แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สรุปนักธรรมชั้นโท แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สรุปนักธรรมชั้นโท แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

สรุปนักธรรมชั้นโท หน้าที่ 10/11

 










การอธิฐานด้วยกาย คือ าร้มอจับหรือลูบริขารที่จะอิษาน้ว˚าความผูกตาม˚ิษานนั้น ่วนาริษานด้วยวจา คื การเปล่งค˚าอิษานนั้น ม่ถูกด้วยกายก็ด้

( 49) ˚าว่า ิษานนวิัยกร คือ? ้าสาฏิก่ขาดใ้ไม่ได้จะปลียนม่ พึปฏิบัติอย่า?

อบ คือ การตั้บริขารที่รงนุาต˚รับภิกุเอว้้ส˚บตัว (เช่การตั้ใจ้จีวรืนนั้น ้ผืนื่น)

พึ˚ินุผ้าสฆาืนหม่ว่า ˚ ินฺุกปฺปํ กโรมิ เราท˚หมาด้ยจุดนี้ แล้วปจุท์คืยกเฆาิมว่า ิม˚ ฆา                                                           ปจจุทฺรามิ เร

ยกเ้าสฏิืนนี้ ต่อจากนั้ธิฐานผ้าฏิืนม่ว่า อิม˚ ฺฆา ธิฏฺฐามิ ราตั้งเอว้ซึ่งผ้ฆาืนนี้

 

 

วิธีใช้วิธีรักษาบาตร

(ปี 50) วิีใ้วิีรักษาบาตรทีู่กตอง คือย่า?

อบ คือ ห้ามไม่ห้ใ้บาตต่างกะโถน คืทิปลา ดูก เนื้อ หรือื่น อัเปนเดบาตร ห้ามไม่ห้ล้ามือรือบ้วปากนบา

จะเอามือเปื้อนจับบาตรก็ไม่ควร ฉันล้วห้ล้าบาห้ามไม่ให้เก็บไว้ทั้งยังเปียก ให้ผึ่งแดดก่อน

ห้ามไม่ให้ผึ่งทั้งยังเปียก ให้เช็ดจนหมดน˚้าก่อนจึงผึ่ง ห้ามไม่ให้ผึ่งไว้นาน ให้ผึ่งสักครู่หนึ่ง

(ปี 47) ในพระวินัย ทรงอนุญาตบาตรไว้กี่ชนิด? อะไรบ้าง? และมีธรรมเนียมระวังรักษาบาตรอย่างกวดขันไว้อย่างไร?

อบ ทรุญาว้ นิด คือ บาตดิ (ุมด˚นิ) บาหล็ก

มีธรรมเนียมระวังรักษาบาตรอย่างกวดขัน คือ ห้ามไม่ให้วางบาตร เก็บบาตรไว้ในที่ๆบาตรจะตกแตก และในที่จะประทุษร้ายบาตร, ห้ามคว˚่าบาว้ี่พื้คมแข็อัประทุร้ยบา, ห้าม่ให้แนบาต, ห้ม่ให้้บา่าะโ, ห้าม่ให้เก็ว้ั้ยังเปียก มีบาตรอยู่ในมือห้ามไม่ให้ผลักบานประตู เป็นต้น

 

นิัย ความหมายของค

(ปี 63, 56) ˚าว่า ถืนิสัย หมาความว่าย่างไ? ภิกษุผู้ป็นจะ้อถืนิสัยปหรม่การ?

อบ หมายความว ตนอยู่ความปกครอพระเถีคมบัติควปกครอด้ ยอห้ท่าปกครอง ึ่พิ˚ักศัยท่ ต้อถืนิสัยเสม มีข้อยกเว ภิกษุู้ยัไมตั้งลงเป็นลักแล่ง คืภิกษุเดาง ภิกุผู้เป็ข้ ุผู้พยาบาู้ด้บขคนไข้พื่ให้ยู่ ภิกษุผู้ข้าป่เพื่อเจรญสมณั่วคราว ะกีที่ี่ใด หานผู้ให้นิสัมิได้ แลมีเหตุขดข้อที่จะไยู่ในี่อื่ม่ด้ ะอยู่ใที่ั้นด้วยผูกว่มื่อดมีท่าู้ให้ิสมาอยู่ ือนิสัยท่าน ็ใ้ได้

(ปี 57) จงห้ความหมยข˚าตอไปนี้  . อุัมปทาจารย  . อุเทาจารย์  . สัทธิิหริก  . เตวาสิก  . นิสมุตต

อบ . อาจารย์ู้ใหุ้ปมบท  . อาจารย์ธร  . ภิกษู้พึ่พิอุฌาย  . ภิกุผู้อศัยอาจารย  . ภิกษู้พ้นิัย้ว

(ปี 55) ให้คามหมาย˚อไปนี้ อุปัฌาย ัทิวิหริก นิัย


อบ อุฌาย เป็นื่อเรียกภิษุผู้รับห้พึ่พิง ปลว่า นิสสัย เป็นชื่อเรียกกิริยาที่พึ่งพิง


ึกสอนรือผู้ดู,               ธิิหาริก เป็นื่อเรยกภิกษุผู้พึ่พิง ปลว่าู้ยู่ด้วย,


(ปี 49) พระอุปัฌาย์ัทิวิาริก พึปฏิบัติต่อกันย่าง จึงะเกิดควมเญงามในรมวินัย?


อบ พึปฏิบัติตามทีมเจพระรมดารัสสั่งไว้ว่า ให้ะอุปฌาย์แลัทิวิหาริตั้งจินินมในกันะกั

ให้อุปัฌา˚าคััทิวิหาริฉันบุตร ให้สัทิวิหาริกนับืออุฌาย์ฉันบิดา เมื่เป็นเช่นี้ จะมีควาเคาพเื่อถูกันยู่ ย่อมจะ

ถึความเจริูลย์ในรมวินัย

(ปี 47) จงให้ความหมายของค˚าดังต่อไปนี้ . นิสสัย  . วัตร  . อุปัชฌายะ  . อาจารย์  . สัทธิวิหาริกวัตร

ตอบ        . นิสสัย คือ กิริยาที่พึ่งพิง

. วัตร หมายถึง นบคแบบย่ ันภิกษุครปะพฤตินกาลนั้ ที่ั้นๆ นกิจั้น แก่บุคคลนันๆ . ุปัฌาย คือ ภิกษุผูรับให้สธิิหาริกพิง

. าจารย์ คือ ภิกุผู้รับให้อัาสิกึ่พิง

. สัทธิิหาริก คือ หน้าี่อัอุฌายะจะพึ˚ก่สัทธิริก

 

