วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2551

 วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2551

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันเสาร์ ที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

๑.     อรณียกิจ ๔ คืออะไร ? ข้อที่ ๓ ว่าอย่างไร

๑.     คือ กิจที่ไม่ควรทำ ๔ ฯ ว่า ฆ่าสัตว์ ฯ

๒.    อะไรเรียกว่า สิกขาบท ?  มาจากไหน ?

๒.    พระบัญญัติมาตราหนึ่ง ๆ เรียกว่า สิกขาบท ฯ

มาในพระปาติโมกข์ ๑ มานอกพระปาติโมกข์ ๑ ฯ

๓.    สังฆาทิเสส มีกี่สิกขาบท ? ภิกษุต้องอาบัตินี้จะพ้นได้ด้วยวิธีอย่างไร ?

๓.    มี ๑๓ สิกขาบท ฯ

ด้วยวิธีอยู่กรรม ที่เรียกว่า วุฏฐานคามินี ฯ

๔.     เภสัช ๕ ในปัตตวรรคที่ ๓ ได้แก่อะไรบ้าง ? รับประเคนแล้วเก็บไว้ฉันได้กี่วัน ?

๔.     ได้แก่ เนยใน เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ฯ เก็บไว้ฉันได้ ๗ วัน   เป็นอย่างยิ่ง ฯ

๕.     ภิกษุนอนในที่มุงที่บังอันเดียวกับอนุปสัมบัน เป็นอาบัติหรือไม่อย่างไร ?

๕.     ถ้าเป็นผู้ชาย เกินกว่า ๓ คืน เป็นอาบัติปาจิตตีย์ ถ้าเป็นผู้หญิง       แม้ในคืนแรก เป็นอาบัติปาจิตตีย์ ฯ

๖.     ภิกษุซ่อนผ้าอาบน้ำฝน บาตร จีวร กล่องเข็ม ด้าย ของเพื่อนภิกษุหรือสามเณรเพื่อล้อเล่น เป็นอาบัติอะไรบ้าง ?

๖.   ซ่อนผ้าอาบน้ำฝน ด้าย ของเพื่อนภิกษุ เป็นอาบัติทุกกฏ 

ซ่อนบาตร จีวร กล่องเข้ม ของเพื่อนภิกษุ เป็นอาบัติปาจิตตีย์

ซ่อนของสามเณรทุกอย่างเป็นทุกกฏ ฯ

๗.    คำว่า ปวารณากำหนดปัจจัย หมายความว่าอย่างไร ?

๗.    หมายความว่า ปวารณาที่กำหนดชนิดสิ่งของ เช่นจีวร หรือบิณฑบาตเป็นต้น หรือกำหนดจำนวนสิ่งของ เช่น ผ้ากี่ผืน บิณฑบาตมีราคา    เท่าไร เป็นต้น ฯ

๘.    เสขิยวัตร คืออะไร ? มีทั้งหมดกี่ข้อ ?

๘.    คือ ธรรมเนียมหรือวัตรที่ภิกษุต้องศึกษา ฯ มี ๗๕ ข้อ ฯ

๙.     วิวาทาธิกรณ์กับอนุวาทาธิกรณ์ ต่างกันอย่างไร ?

๙.     วิวาทาธิกรณ์ คือการเถียงว่า สิ่งนั้นเป็นธรรมเป็นวินัย สิ่งนี้ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย ส่วนอนุวาทาธิกรณ์ คือการโจทกันด้วยอาบัติ ฯ

๑๐.  อธิกรณสมถะ คืออะไร ? มีกี่อย่าง ? การตัดสินตามเสียงข้างมาก  เรียกว่าอะไร ?

๑๐.  คือ ธรรมเครื่องระงับอธิกรณ์ ฯ มี  อย่าง ฯ

เรียกว่า เยภุยยสิกา ฯ

***********

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2552

 วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2552

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นตรี

สอบในสนามหลวง

วันพฤหัสบดี ที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒


๑.     พุทธบัญญัติและอภิสมาจาร คืออะไร ?  ทั้ง ๒ รวมเรียกว่าอะไร ?

๑.      พุทธบัญญญัติ  คือข้อห้ามที่พระพุทธเจ้าทรงตั้งขึ้น  เพื่อป้องกันความประพฤติเสียหาย และวางโทษแก่ภิกษุผู้ล่วงละเมิดด้วยปรับอาบัติหนักบ้าง เบาบ้าง ส่วนอภิสมาจาร คือขนบธรรมเนียมที่ทรงแต่งตั้งขึ้น เพื่อชักนำความประพฤติของภิกษุสงฆ์ให้ดีงาม ฯ ทั้ง ๒ นี้รวมเรียกว่า พระวินัย ฯ

๒.     อาบัติ คืออะไร ? อาบัติที่เป็นโลกวัชชะและที่เป็นปัณณัตติวัชชะหมายความว่าอย่างไร ?  จงยกตัวอย่างประกอบด้วย

๒.      คือ  โทษที่เกิดเพราะความละเมิดในข้อที่พระพุทธเจ้าห้าม ฯ

          อาบัติที่เป็นโลกวัชชะหมายความว่า อาบัติที่มีโทษซึ่งภิกษุทำเป็นความผิดความเสีย คนสามัญทำก็เป็นความผิดความเสียเหมือนกัน เช่น ทำโจรกรรม เป็นต้น ส่วนที่เป็นปัณณัตติวัชชะหมายความว่า อาบัติที่มีโทษเฉพาะภิกษุทำ แต่คนสามัญทำไม่เป็นความผิดความเสีย เช่น ขุดดิน เป็นต้น ฯ




๓.     สิกขากับสิกขาบท  ต่างกันอย่างไร ? อย่างไหนมีเท่าไร ? อะไรบ้าง ?

๓.      สิกขา  คือ ข้อที่ภิกษุต้องศึกษา  มี ๓  ได้แก่ สีลสิกขา จิตตสิกขา

          ปัญญาสิกขา ส่วนสิกขาบท  คือ พระบัญญัติมาตราหนึ่ง ๆ เป็นสิกขาบท

          หนึ่ง ๆ  มี ๒๒๗ สิกขาบท  ได้แก่ ปาราชิก ๔  สังฆาทิเสส ๑๓ 

          อนิยต ๒  นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐  ปาจิตตีย์ ๙๒  ปาฏิเทสนียะ ๔ 

          เสขิยะ ๗๕  และ อธิกรณสมถะ ๗ ฯ 

๔.     คำว่า  อาบัติที่ไม่มีมูล  กำหนดโดยอาการอย่างไร ?   ภิกษุโจทภิกษุด้วยอาบัติไม่มีมูลต้องอาบัติอะไร ?

๔.      กำหนดโดยอาการ ๓  คือ ไม่ได้เห็นเอง ๑  ไม่ได้ยินเอง ๑  ไม่ได้เกิด รังเกียจสงสัย ๑  ว่าภิกษุนั้นต้องอาบัติชื่อนั้น ฯ   โจทด้วยอาบัติปาราชิกต้องอาบัติสังฆาทิเสส  โจทด้วยอาบัติอื่นจากอาบัติปาราชิกต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯ

๕.     ในสิกขาบทที่ ๒ แห่งอาบัติปาราชิก  ทรัพย์เป็นเหตุให้ต้องอาบัติปาราชิก อาบัติถุลลัจจัย และอาบัติทุกกฏ มีกำหนดราคาไว้เท่าไร ?

๕.      มีกำหนดราคาไว้ดังนี้

ทรัพย์ มีราคาตั้งแต่ ๕ มาสกขึ้นไป เป็นเหตุให้ต้องอาบัติปาราชิก

ทรัพย์ มีราคาไม่ถึง ๕ มาสก แต่มากกว่า ๑ มาสก เป็นเหตุให้ต้องอาบัติถุลลัจจัย

ทรัพย์ มีราคาตั้งแต่ ๑ มาสกลงมา เป็นเหตุให้ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ



๖.     ผ้าไตรครอง  มีอะไรบ้าง ? ต่างจากอติเรกจีวรอย่างไร ?

๖.     มี  สังฆาฏิ  อุตตราสงค์  อันตรวาสก ฯ   ต่างกันอย่างนี้  ผ้าไตรครองเป็นผ้าที่ภิกษุอธิษฐาน  มีจำนวนจำกัด คือ ๓ ผืน   ส่วนอติเรกจีวร คือผ้าที่นอกเหนือจากผ้าไตรครอง  มีได้ไม่จำกัดจำนวน ฯ

๗.     พระ ก. นำเบียร์มาให้พระ ข. ดื่ม  โดยหลอกว่าเป็นน้ำอัดลม  พระ ข. หลงเชื่อจึงดื่มเข้าไป ถามว่า พระ ก. และพระ ข. ต้องอาบัติอะไรหรือไม่ ?  

๗.      พระ ก. เป็นอาบัติปาจิตตีย์เพราะพูดปด

          พระ ข. เป็นอาบัติปาจิตตีย์เพราะดื่มน้ำเมา   แม้ไม่รู้ก็ต้องอาบัติ

          เพราะสิกขาบทนี้เป็นอจิตตกะ ฯ

๘.     ภิกษุนำตั่งของสงฆ์ไปตั้งใช้ในที่แจ้ง จะหลีกไปสู่วัดอื่นต้องทำอย่างไร จึงจะไม่เป็นอาบัติ ?

๘.      ต้องเก็บด้วยตนเอง  หรือใช้ให้ผู้อื่นเก็บ หรือมอบหมายให้ผู้อื่น 

จึงจะไม่เป็นอาบัติ ฯ

๙.     ลักษณะการประเคนประกอบด้วยองค์อะไรบ้าง ?   การช่วยกันยกโต๊ะอาหารขึ้นประเคนก็ดี  การจับผ้าปูโต๊ะประเคนก็ดี   ทั้ง ๒ วิธีนี้ถูกต้องหรือไม่ ?  เพราะเหตุไร ?

