ทำด้วยมุ่งให้สมภาวะของตน ผู้ทำมุ่งผลอันจะได้แก่ตน หรือมุ่งความสะดวกแห่งตน

ส่วนผู้มีธัมมาธิปเตยยะ ทำด้วยไม่มุ่งหมายอย่างอื่น เป็นแต่เห็นสมควรเห็นว่าถูกก็ทำ หรือทำด้วยอำนาจเมตตากรุณาเป็นอาทิ ฯ

๔.     ญาณ ๓ ที่เป็นไปในทุกขสัจ มีอธิบายอย่างไร?

ตอบ มีอธิบายว่า

๑) ปรีชาหยั่งรู้ว่า นี้ทุกขสัจ จัดเป็นสัจจญาณ

๒) ปรีชาหยั่งรู้ว่า ทุกขสัจเป็นสภาพที่ควรกำหนดรู้ จัดเป็นกิจจญาณ

๓) ปรีชาหยั่งรู้ว่า ทุกขสัจที่ควรกำหนดรู้ ได้กำหนดรู้แล้ว จัดเป็นกตญาณ ฯ

๕.      อปัสเสนธรรม (ธรรมเป็นที่พึงพิง) ข้อที่ ๒ ว่า พิจารณาแล้วอดกลั้นของอย่างหนึ่ง นั้นมีอธิบายอย่างไร?

ตอบ มีอธิบายว่า อดกลั้นอารมณ์อันไม่เป็นที่เจริญใจ ต่างโดยหนาว ร้อน หิว กระหาย ถ้อยคำเสียดแทง และทุกขเวทนาอันแรงกล้า ฯ

๖.      อริยวงศ์คืออะไร มีกี่อย่าง ข้อที่ ๔ ว่าอย่างไร?

ตอบ คือ ปฏิปทาของพระอริยบุคคลผู้เป็นสมณะ มี ๔ อย่าง ฯ

ข้อที่ ๔ ว่า ยินดีในการเจริญกุศลและในการละอกุศล ฯ

๗.     ปัญจขันธ์ได้ชื่อว่าเป็นมาร เพราะเหตุไร?

ตอบ เพราะปัญจขันธ์นั้น บางทีทำความลำบากให้ อันเป็นเหตุเบื่อหน่ายจนถืงฆ่าตัวตายเสียเองก็มี

๘.     สมาธิระดับไหนจึงจัดเป็นจิตตวิสุทธิ ความหมดจดแห่งจิต?

ตอบ สมาธิทั้งที่เป็นอุปจาระทั้งที่เป็นอัปปนา โดยที่สุดขณิกสมาธิ คือสมาธิชั่วขณะพอเป็นรากฐานแห่งวิปัสสนา จัดเป็นจิตตวิสุทธิ ฯ

๙.     สังฆคุณ ๙ มีอะไรบ้าง จะย่นให้เหลือเพียง ๒ ได้อย่างไร?

ตอบ มี

๑) สุปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว

๒) อุชุปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว

๓) ญายปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม

๔) สามีจิปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติสมควร

๕) อาหุเนยฺโย เป็นผู้ควรของคำนับ

๖) ปาหุเนยฺโย เป็นผู้ควรของต้อนรับ

๗) ทกฺขิเณยฺโย เป็นผู้ควรของทำบุญ

๘) อญฺชลิกรณีโย เป็นผู้ควรทำอัญชลี (ประณมมือไหว้)

๙) อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺส เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ฯ

ข้อ ๑ ถึงข้อ ๔ เป็นอัตตหิตคุณ คือคุณเกื้อกูลแก่ตนเอง

ข้อ ๕ ถึงข้อ ๙ เป็นปรหิตคุณ คือคุณเกื้อกูลแก่ผู้อื่น ฯ

๑๐. กรรมที่บุคคลทำไว้ ทำหน้าที่อย่างไรบ้าง?

ตอบ ทำหน้าที่ คือ

๑) แต่ง (วิบาก) ให้เกิด เรียกว่า ชนกกรรม

๒) สนับสนุน (วิบากของกรรมอื่น) เรียกว่า อุปัตถัมภกกรรม

๓) บีบคั้น (วิบากของกรรมอื่น) เรียกว่า อุปปีฬกกรรม

๔) ตัดรอน (วิบากของกรรมอื่น) เรียกว่า อุปฆาตกกรรม ฯ

วิชาธรรม นักธรรมชั้นโท 2556






ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง
วันพุธ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖

๑. ทิฏฐิ ที่หมายถึงความเห็นผิด ๒ อย่าง มีอะไรบ้าง ? เฉลย มี

 สัสสตทิฏฐิความเห็นว่าเที่ยง ๒. อุจเฉททิฏฐิความเห็นว่าขาดสูญฯ

  กุศลวิตก มีอะไรบ้าง ? สงเคราะห์เข้าในมรรคมีองค์ ๘ ข้อไหนได้ ?

เฉลย มี

 เนกขัมมวิตกความตริในทางพรากจากกาม ๒. อพยาบาทวิตก ความตริในทางไม่พยาบาท ๓. อวิหิงสาวิตกความตริในทางไม่เบียดเบียนฯ สงเคราะห์เข้าในข้อสัมมาสังกัปปะฯ

  การฆ่าสัตว์ อย่างไรเกิดทางกายทวาร อย่างไรเกิดทางวจีทวาร ? เฉลย ฆ่าด้วยตนเองเกิดทางกายทวาร

ใช้ให้ผู้อื่นฆ่าเกิดทางวจีทวารฯ

๔. ญาณ ๓ ที่เป็นไปในทุกขสมุทยสัจ มีอธิบายอย่างไร ? เฉลย มีอธิบายว่า
  ปรีชาหยั่งรู้ว่านี้ทุกขสมุทัยเป็นเหตุให้ทุกข์เกิดจริงจัดเป็นสัจญาณ
 ปรีชาหยั่งรู้ว่านี้ทุกขสมุทัยควรละ จัดเป็นกิจญาณ
 ปรีชาหยั่งรู้ว่านี้ทุกขสมุทัยละได้แล้วจัดเป็นกตญาณฯ

  ในพระพุทธศาสนาพูดเรื่องมารไว้มาก อยากทราบว่า ค ำว่า มาร หมาย อะไร ? กิเลสได้ชื่อว่ามารเพราะเหตุไร ?

เฉลย หมายถึงสิ่งที่ล้างผลาญท ำลายความดีชักน ำให้ท ำบาปกรรมปิดกั้นไม่ให้ ท ำความดีจนถึงปิดกั้นไม่ให้เข้าใจสรรพสิ่งตามความเป็นจริงฯ เพราะผู้ที่ตกอยู่ในอ ำนาจของกิเลสแล้วย่อมจะถูกผูกมัดไว้บ้างถูกท ำให้ เสียคนบ้างฯ

  ค ำว่า พระธรรม ในธรรมคุณบทว่า “พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเ ตรัสดีแล้ว” หมายถึงอะไร ?

เฉลย หมายถึง ปริยัติธรรมกับ ปฏิเวธธรรม (หรือโดยพิสดารได้แก่สัทธรรม ๑๐ คือ โลกุตรธรรม ๙ กับปริยัติธรรม๑)ฯ


๗. ทักขิณาวิสุทธิ มีอะไรบ้าง ? อย่างไหนให้อานิสงส์มากที่สุด ?

เฉลย ทักขิณาบางอย่างบริสุทธ์ฝ่ายทายกไม่บริสุทธ์ฝ่ายปฏิคาหก ทักขิณาบางอย่างบริสุทธ์ฝ่ายปฏิคาหกไม่บริสุทธ์ฝ่ายทายก ทักขิณาบางอย่างไม่บริสุทธ์ทั้งฝ่ายทายกทั้งฝ่ายปฏิคาหก ทักขิณาบางอย่างบริสุทธ์ทั้งฝ่ายทายกทั้งฝ่ายปฏิคาหกฯ

อย่างที่๔ คือ ทักขิณาที่บริสุทธ์ทั้งฝ่ายทยปฏิคาหกฯ

  อนุสัย หมายถึงกิเลสประเภทไหน ? ได้ชื่อเช่นนั้นเพราะเหตุไร ? เฉลย หมายถึง กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานฯ

เพราะกิเลสชนิดนี้บางทีไม่ปรากฏแต่เมื่อมีอารมณ์มายั่วย่อมเกิดขึ้น ในทันใด ฯ

  พุทธคุณ ๒ ก็มี พุทธคุณ ๓ ก็มี พุทธคุณ ๙ ก็มี จงแจกแจงแต ว่ามีอะไรบ้าง ?

เฉลย พุทธคุณ๒ คือ อัตตสมบัติและ ปรหิตปฏิบัติ พุทธคุณ๓ คือ พระปัญญาคุณพระวิสุทธิคุณและพระกรุณาคุณ

พุทธคุณ๙ คือ อรหํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ,วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน,สุคโต, โลกวิทู,อนุตฺตโรปุริสทมฺมสารถิ,สตฺถา เทวมนุสฺสานํ, พุทฺโธ, ภควา ฯ

๑๐. ธุดงค์ คืออะไร ? มีกี่หมวด ? หมวดไหนว่าด้วยเรื่องอะไร ?

เฉลย คือวัตตจริยาพิเศษอย่างหนึ่งเป็นอุบายขัดเกลากิเแลสะเป็นไปเพื่อความ
มักน้อยสันโดษฯ

มี ๔ หมวด ฯ ดังนี้
หมวดที่๑ ว่าด้วยเรื่องจีวร
หมวดที่๒ ว่าด้วยเรื่องบิณฑบาต
หมวดที่๓ ว่าด้วยเรื่องเสนาสนะ
หมวดที่๔ ว่าด้วยเรื่องความเพียรฯ

*********