อาจารย์มี ประเภท

. ปััชชจาย์ อาจารย์ในบรพ                                           . นิสสยจาย์ อาจารยู้ให้ัย

. อุปสัมปทจาย์ อาจารย์ในุปสบท                                          . อุสาจย์ อาจารย์ู้บธรร

(ปี 57) จงให้ความหมายของค˚าต่อไปนี้ . อุปสัมปทาจารย์  . อุทเทสาจารย์  . สัทธิวิหาริก  . อันเตวาสิก  . นิสสยมุตตกะ

อบ  . อาจารย์ู้ใหุ้ปสบท  . อาจารย์ธร  . ภิกษุผู้พึ่พิอุฌาย  . ภิกุผู้อิศัยอาจารย  . ภิกษู้พ้นิัย้ว

( 53) ตามนัยห่อรรถาารย์มีกี่? อะไบ้า? ˚าขนิสัยอาจรย์ว่าอย่า?

มี ภท คือ . ปัพัาจารย์ อาจารย์ในบรพ  . ุปสัาจรย อาจาย์ในุปสบท                                                    . ยาจรย อาารย์ู้ให้ นิสัย  . ุทเจาย์ อาจาย์ู้บธร  ว่า อาจริโ ภนฺเ หิ าย สฺส วจฺามิ

(ปี 44) อาจารย์ทางพระวินัยตามนัยอรรถกถามีเท่าไร? อะไรบ้าง? อาจารย์เหล่านั้นท˚าหน้าทต่างกันอย่างไร? ตอบ มี คือ ปัพพชาจารย์             อุปสัมปทาจารย์                               นิสสยาจารย์                      อุทเทสาจารย์ ˚าหน้าที่ต่างกัน คือ       ปัพพชาจารย์ ˚าหน้าที่ให้สรณคมน์เมื่อบรรพชา

อุปสัมปทาจารย์ ˚าหน้าที่สวดกรรมวาจาเมื่ออุปสมบท นิสสยาจารย์ ˚าหน้าที่ให้นิสัย

อุทเทสาจารย์ ˚าหน้าที่สอนธรรม

(ปี 44) ˚าว่า ถืนิสัย หมยควมว่าอะ? จงเขียนค˚ิสัยอารย์พร้อมทั้˚าแ

อบ หมายคามว่ายอตนอยู่ความปกครอพระเถีคมบัติควปกครอด้ ยอห้ทานปกครอพึ่˚ักาศยท่าฯ ค˚าขนิสัยอาจรย์ว่าดังี้ " าจร เม ภนฺ โหหิ , อาฺม นิสาย วจฺามิ " ซึ่แปลว่า " ่านจเป็นอาจารย์ขอข้าเจ้า ข้าพจ้าจักอยู่ อาศัยท่าน "

 

การประณาม

(ปี 52) การปะณาม วินัหมายความว่าย่างไ? มีพุธานุญาตห้อุปัฌาย์ท˚ัทิวิหาริู้ประติอย่าง?

อบ หมายความว่า ล่สัทิวหาริก หรือันตวาสิู้ประติอบ ผู้ประพฤติดังนี้

. หาควารักใคร่ในุปัมิได้  . หาความื่มิด้  . หาความะอายมด้  . ควาเคาพมด้  . หาคามหวังดีต่มิด้

( 45) อุฌาย์ปัทิวหาริกผู้มิชบด้วยเตุอรบ้า? อาารทีุ่ปัฌายัทิวิหาริกพึ˚ย่าง?

อบ ด้วยเหตุนี้ คือ หาควคร่ในุปัฌาย์มิได้ หาื่อมสมได้ หาคะอามิได้ หาความคารพมด้


หาความหวัดีตมิด้ พึดให้รู้ว่าตล่เธอีย นบาลีสดว้่า เราปรมเธอ เธอย่าเข้มา ี่นี้ จงนบาตรจีรขอเธอปเีย หรือเธอไม่ต้องอุปัฏฐากเราดังนี้ หรือแสดงอาการทางกายให้รู้อย่างนั้นก็ได้

 

นิัยะงับ / นิัยมุตกะ

(ปี 64, 59, 51) นิสัยับ ับ ิสตตกะ มีอธิบย่างไ?

อบ         นิสัยะงับ หมายถึการที่ภิกษู้ถิสัยขาดจากปกรอง ่น อุฌายรณภาพ เป็นต้น

นิสัยตตกะ มายถึภิกษุผูด้พรษา แล้ว มีมบัติพนไ มื่อยู่ต˚าพัง รงุญตให้พ้จากนิสัย

(ปี 62, 60) ภิกษุเช่นไรควรได้นิสยมุตตกะ ?

ภิกษุผู้ควด้นิมุตกะ                       . เป็นผูมีศัท ริ โอตปะ วิริยะ ติ

. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล อาจาระ ความเห็นชอบ เคยได้ยิน ได้ฟังมามาก มีปัญญา

. รู้จักอาบติ มิใ่อาบติ าบัติเ อาบัติหนัก ˚าพระปฏิมกข์ได แม่นย˚ ั้มีพรษา้น

(ปี 58) ีแเหุนับจากุปัฌายว้ ประก อะไรบ้าง ?

อบ มีอุปัฌายะหีย กเสีย ตายีย ไปเข้รีดียถีย์เีย สั่งบัคับ

(ปี 54) บาลีแเหุนัยะงับจากุปัฌาย์ไวเท่าไ? บ้า?

อบ แสว้ ะการ  คื อุปัฌาย์หลกไ ึกีย ตายีย ปเข้ารดียรถีย์ ั่บัคับ

(ปี 45) บาลีแดงเหตุนัยะงับจากุปัฌาย์ไเท่าไ? บ้า? ภิกษุผู้ควด้นมุตต้อมีคุบัติอยรบ้าง?

อบ แสว้ ะการคือ อุฌาย์ีกไปีย ีย ตาีย ไปเข้รีดียย์ สั่งบคับ มีคุณสมบัต คือ         . เป็นีศัท หิร มีโตตัป มีวิริย มีติ

. เป็นผู้ถึพร้อด้วยศ าจา ามเอบ เคยด้ยด้ฟั มีปัญญา

. รู้จักาบติ มิใ่อาบัติ าบัติเ าบัติหนัก ˚าปาฏด้แม่˚ ั้มีพรษาด้ อยิ่่า

 

ั้นภิษุ

(ปี 60, 44) ภิกษุเช่ ื่อ่า มัชฌิมะ ระ ?

