วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บทที่ ๓ ประสูติ (เกิด)

บทที่  ๓ ประสูติ  (เกิด)
•   พระโพธิสัตร์เลด็จสู่พระครรภ์  ในราตรีวันพฤหัสบดี ขึ้น  ๑๕ ค่ำ  เดือน ๘ ปีระกา พระมารดาทรงสุบินเห็นพญาช้างเผือก
•   พระโพธิสัตว์อยู่ในครรภ์ ๑๐ เดือนพอดี
•   พระโพธิสัตว์ทรงประสูติที่สวนลุมพินีวัน  ใต้ร่มไม้สาละ (ต้นรัง) ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ  ปัจจุบันเรียกว่า  “รุมมินเดประเทศเนปาล  เมื่อวันศุกร์  ขึ้น  ๑๕ ค่ำ เดือน ๖  ปีจอ (วันวิสาขบูชา)
•   พระโพธิสัตว์ เดินได้ ๗ ก้าวพร้อมกับพูดว่า เราเป็นเลิศ  เป็นผู้ประเสริฐที่สุดแห่งโลกการเกิดของเราครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายบัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว
•   สหชาติ คือ สิ่งที่เกิดวันเวลาเดียวกันกับพระโพธิสัตว์  มี  ๗ อย่าง
          ๑.พระนางพิมพา ๒.พระอานนท์ ๓.กาฬุทายีอำมาตย์ ๔.ฉันนะอำมาตย์ 

๕.ม้ากัณธกะ  ๖.ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ๗. ขุมทรัพย์ ทั้ง ๔
•   ประสูติ ๓  วัน มี อสิตดาบส  หรือ กาฬเทวิลดาบส  เข้าเยี่ยม  และพยากรณ์    อย่าง (ถ้าอยู่ปกครองบ้านเมืองจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกบวช จะเป็นพระพุทธเจ้า)
•   ประสูติได้ ๕ วัน พระเจ้าสุทโธทนะเชิญพราหมณ์ ๑๐๘ มาทานอาหาร ,ขนานพระนาม  และ  ทำนายลักษณะ 
•   ทำนาย ๒ อย่างคือ  ๑.ถ้าอยู่เป็นฆราวาสจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๒. ถ้าบวชจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
•   สิทธัตถะ  แปลว่า  “ผู้มีความสำเร็จสมปรารถนา
•   ประสูติได้ ๗ วัน  พระมารดาทิวงคต
•   พระเจ้าสุทโธทนะแต่งตั้งให้นางปชาบดีดูแลแทน
•   อายุ ๗  พรรษา บิดาให้ขุดสระ ๓ ฤดูถวาย  และทรงให้ศึกษาศิลปวิทยา ๑๘ ศาสตร์
•   ครูคนแรก  คือ ครูวิศวามิตร
•   อายุ    พรรษา  ทรงได้ปฐมฌานใต้ร่มชมพูพฤกษ์  (ต้นหว้า)
•   อายุ ๑๖  พรรษา  บิดาทรงให้สร้างปราสาท ๓ หลังถวาย  และทรงให้อภิเษกสมรส
•   เจ้าชายสิทธัตถะทรงอภิเษกสมรสกับ พระนางยโสธรา หรือ พิมพา

