วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บทที่ ๗ ส่งสาวกไปประกาศศาสนา

บทที่  ๗  ส่งสาวกไปประกาศศาสนา
•   ยสกุลบุตร  เป็นบุตรของมหาเศรษฐี   มารดาชื่อว่าสุชาดา  ในกรุงพาราณสี  แคว้นกาสี
•   เบื่อหน่ายในชีวิตเปล่งอุทานว่า ที่นี่วุ่นวายหนอ    ที่นี่ขัดข้องหนอ
•   พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมเทศนาชื่อ  อนุปุพพิกถา”  แก่ยสะเป็นคนแรก
•  อนุปุพพิกถา”  คือ  วาจาปรารภธรรมที่พึงพรรณนาโดยลำดับมี  ๕ ประการ
๑.  ทาน   การให้ปันสิ่งของๆ ตนแก่ผู้อื่น            
๒.  ศีล    การรักษากาย  วาจาให้เรียบร้อย
๓.  สัคคะ  สวรรค์อันบุคคลพึงได้ด้วยทานและศีล  
๔.  กามาทีนพ    โทษของกาม  ซึ่งมีแต่ความทุกข์  ความวุ่นวายไม่สงบ                            
๕.  เนกขัมมะ    อานิสงส์แห่งการออกบวช
•   ทรงแสดงสามุกกังสิกเทศนา  คือ  อริยสัจ ๔ ปิดท้าย   * ยสะได้ดวงตาเห็นธรรม คือ บรรลุโสดาปัตติผล
•   พ่อของยสะฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๔  บรรลุพระโสดาบันแสดงตนเป็นอุบาสกขอถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิตนับว่าเป็นอุบาสกคนแรกที่ถึงพระรัตนตรัย  เรียกว่า  เตวาจิกอุบาสก
•   ยสกุลบุตรสำเร็จพระอรหัตผลด้วยการฟังธรรมซ้ำเป็นครั้งที่สอง  และทูลขอบรรพชาอุปสมบท
•   พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้เป็นพระภิกษุด้วยพระดำรัสว่าเธอจงเป็นภิกษุมาเถิด  ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว  เธอจงประพฤติพรหมจรรย์
•   มารดาและภรรยาเก่าของพระยสะเป็นพระโสดาบันด้วยการฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจ๔และแสดงตนเป็นอุบาสิกาขอถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิต เรียกว่า เตวาจิกอุบาสกา
•   เพื่อนสนิทพระยสะบวชตาม ๔ คน คือ วิมล   สุพาหุ  ปุณณชิ  ควัมปติ  และสหายพระยสะอีก  ๕๐  คน
•   ส่งสาวกออกประกาศพระศาสนา  พระพุทธองค์ส่งภิกษุทั้ง ๖๐ องค์  ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังต่างถิ่น ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและอริยสัจแก่ภัททวัคคีย์  ๓๐ คน  และส่งไปประกาศที่เมือง ปาวา
•   โปรดชฏิล  ๓  พี่น้อง  ที่ตำบลอุรุเวลา  แขวงเมืองราชคฤห์  ซึ่งอาศัยริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตามลำดับ  คือ  พี่ชายใหญ่ชื่ออุรุเวลกัสสปะมีบริวาร  ๕๐๐ ตั้งอาศรมอยู่ตำบลอุรุเวลา  น้องชายกลาง ชื่อนทีกัสสปะ มีบริวาร ๓๐๐  ตั้งอาศรมอยู่ตำบลนที  น้องชายเล็กชื่อคยากัสสปะ  มีบริวาร ๒๐๐  ตั้งอาศรมอยู่ตำบลคยา
•   แสดงอาทิตตปริยายสูตรที่ตำบลคยาสีสะ
•   ใจความโดยย่อ อายตนะภายนอก กระทบกับอายตนะภายในแล้วเกิดเป็นของร้อนด้วยราคะ โทสะ โมหะ ไม่ควรยึดติดกับสิ่งนั้นๆ
•  โปรดพระเจ้าพิมพิสารที่สวนลัฏฐิวัน  หรือสวนตาลหนุ่ม  มีข้าราชบริพาร ๑๒ นหุต ( ๑๒ หมื่น) แวดล้อม
•   ทั้งหมดฟังธรรมจากพระศาสดาด้วยอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๑๑ นหุต ตั้งอยู่ในโสดาบัน ๑ นหุตตั้งอยู่ในไตรสรณคมน์
•   ความปรารถนาของพระเจ้าพิมพิสาร ๕ ประการและสำเร็จดังประสงค์
๑. ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งแคว้นมคธนี้     
๒. ขอให้พระอรหันต์ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ เสด็จมายังแว่นแคว้นมคธนี้
๓. ขอให้ข้าพเจ้า ได้เข้าไปนั่งใกล้พระอรหันต์พระองค์นั้น
๔.  ขอให้พระอรหันต์  แสดงธรรมแก่ข้าพเจ้า
๕.  ขอให้ข้าพเจ้า  รู้ทั่วถึงธรรมของพระอรหันต์นั้น
•   พระเจ้าพิมพิสารถวายเวฬุวนาราม   ด้วยการหลั่งน้ำทักษิโณทกให้ตกลงบนพระหัตถ์ของพระศาสดา
•   พระเวฬุวนารามเป็นวัดแรกในพระพุทธศาสนา