อบ         ภิกษุมีพรรม่ถึง ื่อ่า

ภิกษุมีพรรตั้แต่ ขึ้น ม่ถึง ต้อะกอบด้วยคมพะวินัยื่อ่า มัฌิมภิกษุมีพรรตั้แต่ ึ้นไป ประกอบด้วยครมมพระนัย ื่อ่า เถระ

 

วั แบบอยอัภิษุควรประพติในาลนั้น ที่ั้น กิจนั้น ่บุคคลนั้น แบ่กเป ประภท คือ

. กิวั ว่าด้วยกิจันควรท˚                    . ิยวั ว่าด้วยมายาทควรประติ                          . วิธิ ว่าด้วยแบบย่าง

(ปี 63, 61, 44) วัตรอันภิกษุควรประพฤติในค˚าว่า วตฺตสมฺปนฺโน นั้น คืออะไรบ้าง ?

อบ คือ . กิจวัตร ว่ด้วยกิจอันครท˚  . จราวัตร ่าด้ยมรยาทอัวรประพฤติ  . วิิวั ว่าด้วยบบย่าง

(ปี 54) ภิกษุผู้ได้ชื่อว่า วตฺตสมฺปนฺโน ผู้ถึงพร้อมด้วยวัตร วัตรคืออะไร? มีอะไรบ้าง?

อบ วัตรคือบบย่างันภิกษุครปติในนั ที่ั้น นกิจั้น แก่บุคคลนั้น

มี . กิจวัตร ว่าด้วยกิจอันควรท˚ . จริยาวัตร ว่าด้วยมารยาทอนควรประพฤติ . วิธิวัตร ว่าด้วยแบบอย่าง

( 51) ˚ว่ ภิกุผู้ถึพร้อวยวัตร วัตด้แก่? มีอะรบ้?


ตอบ ได้แก่ ขนบ คือแบบอย่างอันภิกษุควรประพฤติในกาลนั้นๆ ในที่นั้นๆ ในกิจนั้นๆ แก่บุคคลนั้นๆ

มี . กิจวัตร ว่าด้วยกิจอันควรท˚ . จริยาวัตร ว่าด้วยมารยาทอนควรประพฤติ . วิธิวัตร ว่าด้วยแบบอย่าง

(ปี 49) วิธิวัตร คืออะไร? มีความส˚าคัญอย่างไร?

ตอบ คือ วินัยที่ว่าด้วยแบบอย่าง เช่นแบบอย่างการห่มผ้าเป็นต้น แบบอย่างนั้นเป็นเหตุให้ภิกษุมีความประพฤติสม˚่าเสมอกัน เช่นนุ่งห่มเป็น แบบเดียันันโราท่าจัดถ้าเป็นแบที่ล่วเวลาจะไม่้ก็ต้อมีวิธีม่แทน ไม่เช่นั้นจะคอยหลุะอย่าง จนไมีอะหลือเมื่อ ถึงเวลานั้นพระสงฆ์ก็จะไม่มีอะไรที่ต่างจากชาวบ้าน

(ปี 48) วัตร คืออะไรบ้าง? ภิกษุเหยียบผาขาวอันเขาลาดไว้ในทนิมนต์ผดวัตรข้อไหน? มีโทษให้เกิดความเสียหายอย่างไร?

ตอบ คือ กิจวัตร ๑ จริยาวัตร ๑ วิธิวัตร ๑ ฯ ผิดวัตรข้อจริยาวัตร ฯ มีโทษให้เกิดความเสียหาย คือเป็นการเสียมารยาทของพระ ไม่ระวังกิริยา ˚ห้ผ้าขามีรเปื้อนสกรกน่รังเกียจ แม้ภิกุพดียันจะนัก็รเกียจขยะแขยง เป็นที่ต˚หนบัณฑิตทั้หลาย

 

กิจวัตร ๑๒ กิจอันควรท˚ (ในสรุปนี้ ามาเฉพาะที่เคยออกข้อสอบเท่านั้น)

·        อุปัชฌาย ธรรมเนียมทีัทิวหาริกควรฏิบัปัย์

·        สัทธิวิิกวั ธรรมเนียมที่อุฌาย์ควปฏิบติตัทิวิหาร

·        อาคันตุกวัตร ธรรมเนียมที่พระอาคันตุกะควรปฏิบัตต่อพระเจ้าถิ่น

·        อาวาสิกวัตร ธรรมเนียมที่พระเจ้าถิ่นควรปฏิบัตต่อพระอาคันตุกะ

·        ปิณฑจาริกวัตร   ธรรมเนียมที่ภิกษุผู้เข้าไปบิณฑบาตในละแวกบ้าน

·        เสนาสนคากวั ธรรเนียทีุผู้อาศัยยู่ในเสาส


·        คินุปัาก ธรรมเยมที่ภุที่˚าหน้ที่ดูแลิก


ู้เจ็บป่วย


(ปี 64, 58) ภิกษุผู้อาพาธควรปฏิบัติตนอย่างไร จึงไม่เป็นภาระแก่ผู้พยาบาล ?

อบ ควรปฏิบัติตเป็นผู้พาล่าย คื˚ควาบายใหแก่ตน (ม่ฉัแส) รู้จักปะมนการบริภค ฉันยา่าย ากข้ตเป็นจริงแก่ผู้พยาบาล เป็นผู้อดทนต่อทุกขเวทนา

(ปี 64, 62 ,60, 45) ภิกษุผู้ป็นาคันตุกะ ู่อาาสอื่น ะพฤติอย่ารจะถูกรรมเนียตาพระวนัย ?

ตอบ พึงประพฤติดังนี้ . ˚าความเคารพในเจ้าของถิ่น  . แสดงความเกรงใจเจ้าของถิ่น  . แสดงอาการสุภาพต่อเจ้าของถิ่น

. แสดงอาการสนิทสนมกับเจ้าของถิ่น . ถ้าจะอยู่ที่นั่น ควรประพฤติให้ถูกธรรมเนียมของเจ้าของถิ่น

. ือเสนะ้วย่าาย าใจ่ปัดกวาดใหะอาหมด ตั้งเครื่อาสนะใหเปะเบี

(ปี 59) วัตรคือ ? อุฌายรแัทิวิริกวัตร รพึ˚ก่คร ?