๙.      ประกอบด้วยองค์ต่อไปนี้

          ๑.  ของที่จะพึงประเคนนั้นไม่ใหญ่โตหรือหนักเกินไป  พอคนปานกลาง

              ยกได้คนเดียว

๒. ผู้ประเคนเข้ามาอยู่ในหัตถบาส

๓. เขาน้อมเข้ามา

๔. กิริยาที่น้อมเข้ามาให้นั้น ด้วยกายก็ได้ ด้วยของเนื่องด้วยกายก็ได้

     ด้วยโยนให้ก็ได้

๕. ภิกษุรับด้วยกายก็ได้ ด้วยของเนื่องด้วยกายก็ได้ ฯ

     ไม่ถูกทั้ง ๒ วิธี  เพราะไม่ต้องลักษณะองค์ประเคน  คือ การช่วยกัน

     ยกโต๊ะอาหารขึ้นประเคนผิดลักษณะองค์ที่ ๑  

     การจับผ้าปูโต๊ะประเคนผิดลักษณะองค์ที่ ๓ ฯ

๑๐.   อธิกรณ์ คืออะไร ? เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องทำอย่างไร ?

๑๐.    คือ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำ ฯ  

          ต้องระงับด้วยอธิกรณสมถะอย่างใดอย่างหนึ่งตามสมควรแก่อธิกรณ์นั้น ๆ ฯ

***********

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2553





ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง

วันพุธ ที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๓

 พระวินัย ได้แก่อะไร ? สิกขาบทที่เป็นอเตกิจฉา คือที่ภิกษ แล้วไม่สามารถจะแก้ไขได้ ได้แก่อะไร ?

 ได้แก่ พระพุทธบัญญัติ และอภิสมาจาร ฯ ได้แก่ ปาราชิก ๔ ฯ

 นิสสัย  คืออะไร ?  มีเท่าไร ?  อะไรบ้าง ?

 คือ  ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิต ฯ มี ๔ อย่าง ฯ

คือ ๑. เที่ยวบิณฑบาต ๒. นุ่งห่มผ้าบังสุกุล

๓. อยู่โคนไม้ ๔. ฉันยาดองด้วยน ้ำมูตรเน่า ฯ

๓. อาบัติว่าโดยชื่อมีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?

๓. มี  ๗  อย่าง ฯ คือ  ๑. ปาราชิก ๒. สังฆาทิเสส ๓. ถุลลัจ

๔. ปาจิตตีย์ ๕. ปาฏิเทสียะ ๖. ทุกกฏ ๗. ทุพภาสิต ฯ

 ภิกษุโจทภิกษุอื่นด้วยอาบัติไม่มีมูล  เป็นอาบัติอะไรบ้าง ?

 โจทด้วยอาบัติปาราชิก เป็นอาบัติสังฆาทิเสส โจทด้วยอาบัตินอกนี้ เป็นอาบัติปาจิตตีย์ ฯ

 ไตรจีวร  มีอะไรบ้าง ? ภิกษุอยู่ปราสจากแม้คืนหนึ่ง  ต้องอาบัติ

 มี สังฆาฏิ คือผ้าคลุม อุตตราสงค์ คือผ้าห่ม และอันตรวาส ผ้านุ่ง ฯ ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์

 ภิกษุรู้อยู่ น้อมลาภที่เขาน้อมไปจะถวายสงฆ์ มาเพื่อตน เพื เพื่อเจดีย์ เพื่อสงฆ์หมู่อื่น จะเป็นอาบัติอะไรได้บ้าง ?

 น้อมมาเพื่อตน เป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ น้อมมาเพื่อบุคคลอื่น เป็นอาบัติปาจิตตีย์ น้อมมาเพื่อเจดีย์และเพื่อสงฆ์หมู่อื่น เป็นอาบัติทุกกฏ ฯ

 ภิกษุนอนในที่มุงที่บังเดียวกันกับสามเณร  จะเป็นอาบัติอะไรหร

 นอนได้ ๓ คืน  ไม่เป็นอาบัติ  เกินกว่านั้นต้องอาบัติปาจิตตีย์

 ภิกษุ ก อาพาธ ได้รับค ำแนะน ำให้ฉันอาหารในเวลาวิกาลเพื่อช่วย ป่วยเร็ว แล้วฉันตามค ำแนะน ำนั้น มีวินิจฉัยตามพระวินัยอย่

 มีวินิจฉัยว่า  ภิกษุ  ก  ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯ

 เสขิยวัตร  คืออะไร ?  แบ่งเป็นกี่หมวด ?  หมวดที่ ๒ ว่าด้วยเรื่

 คือ ธรรมเนียมหรือวัตรที่ภิกษุพึงศึกษา ฯ แบ่งเป็น ๔ หมวด ฯ ว่าด้วยเรื่อง โภชนปฏิสังยุต คือธรรมเนียมว่าด้วยเรื่องการขบฉั

๑๐. ข้อว่า เราจักรับบิณฑบาตโดยเคารพ นั้นมีอธิบายอย่างไร ?


๑๐. มีอธิบายว่า รับโดยแสดงความเอื้อเฟื้อในบุคคลผู้ให้ ไม่ดูหมิ่น ความเอื้อเฟื้อในของที่เขาให้  ไม่ท ำดังรับเอามาเล่นหรือเอามาทิ


*********