บทที่ ๖ เสวยวิมุตติสุขและปฐมเทศนา

บทที่   ๖  เสวยวิมุตติสุขและปฐมเทศนา
•   สัตตมหาสถาน  คือสถานที่สำคัญ  ๗ แห่ง  ได้แก่สถานที่เคยเสวยวิมุตติสุข  เป็นเวลา ๗ สัปดาห์ ๔๙ วัน
 สัปดาห์ที่ ๑ ประทับบนรัตนบัลลังค์ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์  ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท
 สัปดาห์ที่ ๒ ทรงประทับยืนจ้องพระเนตรดูต้นพระศรีมหาโพธิ์ 
โดยมิได้กระพริบพระเนตรตลอด ๗ วัน สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่า อนิมิสเจดีย์
 สัปดาห์ที่ ๓  พระองค์ทรงเนรมิตที่จงกรมระหว่าง อนิมิสเจดีย์กับต้นพระศรีมหาโพธิ์
แล้วเสด็จจงกรม  ณ  ที่นั้น  ตลอด ๗ วัน  สถานที่นี้เรียกว่า  รัตนจงกรมเจดีย์
สัปดาห์ที่ ๔ พระองค์ทรงนั่งขัดสมาธิในเรือนแก้ว
ซึ่งเทวดาเนรมิตถวาย ทรงพิจารณาพระอภิธรรมตลอด ๗ วัน สถานที่นั้นได้ชื่อว่ารัตนฆรเจดีย์
สัปดาห์ที่  ๕  ทรงประทับใต้ร่มไม้  อชปาลนิโครธ (ต้นไทร)
- พบพราหมณ์ที่ชอบตวาดว่า หึ หึ 
- ทรงขับธิดามารทั้ง ๓ คือ นางตัณหา นางราคา นางอรดี
สัปดาห์ที่  ๖  ทรงประทับใต้ร่มไม้  มุจลินท์ (ไม้จิก
- มีฝนตกพรำเจือลมหนาวตลอด ๗ วัน  มีพญานาคชื่อว่ามุจลินท์  ขนดหางเป็น ๗ รอบ แผ่พังพานปรกพระองค์ เพื่อไม่ให้ลมและฝนถูกต้องพระองค์
สัปดาห์ที่ ๗  ทรงประทับใต้ต้นราชายตนะ(ไม้เกด)
- พ่อค้าสองพี่น้องคือ  ตปุสสะและภัลลิกะ ถวายข้าวสัตตุผงสัตตุก้อน 
- ถึงพระพุทธและพระธรรมเป็นสรณะ เรียกว่า  เทวฺวาจิกอุบาสก
- พระองค์ทรงมอบพระเกตุธาตุ  ๘  เส้นแก่อุบาสกทั้งอง
•   ท้าวสหัมบดีพรหมอาราธนาให้แสดงธรรม
•   พระพุทธองค์ทรงพิจารณาดอกบัว ๔  เหล่า  เปรียบปัญญาคน คือ
๑. อุคฆฏิตัญญู มีปัญญาเฉียบแหลม (บัวพ้นน้ำ)   
๒. วิปจิตัญญู มีปัญญาปานกลาง (บัวเสมอผิวน้ำ)
๓. เนยยะ มีปัญญาพอแนะนำได้ (บัวในน้ำ)  
๔.ปทปรมะ ด้อยปัญญา (บัวอในโคลนตม)
•    พระพุทธองค์ทรงคิดถึงอาฬารดาบสและอุททกดาบสเป็นคนแรกที่จะแสดงธรรมให้ฟัง
•    พระองค์ได้พบอุปกาชีวกระหว่างทางไปกรุงพาราณสี
•   ปฐมเทศนา  ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
•   แสดงแก่ปัญจวัคคีย์  เมื่อวันขึ้น ๑๕  ค่ำ  เดือน ๘  ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน  กรุงพาราณสี  แคว้นกาสี
•   เนื้อความธรรมโดยย่อ คือ สิ่งที่บรรพชิตไม่ควรเสพที่สุด ๒ อย่าง
๑. กามสุขัลลิกานุโยค  การพันพันตนในกาม          ๒.อัตตกิลมถานุโยค การทรมานตนให้ลำบาก
๓. สิ่งที่บรรพชิตควรเสพคือ  มัชฌิมาปฏิปทา  คือ ข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลาง อันประกอบด้วยอริยมรรคมีองค์ ๘
•   โกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม คือ  โสดาปัตติผล
•   เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าทรงบวชให้โกณฑัญญะเป็นรูปแรก
•   พระอัญญาโกณฑัญญะจึงเป็นพระสงฆ์องค์แรกในพุทธศาสนา
•  วันนี้เป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบ  คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรียกว่า วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
•   ทรงแสดงธรรมชื่อว่า  อนัตตลักขณสูตร  โปรดปัญจวัคคีย์ ในวันแรม  ๕  ค่ำ  เดือน ๙  และทั้งหมดได้บรรลุพระอรหันต์
•   มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก ๖ องค์  คือ พระพุทธเจ้า ๑  พระปัญจวัคคีย์  ๕

•   ใจความย่อของอนัตตลักขณสูตร คือ  ขันธ์  ๕  คือ  รูป  เวทนา สัญญา  สังขาร  วิญญาณ  เป็นของไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นอนัตตา  ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

บทที่ ๕ ตรัสรู้

บทที่  ๕  ตรัสรู้
•   หลังจากเสด็จออกบรรพชาแล้ว ทรงประทับแรมที่ อนุปิยอัมพวัน
•   หลังจากออกบรรพชาแล้ว   เข้าศึกษาที่สำนักของ อาฬาดาบส  กาลามโครตและอุททกดาบส รามบุตร
•   ทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยาที่ อุรุเวลาเสนานิคม  ทุกกรกิริยา หมายถึง กิริยาที่ทำได้ยาก
•   กิริยาที่ทำได้ยากมี  ๓  วาระ  คือ  
๑.  กัดฟันด้วยฟัน กดเพดานด้วยลิ้น  ๒.  กลั้นลมหายใจเข้า-ออก  ๓.  อดอาหารจนซูบผอบ
•   ปัญจวัคคีย์ ดูแลในระหว่างบำเพ็ญเพียร
•   ทรงเลิกบำเพ็ญเพียร   เพราะมิใช่หนทางแห่งการตรัสรู้
•   นางสุชาดา ถวายข้าวมธุปายาสก่อนตรัสรู้
•   ญาณที่ทรงได้ในระหว่างบรรลุธรรม  ตามลำดับคือ
๑.  ปฐมยาม     บรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณ  คือ  ระลึกชาติได้
๒.  มัชฌิมยาม  บรรลุจุตูปปาตญาณ คือ รู้การเกิดและตายของสัตว์ทั้งปวง
๓.  ปัจฉิมยาม  บรรลุอาสวักขยญาณ  คือ รู้อริยสัจ ๔ คือ ทุกข์  สมุทัย  นิโรธ  มรรค
•   โสตถิยพราหมณ์  ถวายหญ้าคาก่อนวันตรัสรู้
•   พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้เมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา
•   ตรงกับวันพุธขึ้น ๑๕ค่ำ เดือน๖ ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ต.อุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ
•   ตรัสรู้หลังจากบรรพชา ๖ ปี
•   พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อริยสัจ ๔
•   พระพุทธเจ้าทรงชนะมารและเสนามารด้วย บารมี๑๐

•   คำว่า สัมมาสัมโพธิญาณ”  หมายถึง ญาณเป็นเครื่องตรัสรู้โดยชอบ