ตอบ คือ แบบอย่างอันดีงามที่ภิกษุควรประพฤติในกาลนั้น

อุฌายวัตร สัทิวิหริกพึ˚ก่ปัฌาย                                         ัทิวิหาริกวั อุปัฌาย์พึ˚ก่สัทธิิหาริก

(ปี 55) ภิกษุผู้ได้รับเสนาสนะของสงฆ์ให้เป็นที่อยู่อาศัย ควรเอาใจใส่รักษาเสนาสนะนั้นอย่างไร?

อบ ควรเอาจใส่รักนี้  . ย่าท˚าเปรเปื้อน  . ˚าระใหะอาด  . วัม่ให้˚รุด  . รักาเคสนาส

. ตั้˚้าฉั˚้า้ไว้ห้มีพร้อม  . ้ส˚าหรับเนะหนึ่ง าเอ้ใที่ื่นห้กรจั

(ปี 50) ัทิวิหาริก คร? อุฌาย์ควรมีใเอื้อเื้อสัทิวิหาริตนอย่าไรบ้าง?

อบ คือ ภิกษุผู้พึ่พิง นการอุปสมบท ภิกุถืภิกษุรูปใดเป็ุปัฌาย ็เป็ัทิวิหาริกขภิกษุรปนั้น อุฌาย์ควรมีใจเอื้อเฟื้ัทิวิริกขอตนอย่านี้ คื                                                                        . เอาใจ่ใกาศึกาขัทิวิหาริก


. สงเราะหด้วยบา จีวร ริขารอื่น ้าขตนม่มีก็ายให้

. วนวายป้กันหรือระงับคามเื่มเอันจัเกิมีหด้ม้วแ่สัทิวิหาริก

. เมื่ัทิวิหาริกอาาธ ˚พยาบาล

( 49) เมื่อภิกุเพื่มิพาธ รงห้ใครเป็นู้พยาบ? แลทรั่ราิกุอาธไว้ว่าอย่างไ?

อบ ทรให้ภิกุเพื่อหธรมิกอาจใส่รักาพยาบกัน อย่าอดธุระีย

ทรั่สอปรภิกษุาพาไว้ ภิกุทั้หลาย ะบิาขเธอั้หลายม่ม ้าพม่พยาบกันเอง าจะบาลพ

เธอ ภิกษุใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเรา ขอให้ภิกษุนั้นพยาบาลภิกษุไข้เถิด


(ปี 48) ในพระวินัยส่วนอภิสมาจาร มีพระพุทธบัญญัตส บ้าง?


˚รับพรภิกษุผู้ับถืนะขฆ์ อาจใส่รักด้วยอาารอย่า


อบ ควรเอาจใส่รักอย่านี้  . ย่า˚รอะเปื้อน  . ะให้ะอาด  . ะวัม่ให้˚  . รักษาเรื่นะ

. ตั้˚้าฉั˚้า้ไว้ห้มีพร้อม  . ้ส˚าหรับเนะหนึ่ง าเอาไที่ื่นห้กรจัด

( 47) กิจวัตรทีัทิวิหาริกควร˚ก่อุชฌายข้ว่า คารท่าน ั้น ในบาลีท่าแสว้ย่าง?

อบ บาลีแสกาเดินามท่ ม่ให้ิดน ม่ให้หนัก แลม่พูดอดใะที่านก˚าลังูด มื่อ่านูดิด ม่ทักหรือค้านย่จังๆ ูด อ้อมพอท่านได้สติรู้สึกตัว จึงจะเป็นการดี

(ปี 45) ภิกษุผู้เข้าไปรับบิณฑบาตในละแวกบ้าน พึงประพฤติให้ถูกธรรมเนียมอย่างไร?

อบ พึประติอย่างี้ . นุ่ห่มให้เีย  . ถืบารในภยในจี  . ˚รวมกิราให้เรร้อย  . ˚าหนดทาเข้าแห่าน

. รับบฑบตด้วยอา˚รวม

 

ิยวั มายาทันควรประติ (นสุปนี้ น ามเฉพาะที่เคยอสอบเท่าั้น)

·        ห้ามจับต้อวัตถุนาม

(ปี 63, 55) ˚าว่า วัตถุเป็นอนามาส คืออะไร ภิกษุจับต้องวัตถุเป็นอนามาสเป็นอาบัติอะไร?

อบ คือ ิ่ที่ภิกุไม่ควรจต้ ภิุจับต้อมาตาม เป็นอาบติฆาทิสส ลลจัย และตามะโ จัต้อบัณาะก์ด้ยความ ˚าหนัดเป็นอาบัติถุลลจจัย นอกนั้นเป็นวัตถุแห่งอาบัติทุกกฏทั้งหมด

 

คารวะ กิริยาที่แสดงอาการอ่อนน้อมโดยสมควรแก่ กาล สถานที่ กิจ และบุคคล

(ปี 63, 58) การุกยืขึรั เป็กิจี่ผู้น้ยพึ˚แก่ผู้ใหญ่ จะบัติอย่าจึงไม่ขัต่อพระวินัย ?

ตอบ นั่งอยู่ในส˚านักผู้ใหญ่ ไมลุกรับผู้น้อยกว่าท่าน นั่งเข้าแถวในบ้าน เข้าประชุมสงฆ์ ในอาราม ไม่ลุกรับท่านผู้ใดผู้หนึ่ง

(ปี 62 ,60, 51) ภิกษุยู่ในุฎีเดียันกัภิกษุผู้มากว่า ควรปฏิบันอย่ารจื่อ่าแสวามเคา่านามพะวินัย ?

อบ ควรปฏิบัติตย่านี้ คือ จะท˚าสิ่ใด รขอนุญาตท่าก่ เช่น จะสธร จะอธิบายคาม จะยาย จะรม จุดจไฟ จะเปิดจะปิดหน้าต่างห้ามมิให้ ˚าตามอ˚าเภอใจ

(ปี 56) ก่อนหน้าปรินิพพาน ตรสสั่งภิกษุทั้งหลายให้แสดงความเคารพด้วยการเรียกกันว่าอย่างไร?

อบ ัสใหภิกษู้อ่ษาาเียผู้แก่ษาว่า่า ภัเต                                    แลให้ภิกู้แก่ษาว่ียอ่ษาว่า่า วุ

(ปี 54) คารวะ คื? ขึ้ยืนรับเป็นิจทีู้น้ยพึ˚ก่หญ่ ต่ควรเว้นนเลาเช่นดบ้?