บทที่ ๒ สักกชนบทและศากยวงศ์

บทที่     สักกชนบทและศากยวงศ์
•   สักกชนบท  แปลว่า  ชนบทแห่งชาวสักกะ  ที่เรียกอย่างนี้เพราะว่าชนบทนี้ตั้งภูมิลำเนาอยู่ในดงไม้สักกะ
•   ศากยวงศ์กับโกลิยวงศ์  เป็นพี่น้องกันมาแต่สมัยพระเจ้าโอกกากราช  เป็นพระเจ้าแผ่นดินมาจนถึงพระเจ้าสุทโธทนะ
•   สักกชนบทแบ่งเป็นเมืองใหญ่ใหญ่ ๆ ได้    เมือง  คือ
          ๑. เมืองเดิมของพระเจ้าโอกกากราช    ๒.เมืองกบิลพัสดุ์  (เรียกว่า  ศากยวงศ์) ๓. เมืองเทวทหะ  (เรียกว่า  โกลิยวงศ์)
•   ศากยวงศ์  มีพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระเจ้าโอกกากราชเป็นผู้ก่อตั้ง
•    โกลิยวงศ์   พระราชธิดาพระเจ้าโอกกากราชกับพระเจ้ากรุงเทวทหะเป็นผู้ก่อตั้ง
•   กบิลพัสดุ์   ที่ได้ชื่อนี้เพราะเป็นที่อยู่ของกบิลดาบสมาก่อน
•   พระเจ้าชัยเสน  ทรงมีพระโอรสชื่อว่า  สีหหนุ  มีพระราชธิดาชื่อว่า ยโสธรา
•   ศากยวงศ์   มีความหมายว่า  ผู้มีความสามารถ
•   ศากยวงศ์  เรียกตามโคตรว่า โคตมะ  หรือ  โคดมโคตร
•   กบิลพัสด์  เป็นเมืองของพระพุทธบิดา  เรียกว่า ศากยวงค์
•   กรุงเทวทหะ  เป็นเมืองของพระพุทธมารดา  เรียกว่า  โกลิยวงศ์

•   เจ้าชายสิทธัตถะก่อนจุติมายังโลกมนุษย์ประทับอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต
•   พระเจ้าสุทโธทนะเป็นพุทธบิดาของพระพุทธเจ้า
•   พระนางสิริมหามายาเป็นพุทธมารดาของพระพุทธเจ้า

บทที่ ๑ ชมพูทวีปและประชาชน

บทที่ ๑ ชมพูทวีปและประชาชน
•  “พุทธประวัติ”  หมายถึง  ความเป็นมาของพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา   
•   ชมพูทวีปในปัจจุบันคือดินแดนของประเทศ อินเดีย,เนปาล,บังคลาเทศ  
•   ชนชาติ มี ๒ ชนชาติในชมพูทวีป คือ
๑. มิลักขะ เป็นเจ้าของถิ่นเดิม      ๒. อริยกะ เป็นพวกที่อพยพเข้ามายึดครอง
•   การแบ่งเขตการปกครอง  แบ่งเป็น    เขต
          ๑. มัชฌิมชนบท  หรือ มัธยมประเทศ (ส่วนกลาง)  เป็นที่อยู่ของพวกอริยกะ
          ๒. ปัจจันตชนบท หรือ ปัจจันตประเทศ ( ส่วนปลายแดน)  เป็นที่อยู่ของพวกมิลักขะ
•   การปกครอง  แบ่งการปกครองเป็นอาณาจักร  หรือรัฐ  หรือแคว้นมีหัวหน้าปกครองประจำแคว้น   
•   มัธยมประเทศแบ่งออกเป็น ๑๖  แคว้น
•   ระบบวรรณะ  (แบ่งแยกชนชั้น)  มี    วรรณะ คือ
๑.กษัตริย์  คือ  ผู้นำในการปกครองบ้านเมือง  ให้ความสงบสุข ( สูง)
๒.พราหมณ์  คือ  ผู้มีหน้าที่อบรมสั่งสอน  ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ( สูง)
๓.แพศย์  คือ  ผู้ที่ทำการเกษตร  กสิกรรม  ช่างฝีมือ  ค้าขาย ( กลาง )
๔.ศูทร  คือ  ผู้รับจ้างใช้แรงงาน   ทาส   คนรับใช้ ( ต่ำสุด)
•   จัณฑาล  คือ  บุตรที่เกิดจากบิดา  มารดาต่างวรรณะกัน ถือว่าต่ำที่สุด
•   ลัทธิ และการนับถือ ประชาชนในชมพูทวีปนับถือ ศาสนาพราหมณ์ มีพระพรหมเป็นศาสดา และยึดถือคัมภีร์ไตรเพท เป็นหลักคำสอน
•   ความเชื่อ  ของคนในชมพูทวีป
          ๑.เชื่อว่าตายแล้วเกิด ๒.เชื่อว่าตายแล้วสูญ และ ๑.ชื่อว่าการเกิด การตายมีเหตุปัจจัย ๒.เชื่อว่าการเกิดการตายไม่มีเหตุปัจจัย