พิธีสวดมาติกาบังสุกุล
การสวดมาติกา คือ การสวดบทมาติกาของพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ มีชื่อเรียก
อีกอย่างว่า สัตตัปปกรณาภิธรรม เป็นประเพณีนิยมในการทาบุญหน้าศพอย่างหนึ่ง เรียกว่า
สวดมาติกา การสวดมาติกาในพิธีบาเพ็ญพระกุศลศพ พระบรมวงศ์ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป
เรียกว่า สดับปกรณ์ โดยมากเป็นพิธีช่วงบ่าย ก่อนพิธีฌาปนกิจศพหรือพระราชทานเพลิงศพ
พิธีสวดมาติกาไม่มีกาหนดตายตัวว่า ต้องนิมนต์พระสงฆ์จานวนเท่าไร ส่วนใหญ่
จะนิมนต์เท่าอายุของผู้ตาย หรือหรือเท่าจานวนพระสงฆ์ในวัด แต่ในเมืองนิยม ๑๐ รูป
เหมือนพิธีหลวง การสวดมาติกาก็ดี การสวดพระอภิธรรมก็ดี ตามธรรมเนียมโบราณไม่มี
การอาราธนาธรรมและพิธีหลวงก็ไม่มีการอาราธนาธรรมเช่นกัน ควรทราบระเบียบพิธีปฏิบัติ
ดังนี้
การสวดมาติกาต่อจากสวดพระพุทธมนต์หรือแสดงพระธรรมเทศนา ไม่ต้องจุดธูป
เทียน และไม่ต้องอาราธนาศีล เพราะได้ปฏิบัติต่อเนื่องมาก่อนแล้ว ถ้าเว้นช่วงเวลา จัดพิธี
มาติกาเป็นส่วนหนึ่งต่างหาก จึงเริ่มต้นด้วยเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยอาราธนา
ศีล รับศีลแล้ว พระสงฆ์ขึ้นต้นบท นะโม ต่อด้วยบท กุสะลา ธัมมา จบด้วยบท เหตุปัจจะโยทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา ยะถา สัพพี ต่อด้วยบท อะทาสิ เม
จบด้วยบท ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธี
กรณีเจ้าภาพนิมนต์พระสงฆ์จานวนมาก ต้องจัดพระสงฆ์เป็นชุด เมื่อพิธีกรเก็บ
ภูษาโยง และพระสงฆ์ชุดแรกลงจากอาสน์สงฆ์แล้ว นิมนต์พระสงฆ์ชุดที่ ๒ ขึ้นสู่อาสน์สงฆ์
ไม่ต้องสวดมาติกาอีก พิธีกรลาดภูษาโยงให้เจ้าภาพทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์พิจารณาผ้า
บังสุกุลอย่างเดียวไม่ต้องอนุโมทนา ปฏิบัติเช่นนี้จนหมดพระสงฆ์ที่อาราธนามา
การสวดมาติกาในพิธีหลวงต่างจากพิธีฌาปนกิจศพของคนทั่วไป กล่าวคือ งานศพ
ได้รับพระบรมราชานุเคราะห์ พระสงฆ์ต้องใช้พัดยศและในเวลาอนุโมทนา ต้องถวายอดิเรก
คือ บทถวายพระพรเป็นพิเศษแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พิธีทาบุญงานฌาปนกิจศพ
เจ้าภาพตั้งศพบาเพ็ญกุศลตามวันที่กาหนดแล้ว ส่วนใหญ่จะทาพิธีฌาปนกิจศพตาม
ธรรมเนียมชาวพุทธ การจัดงานฌาปนกิจศพ นิยมจัดงานเป็น ๒ เวลา คือ ภาคเช้ากับภาคบ่าย
มีระเบียบพิธีควรทราบ ดังนี้
ภาคเช้า เมื่อได้เวลาตามกาหนดแล้ว ประธานหรือเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชา
พระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยเคารพศพ อาราธนาศีล รับศีล อาราธนาพระปริตร
พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ จบแล้วถวายภัตตาหารเพล ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ทอดผ้า
บังสุกุล พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศกุศลให้แก่ผู้ตาย
เป็นอันเสร็จพิธี
หนังสือนักธรรมชั้นตรี,นักธรรมตรีpdf,นักธรรมตรี,สรุปนักธรรมตรี,ข้อสอบนักธรรมตรี,เก็งข้อสอบนักธรรมตรี
- หน้าแรก
- พุทธประวัติ
- ธรรมวิภาค
- เบญจศีล-เบญจธรรม
- แบบกระทู้ธรรมชั้นตรี
- แบบกระทู้ธรรมชั้นโท