ตอบ คือ กิริยาที่แสดงอาการอ่อนน้อมโดยสมควรแก่กาล สถานที่ กิจ และบุคคล

ควรเว้นนเวลานั่อยู่นส˚านักู้ใหญ่ ม่รับู้น้ยกว่า่าน เวลานั่เป็นแถบ้าน เวลเข้าปรฆ์ในาราม


(ปี 53) กิริยาที่แสดงความอ่อนน้อมต่อกันและกันเป็นความดีของหมู่ แต่ต้องท˚าให้ถูกต้องตามกาลเทศะ ในข้อนี้ควรงดเว้นในกรณีใดบ้าง? จงบอก มาสัก ๕ ข้อ

ตอบ ได้แก่ในเวลาดังต่อไปนี้ (ตอบเพียง ข้อ)

. ในเวลาประพฤติวุฏฐานวิธี คืออยู่กรรม เพื่อออกจากอาบัติสังฆาทิเสส

. นเวลาถูฆ์ท˚าอุเขปนีรม ทีถูห้ามสมภคแาส (👉มไม่👉้สคมกับภุอื่)

. ในเวลาเปลือยกาย

. ในเวลาเข้าบ้านหรือเดินอยู่ตามทาง

. นเวลาอยู่ี่มดที่แม่เห็นก

. นเวลาที่ม่รู้ คืหรือุกยอยู่ด้วยธอย่าหนึ หรือ ใจไปอื่น แม้หว้ ท่นกม่ใส่ใจ

. นเวลาขบันาห

. ในเวลาถ่ายอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะ

(ปี 48) ภิกษพรเถรข้าบ้าหรือเดินอยูตามทาง ฏิบัติอย่า?อบ ม่คหว้ รหลีกาง ลุ ะให้อนะก่่าน

(ปี 46) การแดงความคารด้ก่กิริยาเ่น? ภิกษุควรดท˚มเคากันาใดบ้า? จงตมา ข้อ

ตอบ ได้แก่ การกราบไหว้ การลุกรับ การท˚าอัญชลี การท˚าสามีจิกรรม ในเวลาดังต่อไปนี้ (ตอบมา ข้อ)

. เวลติวุฏานวิ คือ ยู่กรเพืจากาบัติทิเส                                          . เวลาอยู่ี่มดแม่ห็นกัน

. เวลาถูฆ์ขปนีรม                                                                      . เวลาที่่ารู้

. เวลปลือยก                                                                                 . เวลาขบันาห

. ในเวลาเข้าบ้านหรือเดินอยู่ตามทาง                                                                    . ในเวลาถ่ายอุจจาระปัสสาวะ

(ปี 45) ภิกษุผู้เข้าไปในเจติยสถาน ควรปฏิบัติอย่างไร?

อบ ควรปฏิบัติอย่านี้ คือม่กั้นร วมรองเ้า ม่หเข้าไ ไม่แดงาการดมิ่นต่างๆ เช่ดเสียดัง แลนั่เหเท้เป็นต ม่ถ่าย อุจจาระสส แลม่ถ่เขฬะนลานพรเจีย์

 

าพรรษา

·        วิธีจ าพรรษา

(ปี 62, 45) ดิถีที่˚หนดให้เขาจ˚พรรษานบาลีล่าวไวเท่าไ ? รบ้าง ?


อบ กล่าว คือ                    . ปุริมิกาว

. ปัจฉิมิกาวสั


ายิกา ันเข้ารษาต้น คือันแรม ˚่า เดือน ูปนยิกา วันเข้าษาัง คืวันรม ˚่า ดือน


(ปี 49) การจ˚าพรรษาของภิกษุมีวิธีอย่างไร? จงอธิบายพอเข้าใจ

อบ การจ˚าพรษาั้น ีกลาวเพียให้˚าอาลัย คือ ว่าะอยู่ใที่ี้ เดือน ต่ในบัดนีมีธรเนียมที่ะชุมกัน่าวค˚าอิษานร้อม กัน่า ิมฺมึ าวา ิม˚ เต˚ วสฺ˚ ุเปม ความว่า ราเข้าถฤดูฝนาวาสนี้อด เดือน

(ปี 48) การอธิษฐานเข้าพรรษา กับการปวารณาออกพรรษา ทั้ง นี้ อย่างไหนก˚าหนดด้วยสงฆ์เท่าไร? และก˚าหนดเขตอย่างไร?

อบ การอธิฐานเข้าม่เนสังฆกรมจึงม่ก˚าหนด้วยฆ์ แต่เป็นเนีมปฏิบติอธิฐานข้าษาร้อ กัน จะอธิฐาที่ไหนก็ไ้ แต่ท่านห้าไม่ให้จ˚าพรษาในี่ไมควเท่านั้น เช่น นโพรงม้ ค่าคบไม้ นตุ หรือใกระท่ ป็นต้น ะให้ก˚าหนดริอาาสเป็น เขต ส่วนการปวารณาออกพรรษาเป็นสังฆกรรม ˚าหนดด้วยสงฆ์ตั้งแต่ รูปขึ้นไป

แล˚าหดให้ท˚าภายในเ ถ้าต˚่ากว่า รูป ่านห้ปวป็นาร ถ้ารูปดียห้อิษนเป็นการบุค


·        สัตกรียะ การหีกไปใหว่าอยู่จ˚าด้ยกียธุแลกลมายใน ัน โดผูกจว่าจะกลมาภยใน ัน

(ปี 64, 60, 58) ธุระเป็นเหตุให้ไปค้างแรมที่อื่นด้วยสัตตาหกรณียะ ที่กล่าวไว้ในบาลี มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?

ตอบ มี อย่าง คือ                   . สหธรรมิกหรือมารดาบิดาเจ็บไข้ รู้เข้าแล้วไปเพื่อพยาบาล

. สหมิกันจึก รูเข้า้วไปเพื่ะงับ

. มีกิฆ์เกิดขึ้น เช่น ิหาร˚ ปเพื่หาครืทัพสัมาซ่อมแซม

. ายกต้อการะท˚าบุญ ส่งคมานิมนต ปเพื่˚ารุงศรัทธา แมกิจื่นี่อุโมนี้ ่านก็นุญ

(ปี 63, 57) สัตตาหกรณยะ คืออะไร? มีวิธีปฏิบัติอย่างไร?

อบ คือารหลีกหว่าอยู˚าพรรษาด้ยกียธุะแมาภายใน ัน  ให้ผูกจว่าะกลับมภายใน วัน

(ปี 61) สัตตาหกรณียะและสัตตาหกาลิก มีอธิบายอย่างไร ?


