วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

พิธีบาเพ็ญพระราชกุศลวันเข้าพรรษา

พิธีบาเพ็ญพระราชกุศลวันเข้าพรรษา
ในวันแรม ๑ ค่า เดือน ๘ ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา มีหมายกาหนดการบาเพ็ญพระราชกุศล
พอสรุปได้ ดังนี้เวลาเช้า ประมาณ ๐๗.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิธี กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา
นิมนต์พระสงฆ์จานวน ๑๕๐ รูป เข้ารับพระราชทานอาหารบิณฑบาตของหลวง ณ บริเวณ
พระวิหารคด วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง
ครั้นเวลาบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดาเนินไปยังพระอุโบสถ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จขึ้นไปหลังบุษบก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณี-
รัตนปฏิมากร ทรงประกอบพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จากเครื่องทรง
ฤดูร้อนเป็นเครื่องทรงฤดูฝน และทรงถอดยอดพระรัศมีพระสัมพุทธพรรณีประจาฤดูร้อน
ออก ทรงเปลี่ยนส่วนยอดพระรัศมีประจาฤดูฝนถวาย (พระสัมพุทธพรรณี ประดิษฐานอยู่
หน้าบุษบก ที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร) ทรงพระสุหร่าย ทรงวางกระทง
ดอกไม้และจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการตามที่กล่าวแล้วข้างต้น ทรงรับพระมหาสังข์เพชรน้อย
บรรจุน้าที่ซับองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร สรงพระเศียร เสด็จไปทรงสุหร่ายน้า
พระพุทธมนต์แก่ข้าราชการที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในพระอุโบสถ หลังพราหมณ์เบิกแว่น
เวียนเทียน ๓ รอบแล้ว เสด็จพระราชดาเนินออกจากพระอุโบสถ ทรงพระสุหร่ายน้า
พระพุทธมนต์แก่ประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จ ฯ บริเวณลานพระอุโบสถ สองข้างทางเสด็จ
พระราชดาเนิน จากนั้น เสด็จไปวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงถวายพุ่มเทียนพรรษาเป็นพุทธบูชา
ณ พระอุโบสถ เป็นอันเสร็จพระราชพิธี
อนึ่ง ในพระอารามหลวงสาคัญอื่น ๆ เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ผู้แทนพระองค์ไปถวายพุ่ม
เทียนพรรษาอีกส่วนหนึ่ง

พิธีบาเพ็ญกุศลในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา

พิธีบาเพ็ญกุศลในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา
ทุกศาสนาล้วนมีวันสาคัญ เพื่อระลึกเหตุการณ์สาคัญที่เคยเกิดขึ้นแก่ศาสดา ผู้ก่อตั้ง
และเกี่ยวเนื่องในพิธีกรรมหรือกิจกรรมที่เหล่าศาสนิกชนของศาสนานั้น ๆ จัดขึ้นในโอกาสต่าง ๆ
พระพุทธศาสนาก็เช่นเดียวกัน มีวันสาคัญที่กาหนดขึ้นสาหรับให้พุทธศาสนิกชน
ปฏิบัติ เพื่อน้อมราลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยและบาเพ็ญกุศลเป็นกรณีพิเศษด้วยอามิสบูชา
และปฏิบัติบูชา วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา พอสรุปได้ ดังนี้
๑. วันเข้าพรรษา
๒. วันออกพรรษา
๓. วันเทโวโรหณะ
๔. วันธรรมสวนะ (วันพระ)
วันเข้าพรรษา
คาว่า พรรษา มาจากศัพท์บาลีว่า วสฺส ศัพท์สันสกฤตว่า วรฺษ แปลว่า ฝนหรือฤดูฝน
ภาษาไทยใช้ศัพท์ สันสกฤต แผลงเป็น พรรษา การเข้าพรรษาหรือจาพรรษา หมายถึง การที่
พระภิกษุสงฆ์อธิษฐานจิตอยู่ประจาในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งในฤดูฝน โดยจะไม่ไปค้างแรม
ในที่อื่น พิธีเข้าพรรษา จึงเป็นข้อปฏิบัติของพระสงฆ์โดยตรง จะต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติ
ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติเป็นการเฉพาะสาหรับพระสงฆ์สาวก โดยกาหนดให้ทาพิธีอธิษฐาน
เข้าพรรษาในวันแรม ๑ ค่า เดือน ๘ ของทุกปี หรือเดือน ๘ หลัง ในปีที่มีเดือน ๘ สองหน
เป็นวันสาคัญต่อเนื่องจากวันอาสาฬหบูชา ในส่วนที่เป็นงานพระราชพิธี ได้รวมวันสาคัญ
ทั้ง ๒ เข้าเป็นพระราชพิธีเดียวกัน เรียกว่า พระราชพิธีทรงบาเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวัน
อาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา ทางราชการกาหนดให้เป็นวันหยุดราชการประจาปี

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ประโยชน์ของศาสนพิธี ธรรมศึกษาชั้นโท ระดับอุดมศึกษา (ธศ 323) ชั้นโท

ประโยชน์ของศาสนพิธี
ศาสนพิธี แม้จะได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็นเพียงเปลือกหรือกระพี้ของศาสนาก็ตาม
แต่ศาสนพิธีที่ปฏิบัติได้ถูกต้อง เรียบร้อย มีประโยชน์ทั้งแก่ศาสนาและผู้ปฏิบัติ คือ
๑. ทาให้พิธีมีความถูกต้องเรียบร้อยงดงาม สาเร็จประโยชน์ตามวัตถุประสงค์
๒. เพิ่มความศรัทธาปสาทะ ความเชื่อความเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็น
๓. เป็นเครื่องแสดงเกียรติยศของเจ้าภาพและผู้ร่วมพิธี
๔. เป็นการรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของชาติไว้