วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วิราคะ ความสิ้นกำหนัด ธรรมศึกษา วิชา ธรรม ระดับอุดมศึกษา (ธศ 332) ชั้นเอก

วิราคะ ความสิ้นกาหนัด หมำยถึงภำวะที่จิตปรำศจำกควำมกำหนัดยินดีในกำม
ควำมสำรอกจิตจำกกิเลสกำม หรือสภำวธรรมใดๆ ที่เป็นไปเพื่อควำมสิ้นกำหนัด หำยรัก
หำยอยำกในกำมสุขทั้งปวง
ไวพจน์แห่งวิราคะ ๘ อย่าง
ในอัคคัปปสำทสูตร อังคุตตรนิกำย จตุกกนิบำต พระพุทธองค์ทรงแสดงวิรำคะว่ำ
เป็นยอดแห่งธรรมทั้งปวง ทั้งที่เป็นสังขตธรรมและอสังขตธรรม แล้วทรงแจกไวพจน์แห่ง
วิราคะ คากาหนดใช้เรียกแทนวิราคะ เป็น ๘ อย่าง คือ
๑. มทนิมฺมทโน ธรรมยังควำมเมำให้สร่ำง
๒. ปิปาสวินโย ธรรมนำเสียซึ่งควำมระหำย
๓. อาลยสมุคฺฆาโต ควำมถอนขึ้นด้วยดีซึ่งอำลัย
๔. ควำมเข้ำไปตัดเสียซึ่งวัฏฏะ
๕. ตณฺหกฺขโย ควำมสิ้นตัณหำ
๖. วิราโค ควำมสิ้นกำหนัด
๗. นิโรโธ ควำมดับ
๘. นิพฺพานํ ธรรมชำติหำเครื่องเสียบแทงมิได้
       วิราคะ ที่มำในลำดับแห่งนิพพิทำ ตำมอุทเทสว่ำ “นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ : เมื่อเบื่อ
หน่าย ย่อมสิ้นกาหนัด” จัดเป็นอริยมรรค คือญำณอันให้สำเร็จควำมเป็นพระอริยะ
มี ๔ อย่ำง คือ โสดำปัตติมรรค สกทำคำมิมรรค อนำคำมิมรรค และอรหัตตมรรค
วิรำคะในอุทเทสว่ำ วิราโค เสฏโฐ ธมฺมานํ : วิราคะ เป็นประเสริฐแห่งธรรมทั้งหลาย
เป็นไวพจน์ของนิพพำน ส่วนวิรำคะ ที่แปลว่ำ สิ้นกาหนัด ในอุทเทสแห่งวิมุตติที่ว่ำ วิราคา
วิมุจฺจติ : เพราะสิ้นกาหนัด ย่อมหลุดพ้น เป็นชื่อของอริยมรรค
วิราคะ เป็นได้ทั้งอริยมรรคและอริยผล คือ ถ้ำมำหรือปรำกฏในลำดับแห่งนิพพิทำ

หรือมำคู่กับวิมุตติ จัดเป็นอริยมรรค ถ้ำมำตำมลำพัง จัดเป็นอริยผล

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หมวด ๑๐ ธรรมศึกษา วิชา ธรรม ระดับอุดมศึกษา (ธศ 322) ชั้นโท

บารมี ๑๐
๑. ทาน การให้ การเสียสละ
๒. สีล การรักษากาย วาจา ให้เรียบร้อย
๓. เนกขัมมะ การออกบวช การปลีกตนออกจากกาม
๔. ปัญญา ความรอบรู้ ความหยั่งรู้เหตุผล เข้าใจสภาวธรรมทั้งหลาย
ตามความเป็นจริง
๕. วิริยะ ความเพียร ความแกล้วกล้า ไม่เกรงกลัวอุปสรรค
ก้าวหน้าเรื่อยไปไม่ทอดธุระ
๖. ขันติ ความอดทนอดกลั้น สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตน
ให้อยู่ในอำนาจเหตุผล ไม่ลุอำนาจกิเลส
๗. สัจจะ ความสัตย์ความจริง มีความตั้งใจจริง คือ พูดจริง ทำจริง
และจริงใจ
๘. อธิษฐาน ความตั้งใจมั่น วางจุดมุ่งหมายไว้แน่นอน แล้วทำไปตามนั้น
อย่างแน่วแน่
๙. เมตตา ความรักใคร่ปรารถนาดี มีจิตเกื้อกูลต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
ให้มีสุขทั่วหน้ากัน
๑๐. อุเบกขา ความวางใจเป็นกลาง ไม่เอนเอียงไปเพราะความรัก ความชัง
ความหลง และความกลัว มีความเที่ยงธรรม

บารมี แปลว่า คุณสมบัติ หรือปฏิปทาอันยวดยิ่ง หมำยถึง คุณธรรมที่ประพฤติ
ปฏิบัติอย่ำงยิ่งยวด หรือควำมดีที่บำเพ็ญอย่ำงพิเศษ เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมำยอันสูงสุด หรือปฏิปทำส่งให้บรรลุถึงฝั่ง คือ นิพพำน ควำมเป็นพระพุทธเจ้ำ ควำมเป็นพระมหำสำวก
เป็นต้น ต้องบำเพ็ญบำรมีมำทั้งนั้น พระสัมมำสัมพุทธเจ้ำทุกพระองค์ ได้ทรงบำเพ็ญมำตั้งแต่
ครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ เมื่อบำรมีเหล่ำนี้เต็มแล้วจึงได้ตรัสรู้
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
บุญกิริยาวัตถุ คือสิ่งเป็นที่ตั้งแห่งการบำเพ็ญบุญ มี ๑๐ อย่าง คือ
๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยการประพฤติถ่อมตนแก่ผู้ใหญ่
๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวายในกิจที่ชอบ

๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม
๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม

๑๐. ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความเห็นให้ตรง
บุญ แปลว่ำ สิ่งที่ชำระจิตสันดำนให้หมดจด ได้แก่ ควำมดี, ควำมถูกต้อง, ควำม
สะอำด บุญกิริยาวัตถุ แปลว่ำ เหตุเป็นที่ตั้งแห่งกำรทำบุญ, หลักกำรทำควำมดี, หรือ
วิธีกำรทำควำมดี เมื่อทำแล้วจะได้รับผล คือควำมสุข โดยย่อมี ๓ อย่ำง คือ ทำนมัย สีลมัย

และภำวนำมัย แต่โดยพิสดำรมี ๑๐ อย่ำง

หมวด ๙ ธรรมศึกษา วิชา ธรรม ระดับอุดมศึกษา (ธศ 322) ชั้นโท

พุทธคุณ ๙
อิติปิ โส ภควา แม้เพรำะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภำคเจ้ำนั้น
๑. อรหํ เป็นพระอรหันต์
๒. สมฺมาสมฺพุทฺโธ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
๓. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชำและจรณะ
๔. สุคโต เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว
๕. โลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก
๖. อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ เป็นสำรถีแห่งบุรุษพึงฝึกได้ ไม่มีบุรุษอื่น
ยิ่งไปกว่ำ
๗. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นศำสดำ คือครู ของเทวดำและมนุษย์
ทั้งหลำย
๘. พุทฺโธ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบำนแล้ว
๙. ภควา เป็นผู้มีโชค
พุทธคุณ แปลว่ำ คุณของพระพุทธเจ้ำ หมำยถึง พระสัมมำสัมพุทธเจ้ำได้รับกำรยก
ย่องสรรเสริญจำก มนุษย์ เทวดำ มำร พรหม ด้วยพระคุณ ๙ ประกำร เรียกว่ำ นวำรหำทิคุณ
หรือนวหรคุณ แปลว่ำ คุณของพระพุทธเจ้ำ ๙ ประกำร มี อรห เป็นต้น แปลว่ำ คุณของ

พระพุทธเจ้ำผู้เป็นพระอรหันต์ ๙ ประกำร
สังฆคุณ ๙
ภควโต สาวกสงฺโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
๑. สุปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว
๒. อุชุปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว
๓. ายปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม
๔. สามีจิปฏิปนฺโน เป็นผู้ปฏิบัติสมควร
ยทิทํ นี้คือใคร
จตฺตาริ ปุริสยุคานิ คู่แห่งบุรุษ ๔
อฏฐปุริสปุคฺคลา บุรุษบุคคล ๘
เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
๕. อาหุเนยฺโย เป็นผู้ควรของคำนับ
๖. ปาหุเนยฺโย เป็นผู้ควรของต้อนรับ
๗. ทกฺขิเณยฺโย เป็นผู้ควรของทำบุญ
๘. อญฺชลิกรณีโย เป็นผู้ควรทำอัญชลี
(ประนมมือไหว้)
๙. อนุตฺตรํ ปุญฺ กฺเขตฺตํ โลกสฺส เป็นนาบุญของโลก

ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
สังฆคุณ แปลว่ำ คุณของพระสงฆ์ หมำยควำมว่ำ ควำมดีที่มีอยู่ในพระสงฆ์สำวก
ของพระผู้มีพระภำคเจ้ำ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ เป็นอริยบุคคล คือ บุคคลผู้ปรำศจำกกิเลส
ดุจข้ำศึก ๔ คู่ ๘ ประเภท (คู่ที่ ๑ ผู้ดำรงอยู่ในโสดำปัตติมรรค และในโสดำปัตติผล,
คู่ที่ ๒ ผู้ดำรงอยู่ในสกทำคำมิมรรค และในสกทำมิผล, คู่ที่ ๓ ผู้ดำรงอยู่ในอนำคำมิมรรค

และในอนำคำมิผล, คู่ที่ ๔ ผู้ดำรงอยู่ในอรหัตตมรรคและในอรหัตตผล) มี ๙ ประกำร