ตอบ สัตตาหกรณยะ คือ กิจจาเป็นบางอย่างที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษผ ัตตหกาลิก คือ ัช ี่รับเคน้วเก็ว้บริภคได้ วัน


ู้อยู่จ˚รษาักรมคืนี่อื แต่ต้อกลัมาภยใน ัน


(ปี 59) ภิกษุยู่จ˚าพรษาแล้ว หตุที่ื่น ผูกะกลมาให้ันนวนนั้น ต่กลับมม่ทัน เช่นี้ษาาดรือม่ เพระเหตุ? อบ ถ้ไป ด้วยธุระที่ทรงอนุญาตให้ไปด้วยสตตาหกรณียะ พรรษาไม่ขาด เพราะยังอยู่ในพระพุทธานุญาตนั้นเอง ทั้งจิตคิดจะกลับก็มีอยู่ ถ้าไปด้วยมิใช่ธุระที่ เป็นสัตตาหกรณียะ พรรษาขาด

(ปี 56) วันเข้าษานบีกลวไว้ วัน คือันเข้าต้น และวันเข้ารษาัง นแต่ละอย˚าหนดวันไว้อย่า? อบ วันเขาพรรษาต้น ˚าหนจันร์ญเสยฤก์อาสาหะ่ว้วันหนึ่ง คืวัน ˚่า ดือน วันเข้าษาัง ˚าหนดมื่อะจันทร์เพ็วยฤษ์าฬหะนันล่วง้วดือน คือ ันแรม ˚่า เดือน

(ปี 50) ภิกษุยู่จ˚าพรษาแล้ว หตุให้ไี่อื่น คิดว่าะกลมาทัภายวันั้น มิได้ผูกใัตตหะไ ต่มีเหุขดข้อให้ับถึเมื่อรุขึีย แล้ว เช่นี้ษาหรือม่? ราะเตุใ?

ตอบ ถ้าไปด้วยธุระที่ทรงอนุญาตให้ไปด้วยสัตตาหกรณียะ พรรษาไม่ขาด

เพรายังยู่ในะพุธานุญาตนันเอง ั้จิตคิจะกับกมีอยู่ ้าปด้วยม่ธุระที่เป็ตาหก พรรษาขาด

(ปี 46) ท่านห้ามไม่ให้จ˚าพรรษาตลอด เดือนฤดูฝนนั้น เพราะเหตไุ ?

อีก วัจะถึงันปาร ภิกุท˚าสัตาหกียปปวาที่ดอื เธอจะไดรับอานิส์การจ˚รราหรือไม? ราเห ?

อบ เพราต้อกาเดือท้ายนไว้เป็จีรก คราวหาจวร คราวท˚าจี เพื่ วรเดิม

ด้ับาน˚าพรษาเมือนัน เพราวันสดท้ายแห่วันจ˚ษาตกยู่ในันี่ ี่อื่บ่ให้ลับ ันนั้เพระยม่ิ้˚าหนดวัน ˚าพรรษา

( 45) ตาหก และ ัตาหกาลิก มีอธิบายย่า?

อบ ัตตาห คืภิกษู้อยู˚าพรรปแรคืนี่อื่ด้วยกิจจ˚าเป็นบงอย่าง แต่กลับาภายใน ัน ียกว่ปด้วตาหก หรือสตาหะ สัตตาหกาลิก คือของที่รับประเคนแล้วเก็บไว้บริโภคได้ วัน

 

อานิสงส์ของการจ าพรรษา

(ปี 55) ภิกษุอยู่จ˚าพรรษาครบ เดือนจนได้ปวารณา ย่อมได้อานิสงส์แห่งการจ˚าพรรษาอะไรบ้าง?

อบ ด้ับาน อย่าง คือ

.  เทียวไม่ต้อกลตาิกี่ แห่อเจลรรคนปาจิตยกัณฑ์

.  เที่ยวจาริต้อถืเอาไรจรบ˚รับ


. ฉันคณโภชน์ และปรัมปรโภชน์ได้

. เก็บอติเรกจีวรไว้ได้ตามปรารถนา

.  จีวรอนเกิดขึ้นี่นั้น เป็นขแก่เธอ

ทั้ด้โเพื่อรานกิน และานิ นันเพิมอกไปอีก เดือนตลอเหมตฤดู

(ปี 48) ภิกษุม่ต้อ˚าผ้รจีวปคร˚รับ มีพะพุธานุญาว้นกรณีใดบ้า?

ตอบ ใน กรณี คือ

ในกรณีเข้าบ้านมีพระพุทธานุญาตไว้อย่างนี้ คือ . คราวเจ็บไข้ . สังเกตเห็นว่าฝนจะตก . ไปสู่ฝั่งแม่น˚้า . วิหารคือกุฎีคุ้มได้ด้วยดาล

. ับอานิส์พรรษา . ไดรานกิน

กรีต้อปคแรมที่มีพพุธานุญาตว้ย่างี้ คือ . ด้านิสงส์พรษา . ด้กรานก

(ปี 44) ภิกษุผู้อยู่จ˚าพรรษาไม่ขาดย่อมได้อานิสงส์เท่าไร? อะไรบ้าง?  ภิกษุพึงประชุมกันสวดพระปาฏิโมกข์ในวันเช่นไรบ้าง?

อบ ด้อานิสงส์ คือ . เที่ยปโต้อกลาิกาบที่ ห่อเจลรค  . เที่ยวาริกไม่ต้อ˚จีวรปคร˚รับ

. ฉันคณโภชน์ และปรัมปรโภชน์ได้ . เก็บอติเรกจีวรไว้ได้ตามปรารถนา . จีวรที่เกิดขึ้นในที่นั้น จักเป็นของได้แก่พวกเธอ นวัพระจันทร์เพ็ญ (ดิถีขึ้น ˚่า) วันจันร์ับ (ดิถีรม ˚่า หรือ ˚่า) ะวันามัคคี

 

อุโบสถ (สวดปาติโมกข)

(ปี 63, 60) ˚าลังสวดะปาฏ์อยู่ มีภิกุอื่เข้ามา จะพึปฏบัติอย่างไร ?

อบ ปฏิบัติอย่านี้ คือ ถ้าภิกษุผู้ข้ามาใหม่มีจ˚านวากก่า วดใหมตั้งแต่ต้น ้าม˚านวเทากันหรือน้ยกว่า ่วนี่ส้ว็ใหเป็น อันสวดแล้ว ให้เธอผู้มาใหม่ฟังส่วนที่ยังเหลือต่อไป

(ปี 59) วดปาฏโม์อยู่ ภิษุื่นาถึง หรือมาถึเมื่อสวจบ้ว พึปฏิบัติอย่า?