- แบบกระทู้ธรรมชั้นเอก
- หมวด พุทธศาสนสุภาษิต
- อนุพุทธประวัติชั้นโท
- ดาวโหลดหนังสือธรรมศึกษาชั้นตรี โท เอก
- Download ข้อสอบนักธรรมและธรรมศึกษา ปี 2559-2563
- ประวัตินักธรรม-ธรรมศึกษา โดยสังเขป
- ขอบข่ายการเรียนการสอนธรรมศึกษา 2561
- ขอบข่ายธรรมศึกษา ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
- ข้อสอบนักธรรมตรี-โท-เอก[ย้อนหลัง]
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
พิธีบาเพ็ญกุศล ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน
พิธีบาเพ็ญกุศล ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน
การทาบุญอุทิศให้ผู้ตายมีตลอดการตั้งศพบาเพ็ญกุศล พิธีทาบุญให้ผู้ตายหลังจาก
ตายได้ ๗ วัน เรียกว่า สัตตมวาร พิธีทาบุญให้ผู้ตายหลังจากตายได้ ๕๐ วัน เรียกว่า ปัญญา
สมวาร พิธีทาบุญให้คนตายหลังจากตายได้ ๑๐๐ วัน เรียกว่า สตมวาร การบาเพ็ญกุศลตาม
วันดังกล่าว มีระเบียบวิธีปฏิบัติเหมือนงานทาบุญทั่วไป มีความต่างกันอยู่บ้าง คือ ไม่ต้องวง
สายสิญจน์และไม่ต้องตั้งขันน้ามนต์ในการสวดมนต์ เมื่อพิธีกรอาราธนาพระปริตรแล้ว
พระสงฆ์ไม่ต้องชุมนุมเทวดาหรือขัดสัคเค สวดพระพุทธมนต์ต่อเลย จบแล้วถวายภัตตาหาร
พระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุล
และอนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธี
บทสวดมนต์ในพิธีบาเพ็ญกุศลให้ผู้วายชนม์ ๗ วัน สมัยโบราณนิยมสวดอนัตต-
ลักขณสูตร ๕๐ วัน สวดอาทิตตปริยายสูตร ๑๐๐ วัน สวดธัมมนิยามสูตร แต่ในยุคปัจจุบัน
พระสงฆ์ส่วนใหญ่จะสวดธรรมนิยามสูตรทุกงาน ยกเว้นงานเจ้าภาพนิมนต์ระบุพระสูตรให้สวด แต่มีธรรมเนียมว่า ไม่สวดเจ็ดตานาน สิบสองตานาน ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และ
มหาสมัยสูตร ในงานทาบุญเกี่ยวข้องด้วยคนตายไปสู่สัมปรายภพแล้ว
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศลในวันดังกล่าว ถือเป็นวันสาคัญในการทาบุญอุทิศให้แก่ผู้ตาย
ดังนั้น จึงนิยมทากันโดยทั่วไป การกาหนดวันจัดงานให้นับวันตายเป็นหลัก คือ ตายลงวันไหน
ให้ถือวันนั้นเป็นวันสาคัญในการอุทิศผลบุญเป็นกรณีพิเศษ เช่น ตายวันอาทิตย์ ถ้าจัดงาน
๒ วัน นิยมนิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ในวันเสาร์ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ใน
วันอาทิตย์ กรณีทาบุญวันเดียว พิธีสวดพระพุทธมนต์และการถวายภัตตาหารพระสงฆ์ นิยม
ทาในวันอาทิตย์ ซึ่งตรงกับวันตายของผู้วายชนม์
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศล ๒ วัน ในวันแรก นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ แสดง
พระธรรมเทศนาพระสงฆ์ ๔ รูป สวดรับเทศน์ พิจารณาผ้าบังสุกุล ตกกลางคืนพระสงฆ์สวด
พระอภิธรรม ในวันรุ่งขึ้นพระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ในวันแรก สวดถวายพรพระ ฉันภัตตาหาร
เรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา
เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศกุศลให้แก่ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศลวันเดียว นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ แสดงพระธรรม
เทศนา ถวายภัตตาหารเพล หลังจากพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพถวาย
เครื่องไทยธรรม ทอดผ้าบังสุกุล (ถ้ามี) พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าภาพ
กรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี
การทาบุญอุทิศให้ผู้ตายมีตลอดการตั้งศพบาเพ็ญกุศล พิธีทาบุญให้ผู้ตายหลังจาก
ตายได้ ๗ วัน เรียกว่า สัตตมวาร พิธีทาบุญให้ผู้ตายหลังจากตายได้ ๕๐ วัน เรียกว่า ปัญญา
สมวาร พิธีทาบุญให้คนตายหลังจากตายได้ ๑๐๐ วัน เรียกว่า สตมวาร การบาเพ็ญกุศลตาม
วันดังกล่าว มีระเบียบวิธีปฏิบัติเหมือนงานทาบุญทั่วไป มีความต่างกันอยู่บ้าง คือ ไม่ต้องวง
สายสิญจน์และไม่ต้องตั้งขันน้ามนต์ในการสวดมนต์ เมื่อพิธีกรอาราธนาพระปริตรแล้ว
พระสงฆ์ไม่ต้องชุมนุมเทวดาหรือขัดสัคเค สวดพระพุทธมนต์ต่อเลย จบแล้วถวายภัตตาหาร
พระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุล
และอนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธี
บทสวดมนต์ในพิธีบาเพ็ญกุศลให้ผู้วายชนม์ ๗ วัน สมัยโบราณนิยมสวดอนัตต-
ลักขณสูตร ๕๐ วัน สวดอาทิตตปริยายสูตร ๑๐๐ วัน สวดธัมมนิยามสูตร แต่ในยุคปัจจุบัน
พระสงฆ์ส่วนใหญ่จะสวดธรรมนิยามสูตรทุกงาน ยกเว้นงานเจ้าภาพนิมนต์ระบุพระสูตรให้สวด แต่มีธรรมเนียมว่า ไม่สวดเจ็ดตานาน สิบสองตานาน ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และ
มหาสมัยสูตร ในงานทาบุญเกี่ยวข้องด้วยคนตายไปสู่สัมปรายภพแล้ว
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศลในวันดังกล่าว ถือเป็นวันสาคัญในการทาบุญอุทิศให้แก่ผู้ตาย
ดังนั้น จึงนิยมทากันโดยทั่วไป การกาหนดวันจัดงานให้นับวันตายเป็นหลัก คือ ตายลงวันไหน
ให้ถือวันนั้นเป็นวันสาคัญในการอุทิศผลบุญเป็นกรณีพิเศษ เช่น ตายวันอาทิตย์ ถ้าจัดงาน
๒ วัน นิยมนิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ในวันเสาร์ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ใน
วันอาทิตย์ กรณีทาบุญวันเดียว พิธีสวดพระพุทธมนต์และการถวายภัตตาหารพระสงฆ์ นิยม
ทาในวันอาทิตย์ ซึ่งตรงกับวันตายของผู้วายชนม์
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศล ๒ วัน ในวันแรก นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ แสดง
พระธรรมเทศนาพระสงฆ์ ๔ รูป สวดรับเทศน์ พิจารณาผ้าบังสุกุล ตกกลางคืนพระสงฆ์สวด
พระอภิธรรม ในวันรุ่งขึ้นพระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ในวันแรก สวดถวายพรพระ ฉันภัตตาหาร
เรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา
เจ้าภาพกรวดน้าอุทิศกุศลให้แก่ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี
การจัดพิธีบาเพ็ญกุศลวันเดียว นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ แสดงพระธรรม
เทศนา ถวายภัตตาหารเพล หลังจากพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพถวาย
เครื่องไทยธรรม ทอดผ้าบังสุกุล (ถ้ามี) พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าภาพ
กรวดน้าอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธี
พิธีสวดพระอภิธรรมศพ
พิธีสวดพระอภิธรรมศพ
การบาเพ็ญกุศลศพ นิยมจัด ๓ คืน ๕ คืน ๗ คืน หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความ
พร้อมของเจ้าภาพ แต่ละคืนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม ญาติเป็นเจ้าภาพบ้าง คนอื่นรับเป็น
เจ้าภาพบ้าง เมื่อถึงเวลาตามกาหนด ประธานหรือเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
จุดเครื่องสักการบูชาหน้าตู้พระอภิธรรม จุดเครื่องทองน้อยหน้าศพ หันพุ่มดอกไม้เข้าหาศพ
จุดเครื่องทองน้อยอีกชุดหนึ่ง หันพุ่มดอกไม้ออกด้านนอก สาหรับให้ผู้วายชนม์บูชาพระธรรม
ถ้าเป็นศพคฤหัสถ์หรือฆราวาสจะจุดในคราวเดียวกัน ถ้าเป็นศพพระสงฆ์ จะเชิญประธาน
หรือเจ้าภาพจุดเครื่องทองน้อยหน้าศพ ประธานหรือเจ้าภาพนั่งประจาที่แล้ว อาราธนาศีล
ประธานสงฆ์ให้ศีลจบ พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมประจาคืน การสวดพระอภิธรรมพิธีกร
ไม่ต้องอาราธนาธรรมเพราะการอาราธนาธรรม ถือเป็นการอาราธนาพระสงฆ์แสดงพระธรรม
เทศนา หรือเทศน์ มิใช่เป็นการอาราธนาพระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ส่วนภูมิภาคนิยม
อาราธนาธรรมด้วย เมื่อพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมจบ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ทอดผ้า
บังสุกุล พระสงฆ์พิจารณา ผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา ประธานหรือเจ้าภาพกรวดน้าอุทิศกุศล
ให้ผู้ตาย กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธีสวดพระอภิธรรมประจาคืน
การบาเพ็ญกุศลศพ นิยมจัด ๓ คืน ๕ คืน ๗ คืน หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความ
พร้อมของเจ้าภาพ แต่ละคืนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม ญาติเป็นเจ้าภาพบ้าง คนอื่นรับเป็น
เจ้าภาพบ้าง เมื่อถึงเวลาตามกาหนด ประธานหรือเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
จุดเครื่องสักการบูชาหน้าตู้พระอภิธรรม จุดเครื่องทองน้อยหน้าศพ หันพุ่มดอกไม้เข้าหาศพ
จุดเครื่องทองน้อยอีกชุดหนึ่ง หันพุ่มดอกไม้ออกด้านนอก สาหรับให้ผู้วายชนม์บูชาพระธรรม
ถ้าเป็นศพคฤหัสถ์หรือฆราวาสจะจุดในคราวเดียวกัน ถ้าเป็นศพพระสงฆ์ จะเชิญประธาน
หรือเจ้าภาพจุดเครื่องทองน้อยหน้าศพ ประธานหรือเจ้าภาพนั่งประจาที่แล้ว อาราธนาศีล
ประธานสงฆ์ให้ศีลจบ พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมประจาคืน การสวดพระอภิธรรมพิธีกร
ไม่ต้องอาราธนาธรรมเพราะการอาราธนาธรรม ถือเป็นการอาราธนาพระสงฆ์แสดงพระธรรม
เทศนา หรือเทศน์ มิใช่เป็นการอาราธนาพระสงฆ์สวดพระอภิธรรม ส่วนภูมิภาคนิยม
อาราธนาธรรมด้วย เมื่อพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมจบ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ทอดผ้า
บังสุกุล พระสงฆ์พิจารณา ผ้าบังสุกุลและอนุโมทนา ประธานหรือเจ้าภาพกรวดน้าอุทิศกุศล
ให้ผู้ตาย กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธีสวดพระอภิธรรมประจาคืน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)