อบ พึปฏิบัติอย่างี้ คือ ภิกษุมาใหม่มากกว่า ภิกษุี่ปะชุมกยู่ ต้อวดตั้งต้นใหม่ เท่ากันหรือ้อยก่า ่วนี่สก็แล้วไ ห้


ภิกษุี่มาใหม่ฟั่วนี่ยังเือยู่ ้าสวดจบแล้ว ะมมากกว่าหรอยก่า ็ไม่ต้อ˚้าอีก ให้ภิกุที่มาหม่บอกปาฏิโมกข์แล้ว

(ปี 57) ทรงอนุญาตให้สวดปาติโมกข์ย่อเพราะเหตุฉุกเฉิน ๑๐ อย่าง จงบอกมาสัก อย่าง

ตอบ        . พระราชาเสด็จมา (เลิกสวดปาติโมกข์เพื่อจะรับเสด็จได้)

. โจรมาปล้น  (เลิกสวดปาติโมกข์เพื่อหนีภัยได้)

. ไฟหม้ (เลวดปติโมกขเพื่อดบไฟหรืเพื่อ้อกันได้)

. ˚้าหากมา (วดปติโข์เพื่หนีน˚้าได) ดกลแจ้ (็เหมือกัน)

. คมมมาก (วดปติโมกขพื่จะู้เตุ หรือเพื่อจด้ท˚ฏิาร ได้อยู่)

. ผีเข้าภิกษุ (เลิกสวดปาติโมกข์เพื่อขับผี ได้อยู่)


ุทิใน˚านกภิกษุผู้ฟัง


. สัตว์ร้ายมีเสือเป็นต้น เข้ามาในอาราม (เลิกสวดปาติโมกข์เพื่อไลส

. งูร้ายเลื้อยเข้ามาในที่ประชุม (ก็เหมือนกัน)


ัตว์ ได้อยู่)


. ภิกอาพาเกิดโ้าขึ้นี่ชุมุม อันเอันายแ่ชวิต (เลิกสวดาตโมข์พื่อชวย ด้) มีอัเป็ตายี่ั้็เหือนกัน

๑๐. มีอันตรายแก่พรหมจรรย์ เช่นมีใครมาเพื่อจับภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง (เลิกสวดปาติโมกข์ เพราะความอลหม่านก็ได้)

(เลือกตอบเพียง ข้อ)

(ปี 56) วัดหนึ่ง มีภิกษุยู่กัน รูป รูป รูป รูป เมื่อวันุโบปฏิบติอย่า?


อบ         มีภิก รูป ประุมกันอุโบสถ วดาติมกข์

มีภิก รูป พึุมกัน˚ุทิอุโบสถ รูปหนึ่วดกาญัติจบ้วแตรูปพึกความบริิ์ขตน

มีภิก รูป ม่ต้อตั้งญตต ความบริุทิ์แก่ันะกัน มีภิก รูป ิษาน

หรือมีภิกษุต˚ากว่า รูป ˚ฆอุโบฆ์ใอาาสอื่น วร

(ปี 54) วัดที่ไม่ิกษุผู้รงจ˚ปาติโมกขด้จนจบ ถึวันุโ วดเท่าที่จ˚ด้ ้วักสตบท (ดย่อ) โดยอ้าว่าเกิเหุฉุเฉิน ูกต้อง หรือไม? ราหตุใด? อบ ปาติโมกข์ย่อั้น ถูแล้ว แตะอ้าว่าสวดย่อเราะเดเตุฉุกฉินั้น ม่ถูกต้อง เพราย่อเนื่จากจ˚ด้ไม่หมด ทรุญว้นกหึ่ต่างหาก ม่จดเข้านเตุฉุกเฉิน ปร

(ปี 53) วัดหนึ่ง ้ามีภิกุจ˚าพรษา ูป รูป รูป หรือ เมื่อวันุโบปฏิบติอย่า?

ตอบ รูปพึงประชุมกันในโรงอุโบสถสวดปาติโมกข์

รูปพึประุมกัน˚ริุทิอุบสดังนี้ ประุมกันรงุโบแล้วรูปหนึ่ดปะกาศตต แล้วแต่ละรูปพกความริุทตน

รูปม่ต้อตั้งญตต กควาบริุทิ์แก่ันแะกัน

รูปพึิษาน

( 51) การท˚ุโถสวดาติ จากวัจันทร์เพ็ญะพระจันดับแล้ว ทรุญตให้ท˚าได้ใวันดอีก? อุโบสเช่นั้น ียกว่า อะไ? อบ วันี่ภิกษุผู้แตกกนปรอดอกันได  เรีย่า มัคคีอุโบ

( 49) การท˚ุโบภิกษุ ารวดปฏิมกข์ รบกควมบริสุทิ์ะกรอธิฐาน ทรให้˚าได้ในก?

ตอบ ในกรณีที่ภิกษุประชุมกันตั้งแต่ รูปขึ้นไป ตรัสให้สวดปาฏิโมกข์

ถ้ามีเพียง รูป รูป เรยกว่าค ให้บอกความบรุทิ์ขตนแก่กัแลกัน

ถ้ามีรูปดียวเกว่าบุค ห้อิษาน คืคิดว่าวันี้เป็นวันโบ

( 47) อาาสแห่หนึ่มีภิกษ˚าพรรษาแรก รูป รษาหัง รูป เมื่อวันวาณาแรก (เพญเดือน ) ะวันปัง (เพ็ญเดือน

) เธอั้ง รูปนั้ ปฏิบัตย่างไ?


อบ เมื่อวันวาราแรก ุมกันั้ง รูป้ว ตั้งสังฆริุทิอุโนส˚นักภิก รูปนั


ติ ภิกษุผู้จ˚าพรรษาแรก รูปพึงปวารณา เมื่อเสร็จแล้วภิกษุอีก รูปพึงท˚าปา


เมื่อวันวารหลัง ประกัน รูปเช่วกัแล้ว ภิกษู้จ˚าพรรษาแรก รูป ตั้งญัติสดปาฏมกข์ เมื่อจบ้วภิกษุ รูป พึง ปวารณาในส˚านักภิกษุ รูปนั้น

(ปี 46) ภิกษุประุมกัวดพาฏิ์ใวันเ่นไบ้า? ˚าลวดพระปโม์คอยู่ หากมภิกษุื่นมาถึเข้าจะฏิบัติอย่า?

อบ วันจันร์พ็ญ (ดิถีขึ ๑๕ ˚่า) ันจันร์ับ (ดิถี ˚่า รือ ˚่า) ะวัามัคคี ปฏิบัติอย่างนี้ คือ ถ้าภิกษุผู้เข้ามาใหม่มากกว่าภิกษุผู้ชุมนุม ต้องสวดตั้งต้นใหม่

ถ้าเท่าัน หรือ้อยก่า ส่วนี่ส้ว็ให้เป็นันสวด้ว ให้เอผู้มาใหม่ัง ส่วนี่ยังเลือต่อไป

(ปี 46) ฆปว คื? ˚าบอปาริุทิว่าย่าง?

ตอบ คือ ปวารณาเป็นการสงฆ์ มีภิกษุประชุมตั้งแต่ รูปขึ้นไป

ว่าดังี้       ˚าหรัู้แก่รษากว่า่า ปริุทโธ ˚ าวุโส ปรุทโธติ ˚ ธา ว่า หน ˚าหรู้อ่ษาว่า่า ริฺโธ อห˚ ภนฺเ ปรุทฺโธติ ˚ ว่า หน

(ปี 45) ู้ท˚ะอาการที่˚ าร˚ุโบ มีะไรบ้าง? การท˚ุโบต้อพร้อมด้วยอค์ย่างไบ้า?

อบ ู้ท˚ามี คือสงฆ์ บุคคล าการที่˚มี คืปาฏิโมกข์ กความริุทิ์ ิษาน


พร้อมด้วยอค์ คือ                    . วันั้นเป็นวุโสถี่ ๑๔ หรือามัคคี วันดวันหนึ

. ภิกษุผูเข้าปะชุมครบอค์ปุม คือตั้แต่ รูปขึ้นไป

. พวกเธอไม่ต้องสภาคาบัติ

. บุคคลที่จ˚าต้องเว้น ไม่มีในที่ประชุมนั้น

(ปี 44) ภิกษุผู้อยู่จ˚าพรรม่ขดย่อมด้อานิสงสเท่า? อะรบ้า? ภิกษุประุมกันสวดปาฏโม์ใวันเ่นไบ้า?

อบ ด้อานิสงส์ คือ . เที่ยปโดม่ต้อกลิกาบที่ ห่อเจลรค                                             . ที่ยจาริกไต้อ˚าไรจีวปครับ

. ฉันคน์ แลปรัมภชน์ได                      . เก็บอตกจีวว้ด้ตปรา                     . จีวรที่เกขึ้ที่ั้น จักเป็นขด้แก่พเธอ วันจันร์พ็ญ (ดิถีขึ้น ˚่า) วันจันร์ับ (ดิถรม ˚่า หรือ ˚่า) ะวันามคคี

 

·        บุพพกรณ์และบุพพกิจ

(ปี 58, 52) บุพพกรณ์และบุพพกิจ ในการท˚าอุโบสถสวดปาตโมกข์ ต่างกันอย่างไร ?

อบ ต่างกัอย่านี้ บุ์เปนกิจี่ภิกษุ˚ก่นแต่ประุมฆ์ มีกวาดบริเ ี่ประเป็นต ่วนุพกิจเป็นกิจี่ภิกษพึ˚ก่นแต่ วดปาตโม มีน˚ริุทขอุผู้อาาธมาเป็ต้น

(ปี 52) ในวัดที่มีภิกษุ รูป เมื่อถึงวันอุโบสถ จะต้องท˚าบุพพกรณและบุพพกิจหรือไม่ เพราะเหตุไร?

อบ บุ์นั้นเปนกียะ ะต้อ˚าเพราต้อปปะชุมกันามกิจ ส่วนบุิจนั้นม่ต้อ˚พราะษุ รูปม่ต้อวดาติมกข์

(ปี 50) การท˚ุโบวดปโม์นั้น มีบุพกิจะไรบ้า? ะภิกุอาจต้ออาบัติถลลัจจยด้วื่ออะไ?

อบ บุิจ มีดังนี้ . ˚าปาริิขุผู้อพามา  . ˚าฉัทะขเธอมาด้วย  . ดู                                                 . นับภิกษุ         . ั่นาุณีฯ ื่อที่่า รู้อยู่ว่าจะมภิกษุื่นาร่วมท˚ุโถด้วยอีก ต่นึกว่า ่าเป็นไ แลวด ปรับอาติถุลจัย

 


·        องค์ประกอบของการสวดปาฏิโมกข์

(ปี 47) การตั้งญัตติกรรม ในเวลาท˚าอุโบสถ มีค˚าว่า ปตฺตกลล


˚ แปลว่า ความพรั่งพร้อม นั้นหมายความว่าอย่างไร?


หมายความว่า การท˚มนั้น ต้อะกอบด้วยค์ คือ .วันั้น เป็นวันุโสถี่ ๑๔ รือ หรือันสมัคคี วัใดวัหนึ. ภิกษุประชุมรบอค์ปรุม        . เธอไม่ต้อคาบัติ    . บุคคลที่คเว้นไมีในี่ประุม

 

ปวารณา

. สังฆปวารณา ภิกษุที่จ˚าพรรษาในวัดเดียวกันตั้งแต่ รูปขึ้นไป ˚าปวารณาการสงฆ์

. คณปวารณา ภิกษุที่จ˚าพรรษาในวัดเดียวกัน - รูป˚าปวารณาเป็นการคณะ

.  บุคลปว ภิกษุแม้จะจ˚าพรษาอยู่เพียูป วันวาร ก็ต้อ˚การอธิฐานป ้าไม่ท˚าปรับอาบติทุก

(ปี 64, 62, 50) ปวารณา คืออะไร? มีพระพุทธานุญาตให้ภิกษุเช่นไรท˚าปวารณาได้? และท˚าในวันไหน?

อบ         คือ การบอกห้โอกาสแก่ภิกษุั้ายเพื่าราตัเตือว่ากลวตนได้ มีพระพุทธานุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จ˚าพรรษาถ้วนไตรมาสท˚าปวารณาแทนอุโบสถ วันึ้น ˚่า เดือน ซึ่เปนวัเต็ม ดือนแตวันจ˚ษา

(ปี 55) ปวารามีกี่อย่า? อะบ้า? อาาสหนึ่มีภิกุจ˚าพษา รูป เมื่อถึวันวา ปฏิบัติอย่า?

ตอบ มี อย่าง คือ สังฆปวารณา คณปวารณา และบุคคลปวารณา พึงท˚าคณปวารณา

(ปี 52) ภิกษุจ˚าพรรษาอยู่ด้วยกัน รูป รูป รูป รูปหรืออยู่รูปเดียว ถึงวันปวารณาพึงปฏิบัติอย่างไร?